หลายๆ คนอาจจะเคยได้รู้จัก Accelerator รวมถึงโครงการและเวทีการแข่งขันสตาร์ทอัพกันไปหลายโครงการแล้ว คำถามคือ แล้วเวทีสำหรับกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) ล่ะ?
เรื่องนี้หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบ แต่แท้จริงแล้วกิจการเพื่อสังคมเองก็มีเวทีประกวดสำคัญๆ โดยเฉพาะในระดับนานาชาติ มีเวทีอย่าง Chivas The Venture โดยชีวาส รีกัล (Chivas Regal) ซึ่งปีนี้เป็นปีที่สามของโครงการแล้ว และมีไฮไลท์สำคัญมากมายที่ชาว Social Enterprise ไม่ควรพลาด
“อุปสรรคสำคัญของเราคือการเข้าถึงเงินทุน เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโต อีกทั้งเรายังต้องการสร้างการทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์ที่เข้มแข็ง” คุณไผ สมศักดิ์ บุญคำ จาก Local Alike ได้เคยเล่าถึงเรื่องนี้ เมื่อถูกถามถึงความท้าทายของกิจการเพื่อสังคม
คุณไผ (ตรงกลาง) และทีม Local Alike
หากใครติดตาม Social Enterprise ในเมืองไทย คงคุ้นชื่อของ Socialgiver และ Local Alike มาบ้าง ทั้งสองเจ้าเป็นผู้ชนะเลิศ The Venture ประเทศไทยในปี 2014 และ 2015 และได้ไปเข้าร่วมแข่งต่อในระดับโลก ซึ่งจะมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 30 ประเทศทั่วโลกจะเข้าร่วมการแข่งขัน โดยผู้ชนะในแต่ละประเทศจะได้รับการอบรมโดยผู้นำทางธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงได้รับเงินรางวัลและการสนับสนุนต่างๆ มากมาย
Socialgiver ตัวแทนประเทศไทยในปี 2014
“แคมเปญนี้ก็ถือว่าเป็นเวทีสำหรับนักธุรกิจเพื่อสังคมที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศอีกเวทีหนึ่ง นอกจากเงินรางวัลสำหรับเป็นทุนในการสานต่อธุรกิจแล้ว ยังได้มีโอกาสไปอบรมกับสุดยอดนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและหาได้ยากยิ่ง” คุณอลิสา นภาทิวาอำนวย ผู้ร่วมก่อตั้ง Socialgiver กล่าว
Chivas The Venture เป็นแคมเปญระดับโลก ที่มุ่งเน้นเรื่องการส่งเสริมนักธุรกิจเพื่อสังคม โดยให้การสนับสนุนทั้งในเรื่องของเงินทุน คอนเนคชันและพาร์ทเนอร์ชิปจากนานาชาติ รวมถึงการบ่มเพาะธุรกิจแบบเข้มข้นหนึ่งสัปดาห์เต็ม ที่เรียกกันว่า Accelerator Week
“The Accelerator Week เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะได้เรียนรู้ และได้มองเห็นตำแหน่งที่ใช่ของตัวเองใน Ecosystem ของ Social Enterprise” ความคิดเห็นของ David Gluckman นักธุรกิจเพื่อสังคมจากแอฟริกาใต้ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในปีที่แล้ว
การแข่งขันในประเทศไทยเปิดให้กับบุคคลที่มีธุรกิจทั้งสองสเตจ ไม่ว่าคุณจะกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น (Start-Up Stage) หรือช่วงพัฒนา (Growth Stage)
หมายความว่าผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องมีแนวคิดและต้นแบบธุรกิจที่ใช้งานได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าเริ่มมีผู้ใช้งาน สามารถทำรายได้ต่อปีไม่เกิน US$ 500,000 (หรือเทียบเท่าในสกุลเงินท้องถิ่น); และได้จัดตั้งมาแล้วไม่เกิน 3 ปี
หมายความว่าผู้เข้าร่วมจะต้องได้ผ่านช่วงต้นแบบ และ สามารถแสดงให้เห็นได้ว่ามียอดผู้ใช้งานและยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ; และ สามารถทำรายได้ต่อปีไม่เกิน US$ 1 ล้าน (หรือเทียบเท่าในสกุลเงินท้องถิ่น); และได้จัดตั้งมาแล้วเกิน 3 ปี
ผู้ชนะจาก 30 ประเทศทั่วโลกจะได้รับการฝึกสอนจากผู้ทรงคุณวุฒิในสายธุรกิจเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ในเดือนมีนาคม หรือ เมษายน ปี 2560 ก่อนการแข่งขันรอบสุดท้าย
ผู้เชี่ยวชาญในการทำธุรกิจในสายต่างๆ จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในการทำธุรกิจ หรือทำไอเดียในการทำธุรกิจเพื่อสังคมให้เป็นจริงขึ้นมาได้
ผู้ชนะจาก 30 ประเทศจะได้รับการประชาสัมพันธ์ทั่วโลก มีโอกาสเข้าถึงแหล่งลงทุนต่างๆมากมาย
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ chivas.com/th-th/the-venture/
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด