ผลการศึกษาล่าสุดที่ Cisco นำออกเผยแพร่ระบุว่า บริษัทในอาเซียน (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) มีความมั่นใจสูงสุดเกี่ยวกับความพร้อมด้าน Digital เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
รายงานผลการศึกษาดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า Ready, Steady, Unsure – A Technology Perspective into Asia-Pacific’s Readiness for Digital Transformation (มุมมองด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับความพร้อมของเอเชียแปซิฟิกสำหรับการปรับปรุงธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล) ชี้ให้เห็นว่า บริษัทส่วนใหญ่ใน 6 ประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่สุดในอาเซียนมั่นใจว่า กลยุทธ์การปรับปรุงธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Digital Transformation ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันมีความเหมาะสมในการรักษาขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้กับธุรกิจ (94%) และบริษัทมีความพร้อมเพียงพอในการปรับใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งกระบวนการ Digital Transformation (93%) บริษัทในอาเซียนมีความมั่นใจสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (84%)
ขณะที่บริษัทต่างๆ ในอาเซียนมีความพร้อมในการเร่งกระบวนการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น แต่ระดับความเชื่อมั่นก็แตกต่างหลากหลายกันไปสำหรับแต่ละบริษัท ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า 19% ของผู้บริหารฝ่าย IT ในองค์กรขนาดใหญ่ (บริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 10,000 คน) ไม่คิดว่าองค์กรของตนมีความพร้อมที่จะปรับใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องสำหรับ Digital Transformation เปรียบเทียบกับ 7% ในบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่า ทั้งนี้เพราะบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่าและเพิ่งเปิดดำเนินงานมาไม่นานไม่ต้องแบกรับภาระเกี่ยวกับระบบรุ่นเก่าที่ล้าสมัยและฐานผู้ใช้จำนวนมาก ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ดีกว่าในการพัฒนาระบบ IT อย่างรวดเร็ว
รายงานดังกล่าวอ้างอิงผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการอาวุโสฝ่าย IT 1,325 คนในบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 500 คนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลการสำรวจความคิดเห็นเน้นย้ำว่าผู้จัดการฝ่าย IT ในอาเซียนระบุว่า Cloud , Cybersecurity, Big Dataและระบบวิเคราะห์ข้อมูล และระบบงานอัตโนมัติ เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่สุดสำหรับการสร้างอนาคตทางด้าน Digital ของธุรกิจ
คุณวิช ไอเยอร์ รองประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมของซิสโก้ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีน กล่าวว่า “การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไอทีให้ทันสมัยมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในโลกดิจิทัล โดยในปัจจุบัน 95% ของงานด้าน IT ยังคงบริหารจัดการโดยคน (manual) ส่งผลให้ฝ่าย IT ประสบปัญหายุ่งยากและต้องใช้เวลานานในการก้าวให้ทันกับความต้องการของธุรกิจและจำนวนผู้ใช้และอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น Cisco กำลังให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทต่างๆ ในการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในส่วนของเครือข่าย ระบบ Cloud ภายในองค์กรและ Cloud สาธารณะ และกรอบโครงสร้าง Cybersecurity โดยไม่เพียงแค่การอัพเกรดระบบเท่านั้น แต่รวมถึงการจัดการ ใช้งาน และปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดายมากขึ้น และบริษัทเหล่านี้ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนการโฟกัสจากการจัดการด้าน IT ไปสู่การสร้างมูลค่า นวัตกรรม และรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ”
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าความมั่นใจและการตระหนักรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่สำคัญต่อการสร้างอนาคตทางด้าน Digital ของธุรกิจจะอยู่ในระดับที่สูง แต่อัตราการปรับใช้เทคโนโลยียังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำในภูมิภาคนี้ กล่าวคือ ในบรรดาผู้ตอบแบบสอบถามในอาเซียน มีเพียง 60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เริ่มปรับใช้ Cloud Technology, 59% สำหรับ Cybersecurity, 55% สำหรับเทคโนโลยี Big Data และระบบวิเคราะห์ข้อมูล และ 48% สำหรับระบบงานอัตโนมัติ
แม้กระทั่งในส่วนของไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จของดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ปรากฏว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (47%) ยอมรับว่าองค์กรของตนใช้แนวทางป้องกันเชิงรับ และติดตั้งโซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยและทำการอัพเกรดระบบเฉพาะหลังจากที่เกิดปัญหาการละเมิดระบบรักษาความปลอดภัยแล้วเท่านั้น
ผู้บริหารฝ่ายไอทีชี้ว่า อัตราการปรับใช้เทคโนโลยีที่อยู่ในระดับต่ำเป็นผลมาจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ (47%), การขาดแคลนบุคลากร (43%) และโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ไม่เหมาะสม (42%)
แม้ว่าผู้บริหารฝ่ายไอทีส่วนใหญ่ (92%) ในอาเซียนระบุว่าบริษัทของตนได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไอทีให้ทันสมัย ทั้งในส่วนของเครือข่าย ดาต้าเซ็นเตอร์ และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ใน 3 ปีที่ผ่านมา แต่เกือบครึ่งหนึ่ง (46%) ยอมรับว่าบริษัทได้ละเลยเรื่องนวัตกรรมและบริการหลังการขาย เพื่อแลกกับราคาโดยรวมที่ถูกลง อย่างไรก็ดี การตัดสินใจโดยพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นหลักส่งผลให้ผู้บริหารฝ่ายไอทีกว่าหนึ่งในสาม (37%) ไม่กล้าตัดสินใจและไม่มั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่องค์กรมีอยู่จะสามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆได้
นายนาวีน เมนอน ประธานประจำภูมิภาคอาเซียนของซิสโก้ กล่าวว่า “ในทศวรรษหน้า นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ภูมิภาคอาเซียนและบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินงานในภูมิภาคนี้มีโอกาสดีกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะไม่ต้องแบกรับภาระที่เกิดจากโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ล้าสมัย อย่างไรก็ตาม หากปราศจากทรัพยากรที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของงบประมาณและบุคลากร บริษัทต่างๆ ก็จะมีความสามารถในระดับที่จำกัดสำหรับการวางรากฐานที่เหมาะสมเพื่อปรับใช้และพัฒนาเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการปฏิรูประบบต่างๆ ภายในองค์กร”
“นี่เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้กำหนดนโยบาย นักวิชาการ และองค์กรธุรกิจในการประสานงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาบุคลากรที่จะเป็นกำลังสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจทั้งระบบในอนาคต ที่ซิสโก้ เราภาคภูมิใจที่สถาบัน Networking Academy ของเรามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากร โดยนับตั้งแต่ที่ก่อตั้ง สถาบัน Networking Academy ได้ฝึกอบรมบุคลากรไปกว่า 885,000 คนทั่วภูมิภาคอาเซียน” นายนาวีน เมนอน กล่าวเสริม
รายงานดังกล่าวระบุข้อเสนอแนะในประเด็นต่างๆ เช่น การปรับใช้กรอบโครงสร้างไซเบอร์ซีเคียวริตี้แบบครบวงจร การปรับปรุงเครือข่ายสำหรับระบบคลาวด์ และการสร้างมูลค่าทางธุรกิจในระยะยาวโดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่แข็งแกร่ง สามารถปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น รองรับการทำงานแบบอัตโนมัติ และมีความปลอดภัยสูง
เกี่ยวกับรายงานผลการศึกษา
การศึกษาดังกล่าวของซิสโก้ดำเนินการโดยบริษัทวิจัยที่เป็นบุคคลที่สาม ซึ่งได้ทำการสัมภาษณ์ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายไอที 1,325 คนในบริษัทต่างๆ ที่มีพนักงานมากกว่า 500 คนในภาคการผลิต การศึกษา ค้าปลีก บริการด้านการเงิน ภาครัฐ และสาธารณสุข ในประเทศออสเตรเลีย จีน อินโดนีเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด