บริษัท โคคา-โคล่า ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวนกว่า 2,200 คน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในแผนการในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของบริษัทครั้งใหญ่ ซึ่งการเลิกจ้างมากกว่าครึ่งหนึ่งจะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา

การปรับเปลี่ยนโครงสร้างนี้ เดิมทีจะใช้เป็นแผนงานระยะยาว แต่ด้วยผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงในช่วงปลายปี 2562  ผนวกกับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้บริษัทต้องทำการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในครั้งนี้

ในช่วงสถานการณ์ปกติ ยอดขายจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทนั้น มาจากการบริโภคในร้านอาหารและกิจกรรมนอกบ้าน การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สถานที่ยอดนิยมต้องหยุดกิจการ อาทิเช่น ร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์ และสนามกีฬา ซึ่งทำให้ยอดขายเครื่องดื่มโคคา-โคล่าตกลงเป็นอย่างมาก

การเลิกจ้างพนักงานรอบก่อน ได้เกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยทางบริษัทได้เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถขอลาออกโดยสมัครใจ กว่า 4,000 คน และสำหรับการเลิกจ้างพนักงานครั้งนี้ ทางโฆษกของ โคคา-โคล่า คาดหวังว่าบริษัทจะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 350 ถึง 550 ล้านดอลลาร์ต่อปี 

ทางบริษัทได้เปิดเผยรายได้ในช่วงไตรมาสล่าสุด อยู่ที่ประมาณ 8.65 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงมาจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าถึง 9 เปอร์เซ็นต์ นอกจากการเลิกจ้างพนักงานแล้ว ทางบริษัทยังได้ยกเลิกการผลิตเครื่องดื่มในเครืออีกกว่า 200 ประเภท เพื่อเป็นการลดต้นทุกอีกด้วย

อ้างอิงจาก BBC