ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ในสหรัฐฯ อย่าง AT&T กลับมาดำเนินการซื้อกิจการสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Time Warners (ที่มี HBO, CNN, Warner Bros) ด้วยเงิน 85.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้ตามปกติแล้ว หลังศาลไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าดีลดังกล่าวเป็นการผูกขาดทางธุรกิจ โดยต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้

เมื่อเดือนตุลาคม 2016 บริษัท AT&T ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศว่ามีแผนจะเข้าซื้อกิจการของ Time Warner สื่อยักษ์ใหญ่ผู้มี HBO, CNN, Warner Bros และแบรนด์อื่นๆ อยู่ในมือ ด้วยเงิน 85,4000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีมูลค่ารวม 108,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อรวมกับหนี้แล้ว

ล่าสุด Richard J. Leon ข้าราชการฝ่ายตุลาการอาวุโส ของศาลแขวงแห่งสหรัฐอเมริกาประจำแขวงกลางโคลัมเบีย ระบุว่าไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการที่ AT&T เข้าซื้อกิจการของ Time Warners เข้าข่ายการผูกขาดด้านธุรกิจ จึงทำให้ AT&T เข้าซื้อกิจการของ Time Warners ได้ตามปกติแล้ว ซึ่งการตัดสินกลับลำครั้งนี้ตรงกับข่าวลือที่มีมาร่วม 2-3 สัปดาห์

คณะทำงานของประธานาธิบดี Donald Trump ถูกตำหนิหรือต่อว่าเนื่องจากมีส่วนสนับสนุนให้ดีลล่ม สาเหตุเนื่องจากพยายามสนับสนุนการระงับดีลดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นเพราะ Time Warners เองมีสื่อในเครืออย่าง CNN ที่รายงานข่าวไม่สนับสนุนการทำงานของ Trump มากนักด้วย

หลังจากนี้ดีลดังกล่าว AT&T จะดำเนินการซื้อกิจการได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้

อ้างอิงข้อมูลจาก Reuters, CNN และ TechCrunch

ความเห็นกองบรรณาธิการ

เรียกได้ว่าร้อนแรงจริงๆ สำหรับสมรภูมิสื่อในอเมริกาตอนนี้ หากดูกราฟฟิกของ CNN ที่นำข้อมูลมูลค่าบริษัทด้าน Media และ Telco จาก SEC (ตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ) มาเปรียบเทียบกัน จะพบว่าการรวมตัวครั้งนี้ไม่ใช่แค่การโฟกัสไปที่การลงไปที่สื่อบันเทิงอย่างเดียวเท่ากัน แต่ยังทำให้มูลค่าบริษัท AT&T มีขนาดใหญ่กว่า Verizon คู่แข่งผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกรายด้วย

ซึ่งในอนาคต อาจจะเป็นใหญ่ทั้งในฝั่งสื่อ และฝั่งเครือข่ายมือถือด้วย

นอกจากนี้เรายังมองว่าดีลดังกล่าวที่เกิดขึ้น จะทำให้อุตสาหกรรมสื่อในสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่นอน เพราะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับ AT&T ที่จากเดิมมีบริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ ล่าสุดกำลังจะมีสื่อในมือด้วย