หลังจากที่คุณแมทธิว ดีน ได้ออกมาเปิดเผยถึงการไปตรวจหาเชื้อไวรัสกับทางโรงพยาบาลเเล้วมีอาการยืนยันอย่างเป็นทางการเเล้วว่าตนได้ติดเชื้อ COVID-19 จริง ซึ่งปัจจุบันได้เข้ากักตัวรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเเล้ว และไม่นานมานี้ได้มีการโพสต์ผ่าน Instagram บอกเล่าเกี่ยวกับอาการของตนที่เป็นผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพื่อเป็นประโยชน์ในการสังเกตุอาการสำหรับผู้คนในสังคม Techsauce จึงได้สรุปประเด็นรวมถึง 10 อาการจากคำบอกเล่าของคุณแมทธิวมาให้ผู้อ่าน ดังนี้

อาการของผมเป็นยังไงบ้างในช่วง 6-7 วันที่ผ่านมาในการรักษาตัวที่โรงพยาบาล?

1. ในช่วงเเรกๆ ของอาการเหมือนเป็นไข้หวัดที่ไม่หนักมากและมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายเหมือนคนพึ่งออกกำลังกายหนักๆ มาจนอยากไปนวด และไข้จะเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นๆ หายๆ อยู่ระยะหนึ่ง

2. รู้สึกมีไข้สูงแต่พอกินยาแล้วไข้จะหายไปประมาณ 3-4 วันซึ่งแล้วแต่ร่างกายของเเต่ละคนด้วยเพราะเป็นช่วงที่ร่างกายยังต่อสู้กับเชื้ออยู่เเล้วจะกลับมามีอาการไข้ขึ้นสูงอีกครั้ง

3. คนที่เคยเป็นไข้หรือมีอาการเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงให้พยามยามไปตรวจซ้ำอีกครั้งเพราะอาการมีไข้แล้วเป็นซ้ำเป็นตัวชี้วัดสำคัญ และอาจกักตัวเพื่อป้องกันตัวเองเเละผู้อื่นสักระยะหนึ่งที่อาจมากกว่า 14 วัน

4. หมอไม่อยากให้ดีใจมากในเรื่องของอาการไข้ที่กินยาและรักษาตามอาการเเล้วหายเพราะว่าโรคนี้เป็นโรคใหม่แล้วหลายๆ คนก็ยังไม่เข้าใจไวรัสนี้ หมอทั่วโลกก็ยังไม่เข้าใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตเพราะฉะนั้นมันก็มีโอกาสที่จะกลับมาติดเชื้อหรือเป็นโรคนี้ใหม่อีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่มียาที่ใช้รักษาโดยตรงด้วย

5. ผมสแกนร่างกายและเจาะเลือดต่างๆ มันก็ดูปกติดีแต่เมื่อวานกลับมามีไข้ขึ้นสูงตั้งแต่ช่วงเที่ยงแล้วก็มีการคุยกับอาจารย์หมอตอนเย็นว่าเขาจะเริ่มให้กินยาประมาณ 3-4 ตัวเพื่อจะขับไล่เชื้อออกไปจากร่างกายให้เร็วที่สุด หากเลือกไม่กินยาแล้วปล่อยให้ร่างกายสู้กับเชื้อให้หายเองอาจต้องใช้เวลานาน 5-7 วันซึ่งขึ้นอยู่กับร่างกายของเเต่ละคน บางคนอาจต้องใช้เวลา 20-30 วันซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวไม่สามารถยืนยันตัวเลขได้เเน่ชัด 

6. หากเลือกไม่ทานยาเเล้วปล่อยให้อาการหายเองเราไม่รู้ว่าอาการจะดีขึ้นเองหรืออาจจะเเย่กว่าเดิมเเบบทันที หมอจึงให้ทานยา 3-4 ตัวซึ่งมียามาลาเรีย, ยา HIV และอีก 2 ตัวเป็นยามาตรฐานที่ใช้รักษา COVID-19 ที่ดีสุดในตอนนี้และทั่วโลกใช้

7. ในส่วนของความทรมานหรืออาการเจ็บปวดของโรคนี้สำหรับคุณแมทธิว คือ ความกังวลและสภาพจิตใจเพราะต้องอดทนเเละคงต้องรอเวลาที่จะสามารถรักษาให้หายขาด ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีคำตอบเเน่ชัดของการรักษาโรคนี้ หมอทั่วโลกยังไม่รู้คำตอบที่เเน่ชัดเกี่ยวกับการรักษา มันเป็นการรอคอยเเละเวลาผ่านไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีคำตอบ นอกจากนี้คือความกังวล ความเป็นห่วงคนรอบตัว และคนในครอบครัว

8. ตอนนี้ผมเก็บตัวอยู่ในโรงพยาบาลโดยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้องกักตัวก็เริ่มคิดถึงทุกคนในครอบครัว เพราะส่วนใหญ่ใช้เวลาในห้องมีเดินไปอาบน้ำและลุกขึ้นมาทานอาหารเท่านั้น

9. คำแนะนำสำหรับโรคนี้สำหรับผมก็ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญความรู้มากมายทำได้แต่ฟังจากที่หมอเล่าแล้วก็อ่านก็ศึกษาเองบ้าง ความน่ากลัวของโรคนี้คือไม่มีวิธีการรักษาที่ที่ชัดเจน 100% ก็แนะนำให้ทุกคนหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนมากมาย พยามออกไปเจอกับผู้คนให้น้อยลงมันจะทำให้โรคนี้เเพร่กระจายน้อยลง

10. สำหรับสถานบันเทิงที่มีคนรวมตัวเยอะ 5 คน 10 คน อยากให้ตำรวจช่วยดูด้วยว่ามีการปิดจริงหรือเปล่าประเทศอื่นเวลาเขาปิดก็ปิดจริงจังจริงจัง Italy เป็นประเทศที่คนเยอะและมีรายได้จากคาเฟ่ร้านอาหารมากมายก็ยังต้องทำให้ได้เพื่อป้องกันการเเพร่ระบาดของไวรัสเพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำให้ได้ครับ

สุดท้ายที่คุณเเมทธิวได้ฝากถึงคนอื่นๆ ด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากอาการของการติดเชื้อยังไม่สามารถไว้วางใจได้ เพราะในบางกรณีอาจตรวจเพียงครั้งเดียวเเล้วไม่พบ และระยะเวลาของการเเสดงอาการยังต่างกันตามสภาพร่างกาย ซึ่งช่วงสิ้นเดือนนี้จะมีคนพ้นช่วงเวลากักตัวเอง 14 วันเยอะมากหากนับตั้งแต่ผมรู้ตัวว่าติดเชื้อตั้งเเต่ 13 มีนาคมหรือว่าก่อนสิ้นเดือน 

ผมอยากบอกทุกคนว่าอย่าเพิ่งไว้วางใจกับโรคนี้อย่าเพิ่งกลับไปใช้ชีวิตด้วยความเสี่ยง โดยเฉพาะการไปเจอผู้คนมากมาย นั่นคือโอกาสที่ทำให้โรคนี้มันอยู่กับเรานานขึ้นเพราะเราไม่รู้ว่าโรคนี้จะมีอาการเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่  จะทำให้คนป่วยและคนเสียชีวิตเยอะขึ้น ถึงเเม้ผลจะออกมาว่าไม่มีเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเราต้องรักษาตัวเองอย่างน้อยในช่วงนี้ไม่ออกไปข้างนอกหรือสถานที่เสี่ยงก็ถือว่าเป็นการป้องกันตัวเองและผู้อื่นไปด้วย เพราะฉะนั้น

พยายามหลีกเลี่ยงออกไปทำให้ชีวิตตัวเองเสี่ยงควรจะใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังการที่ทำแบบนี้มันจะยื้อเวลาการเเพร่ระบาดของโรคนี้เพื่อให้มีเวลาหาวิธีการรักษา

ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ : matthew.deane1