ดร. สมเกียรติ แนะ 6 เรื่องแก้โควิด สมุทรสาคร ชี้รัฐบาลต้องตื่นตัวกว่านี้ | Techsauce

ดร. สมเกียรติ แนะ 6 เรื่องแก้โควิด สมุทรสาคร ชี้รัฐบาลต้องตื่นตัวกว่านี้

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ได้เปิดเผยข้อความผ่าน Facebook ส่วนตัวถึงประเด็นการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ที่ขณะนี้กระจายตัวเป็นวงกว้างส่งผลให้การควบคุมการระบาดในประเทศไทยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีกหลายเดือน ซึ่งจุดนี้จึงอยากให้รัฐบาลมีความตื่นตัวมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ผมได้ติดตามปัญหาการระบาดของโควิด-19 ที่สมุทรสาครและในประเทศไทยมาโดยตลอด โดยพยายามหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทั้งจากบุคลากรทางการแพทย์ ข้าราชการและฝ่ายการเมืองเพื่อให้ทราบสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แต่พบว่าทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะแหล่งข้อมูลต่างๆ ไม่ครบถ้วน และให้ภาพที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ การสื่อสารของรัฐก็ยังไม่เป็นระบบและให้ข้อมูลที่ละเอียดมากพอ ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า ภาพรวมของสถานการณ์ที่แท้จริงคืออะไร และการรับมือของประเทศไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเพียงพอแล้วหรือไม่

ผมพยายามกลั่นกรองจากข้อมูลต่างๆ ที่ไม่สมบูรณ์ดังกล่าว และเชื่อว่า การระบาดในสมุทรสาครน่าจะยังอยู่ในขาขึ้น ไม่ใช่ขาลงอย่างที่เข้าใจกัน และน่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือนในการควบคุม เพราะแม้แต่กรณีของสิงคโปร์ ซึ่งเคยมีการระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวจำนวนน้อยกว่าในประเทศไทย ก็ยังต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือนในการแก้ปัญหา ทั้งที่มีการลงทุนต่างๆ มากมายเช่น การสร้างหอพักใหม่ให้แรงงานต่างด้าวอยู่  

การระบาดในวงกว้างของโควิด-19 ที่สมุทรสาครน่าจะทำให้การควบคุมการระบาดในประเทศไทยโดยรวมต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนมาก และยากที่คนไทยจะกลับมาใช้ชีวิตในลักษณะใกล้เคียงกับความเป็นปกติ และสามารถเปิดการเดินทางกับต่างประเทศได้  ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่าจะเลวร้ายกว่าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหลายคนที่ผมได้พบเชื่อกัน  ถึงจุดนี้ ผมเชื่อว่า ยากที่เราจะสามารถควบคุมการระบาดในวงกว้างครั้งนี้ด้วยวิธีการตรวจสอบและคัดแยกผู้ติดเชื้อแบบเดิม ที่เคยประสบความสำเร็จในการระบาดรอบแรก โดยทางออกในการแก้ปัญหา น่าจะหนีไม่พ้นการใช้ตัวช่วยที่สำคัญคือ วัคซีน

ผมมีความเห็นว่า การบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยในปัจจุบัน ยังมีลักษณะเหมือนการบริหารราชการปกติ (business as usual) มากกว่าการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์เร่งด่วน เช่น ศบค. ก็ประชุมกันเพียง 2 สัปดาห์ต่อครั้ง

ผมอยากเห็นรัฐบาลตื่นตัวมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยดำเนินการดังต่อไปนี้

- เร่งตรวจสอบและคัดแยกผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาคร ด้วยความเร็วที่มากกว่านี้ โดยขอความร่วมมือจากภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในวงกว้าง หากเห็นว่าเกินกว่าขีดความสามารถของภาครัฐจะดำเนินการได้เองโดยลำพัง เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปมาก

- สื่อสารอย่างชัดเจนเป็นระบบ เช่น แสดงแผนที่การตรวจและการระบาดในสมุทรสาครทุกวัน โดยแจ้งจำนวนการตรวจ และอัตราการพบผู้ติดเชื้อ และอธิบายแนวทางในการจัดการเมื่อพบผู้ติดเชื้อแล้ว

- จัดทำและประกาศ Road Map ในการแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยโดยรวม เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทราบสถานการณ์ตามความเป็นจริง และทราบแนวทางในการร่วมกันแก้ไขปัญหา ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจและภาคประชาสังคมที่ทำงานกับแรงงานต่างด้าวสามารถช่วยรัฐบาลแก้ปัญหาได้มากขึ้น  ที่สำคัญ เมื่อภาคธุรกิจและประชาชนได้ทราบ Road Map และจังหวะเวลาในการแก้ไขปัญหาแล้ว ก็จะสามารถวางแผนธุรกิจและวางแผนชีวิตของตนได้ดีขึ้น

- เร่งจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม นอกเหนือจากส่วนที่ได้สั่งจองไปแล้ว ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศได้ และแน่นอนว่าไม่เพียงพอต่อการทำให้ทุกคนได้รับการป้องกันและมีความอุ่นใจที่จะดำเนินชีวิตตามปกติ  โดยควรตั้งเป้าให้สามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนและผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยครบทั้งหมดภายในปี 2564 นี้

- เร่งจัดทำแผนในการฉีดวัคซีนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยจัดลำดับว่าจะฉีดให้แก่กลุ่มใดก่อน (นอกเหนือจากบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง)  ในประเด็นนี้ ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของบางฝ่ายที่ว่า ควรเร่งฉีดในจังหวัดที่มีการติดเชื้อในระดับสูง เช่น สมุทรสาครก่อน โดยฉีดให้แก่แรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว โดยในกรณีของแรงงานต่างด้าว รัฐบาลอาจให้นายจ้างช่วยออกค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัคซีนบางส่วนด้วยก็ได้

- เร่งขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะส่วนที่ยังไม่มีนายจ้าง ซึ่งยังมีความคืบหน้าไม่มากนัก โดยยังน่าจะตกหล่นอยู่หลายแสนคน เพื่อให้สามารถประเมินสถานการณ์และบริหารความเสี่ยงได้อย่างถูกต้อง 

อย่างที่กล่าวมาแล้ว ความเข้าใจของผมต่อสถานการณ์ในปัจจุบันมาจากความพยายามติดตามข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์  หากผมเข้าใจประเด็นใดผิด ผมก็หวังที่จะได้รับคำชี้แจง และหวังว่า อย่างน้อยภาครัฐจะได้ทราบถึงปัญหาในการสื่อสารและปรับปรุงให้ดีขึ้น





ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

KKP คาดอสังหาฯ ไทยปี 2567 หดตัว บ้านใหม่เสี่ยงค้างสต๊อกสูงสุดใน 8 ปี หวังมาตรการใหม่ช่วยกระตุ้น

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เผย ตลาดอสังหาฯ ไทยปี 2567 ยังเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดชะลอตัวได้แก่ หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90%...

Responsive image

อีคอมเมิร์ซจีนเร่งบุกตลาดต่างประเทศ รับมือเศรษฐกิจซบเซา ผ่านแคมเปญ Singles Day

หลังจากเทศกาลช้อปปิ้งวันคนโสดปีที่แล้วที่ซบเซาที่สุดในประวัติศาสตร์ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนจึงตระหนักว่าการขยายตลาดไปต่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็น...

Responsive image

Pink Tech ไทย กำลังมา! ศูนย์ AI มธ. ชี้ กรุงเทพฯ จ่อขึ้นแท่นศูนย์กลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รายงานล่าสุด "Unlocking the Power of Pink Tech in Thailand" โดยศูนย์ AI มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ Canvas Ventures International (CVI) เผยให้เห็นศักยภาพอันมหาศาลของประเทศไทยในกา...