ไทยพาณิชย์ (SCB) เดินหน้ารุกตลาด Wealth เต็มรูปแบบ ด้วยแนวคิด ‘Your Success. Our Success.’ ความสำเร็จของคุณ คือความสำเร็จของเรา มุ่งขึ้นแท่นเบอร์ 1 ธุรกิจ Wealth ในไทยครอบคลุมทุกมิติ ภายในปี 2026 ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้าน Asset Under Advisory ครองใจลูกค้า และบริหารพอร์ตโฟลิโอโดยรวมให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2025 ไทยพาณิชย์ตอกย้ำกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ที่ใช้เดินหน้ารุกตลาดบริหารความมั่งคั่ง หนึ่งในธุรกิจสำคัญของธนาคาร และการให้ความสำคัญกับ Core Values 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) Customer Centricity 2) Hyper-Personalization และ 3) Go Global
คุณกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจบริหารความมั่งคั่งทั่วโลก และประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 6% "คาดการณ์ว่าในปี 2028 (2571) ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยจะมีสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ไทยพาณิชย์มองเห็นถึงโอกาสจากการเติบโตของตลาดและจากการเป็นสถาบันทางการเงินอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ทำให้เราสามารถต่อยอดในการทำธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) และสามารถช่วยวางแผนการเงินให้กับลูกค้าได้เต็มรูปแบบและครบวงจร ที่สำคัญธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) นับเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักที่สร้างการเติบโตให้กับธนาคาร”
คุณกฤษณ์บอกอีกว่า การดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch สร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยผลดำเนินงานด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งปี 2024 ที่ผ่านมา ยังคงมีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในทุกด้าน สะท้อนจากความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับธนาคารในการบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน Asset Under Advisory เพิ่มขึ้น 10% ยอดสินเชื่อธุรกิจกลุ่มลูกค้าเวลธ์ (Wealth Lending) และการมอบโซลูชันการดูแลบริหารจัดการ การลงทุน ความคุ้มครอง ผ่านช่องทางธนาคาร ที่ยังคงครองอันดับ 1
ขณะเดียวกัน ไทยพาณิชย์ยังคงสร้างความมั่นใจและผลตอบแทนที่โดดเด่นให้กับลูกค้าด้วยยอดขายอันดับ 1 ในผลิตภัณฑ์หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง (Structured Products) 4 ปีซ้อน พร้อม 10 รางวัลการันตีจากสถาบันระดับโลก นอกจากนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้ายกระดับประสบการณ์การบริหารความมั่งคั่งด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ผ่าน
- SCB WEALTH LINE OA
- AI Advisory Chatbot
- WEALTH4U
- MY ALERT
จากการที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และโซลูชันด้านการเงินการลงทุน ไทยพาณิชย์ศึกษาข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้า และพบว่าสิ่งที่ลูกค้ามองหาจากธนาคารในการดูแลและบริหารความมั่งคั่งคือ ความจริงใจ ใส่ใจ ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารความมั่งคั่ง และสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืน ด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านการเงินการลงทุนที่ครบวงจร

ปีนี้ ไทยพาณิชย์จึงวางเป้าหมายธุรกิจบริหารความมั่งคั่งภายใต้แนวคิด ‘Your Success. Our Success.’ ความสำเร็จของคุณ คือความสำเร็จของเรา นำเสนอโซลูชันด้านการบริหารความมั่งคั่งแบบองค์รวมโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Holistic and Customer-Centric Wealth Management Solution) ผสานศักยภาพจากบริษัทภายใต้กลุ่ม SCBX อาทิ
- บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM)
- บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX)
- บล. ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer)
และพันธมิตรชั้นนำระดับโลกกว่า 30 ราย เข้ากับขีดความสามารถในการให้คำปรึกษา (Advisory Capability) สู่การนำเสนอโซลูชันบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร
ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า SCB WEALTH จำนวนกว่า 500,000 ราย ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ SCB PRIME, SCB FIRST และ SCB PRIVATE BANKING ทั้งด้านเป้าหมายชีวิต และเป้าหมายด้านการลงทุน โดยไทยพาณิชย์ยึด 3 กลยุทธ์หลักอันเป็นหัวใจสู่ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ได้แก่

1. Customer Centricity: คิดจากคุณ เพื่อความสำเร็จในแบบเฉพาะคุณ
มุ่งเน้นเป้าหมายและความต้องการของลูกค้าแต่ละช่วงชีวิตอย่างลึกซึ้ง และยึดผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นที่ตั้ง โดยคัดสรรผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เหมาะสมในทุกมิติ ด้วยบริการวางแผนกับที่ปรึกษาด้านการบริหารและต่อยอดความมั่งคั่งมืออาชีพ โดยนำเสนอโซลูชันผ่าน 3 แนวคิดใหม่ ดังนี้
- ลูกค้ารู้สึกไม่เป็นธรรม เมื่อต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียม แม้ตลาดติดลบ นำเสนอแนวคิดใหม่ของการลงทุน No Gain No Pay ไม่เก็บค่าธรรมเนียมหากมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งหลังจากเปิดตัวเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีจนสามารถบรรลุเป้าหมายภายที่วางไว้ภายใน 1 เดือน 13 วัน จากที่ตั้งเป้าไว้ 8 เดือน
- ลูกค้ามีความกังวลเรื่องตลาดผันผวน นำเสนอแนวคิด Capital Protected Fund การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ลดการขาดทุนเงินต้น พร้อมผลตอบแทนที่สูงกว่าการเงินทั่วไป ด้วยยอดขายตั้งแต่ปี 2024 จนถึงปัจจุบัน กว่า 1 แสนล้านบาท
- ลูกค้าไม่รู้ว่าจะวางแผนการลงทุนให้ครอบคลุมทุกมิติได้อย่างไร นำเสนอแนวคิด Holistic Advisory Solution ออกแบบโซลูชันการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลที่ตรงตามความต้องการที่หลากหลาย อาทิ การต่อยอดทางการเงิน การดูแลบริหารจัดการความคุ้มครอง รวมถึงการส่งต่อความมั่งคั่ง เพื่อสร้างผลลัพธ์ความสำเร็จที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
2. Hyper-Personalization: ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อคุณโดยเฉพาะ
ยกระดับประสบการณ์การบริหารความมั่งคั่งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารายบุคคล ผสานศักยภาพของผู้เชี่ยวชาญเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ในการดูแลลูกค้าอย่างตรงใจและไร้รอยต่อในทุกมิติ

3. Go Global: ทุกที่ที่มีโอกาส เราให้คุณไปถึงได้ทั่วโลก
เปิดโลกการลงทุนสู่ตลาดโลก พร้อมต่อยอดความมั่งคั่งด้วยโซลูชันทางการเงิน การลงทุน และยกระดับการให้คำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ SCB WEALTH เข้ากับพันธมิตรระดับโลก อาทิ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ และล่าสุดจับมือ BlackRock ผู้นำทางการลงทุนระดับโลก ในการนำเสนอโซลูชันด้านการลงทุนสำหรับลูกค้าไทยพาณิชย์โดยเฉพาะ ภายใต้แนวคิด กองทุนผสมแนวคิดใหม่ ซึ่งประกอบด้วยสินทรัพย์ดั้งเดิมและสินทรัพย์ทางเลือก
โดยคุณกฤษณ์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไทยพาณิชย์จับมือกับ BlackRock เพื่อดำเนินการ 5 เรื่อง ดังนี้
- 1 จะมี Exclusive Product ที่ไทยพาณิชย์วางแผนร่วมกับ BlackRock เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์และลูกค้าในกลุ่ม SCBX
- 2 จะทำ Co-Brand Research เป็นงานวิจัยที่ไทยพาณิชย์ทำร่วมกับ BlackRock
- 3 จะทำสิ่งที่ตอบโจทย์ Digitalizarion โดยร่วมนำเสนอสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับธุรกิจ WEALTH ให้ลูกค้าได้แบบ End-to-End
- 4 จะร่วมพัฒนาศักยภาพของบุคลากรที่ดูแลลูกค้า เพื่อช่วยให้มุมมองด้านการลงทุนของ RM (Risk Management) รอบด้านมากขึ้น
- 5 จะเป็นเพื่อนคู่คิด เพราะในโลกที่มีความผันผวน หากธนาคารมองโจทย์คนเดียว ไม่มีเพื่อนคู่คิดหรือไม่มีเพื่อนที่จะมาช่วยบริหารความเสี่ยง ธนาคารอาจสร้างความเสี่ยงกับลูกค้าเพิ่มได้
“ทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญของไทยพาณิชย์ ในการเป็นธนาคารที่เป็นอันดับหนึ่งด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย ภายในปี 2026 ด้วยการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน Asset Under Advisory เติบโต Double Digit จากสินทรัพย์การลงทุนภายใต้ธีม Customer Centricity เติบโตกว่า 2 เท่า ลูกค้า Active ด้านการลงทุนผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มกว่า 30% และสินทรัพย์การลงทุนสกุลเงินต่างประเทศเติบโตกว่า 180,000 ล้านบาท ขณะที่ยังคงสร้างความพึงพอใจของลูกค้า และรักษาผลตอบแทนสะสมที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าเหนือกว่าตลาดอย่างต่อเนื่อง” คุณกฤษณ์กล่าวทิ้งท้าย