Elon Musk ออกมาประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ตอนนี้ทาง Tesla ขอหยุดรับ Bitcoin ในการซื้อรถยนต์ของบริษัทเป็นการชั่วคราว เหตุผลเพราะเป็นกังวลเรื่องทรัพยากรที่ใช้ในการขุด Bitcoin และกลัวจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ซึ่งหลังจากมหาเศรษฐีทวิตแจ้งข่าวนี้ได้เพียงไม่กี่นาที ราคาของ Bitcoin ก็ลดลงไปถึง 5% ทั้งที่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งๆ ที่ผ่านมาทาง Tesla เพิ่งเปิดให้มีการซื้อขายผ่าน Bitcoin และลงทุนไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ตอนนั้นราคาสกุลเงินดิจิทัลชนิดนี้พุ่งขึ้นสูงมาก

นอกจาก Bitcoin แล้ว Musk ยังให้ความสนใจกับอีกหนึ่งสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งก็คือ Dogecoin ที่ล่าสุดได้ใช้ในโครงการ DOGE-1 to the moon ภารกิจไปดวงจันทร์ 

อย่างไรก็ตามในทวิตของ Musk ก็ได้บอกไว้ว่า ทาง Tesla จะยังไม่ขาย Bitcoin แต่จะรอเวลาให้มีการพัฒนาปรับปรุงการดำเนินธุรกรรมผ่าน Bitcoin ว่าจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ Tesla ยังมองหาสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่ใช้พลังงานน้อยกว่า Bitcoin ในการทำธุรกรรม เพราะอย่างไรก็ตามสกุลเงินดิจิทัลนี้จะเป็นสกุลเงินของโลกอนาคต

ความเห็นของกองบรรณาธิการ

ในประเด็นน่าชวนคิดว่า การทำลายสิ่งแวดล้อมที่ว่านั้น อาจจะหมายถึงพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการขุด หรือทำธุรกรรม Bitcoin มาจากพลังงานฟอสซิล แต่ปัจจุบัน หลายประเทศทั่วโลก ได้ลดบทบาทของฟอสซิลลง เพื่อหันมาใช้พลังงานทดแทนในการผลิตไฟฟ้าเพื่อลดโลกร้อนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Tesla เอง ก็เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามหาศาลเช่นกัน ดังนั้นถ้าการใช้พลังงานไฟฟ้า จะสะอาด โดยเฉพาะกับรถยนต์ ก็ต้องขึ้นกับแหล่งที่มาพลังงานที่ใส่เข้าไปเช่นกัน 

ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่า การที่ Elon Musk ออกมาประกาศเช่นนี้ เป็นเพราะเหตุผลแค่เรื่องทำลายสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียวหรือไม่ ที่ผ่านมาความเคลื่อนไหวของ Elon Musk ดูเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเปราะบางของตลาด cryptocurrency 

อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนก็ต้องติดตามและศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก 

อ้างอิง: CNBC