DHL Express จับมือ Eviation เตรียมใช้เครื่องบินไฟฟ้า ขนส่งสินค้าเป็นครั้งแรกของโลก | Techsauce

DHL Express จับมือ Eviation เตรียมใช้เครื่องบินไฟฟ้า ขนส่งสินค้าเป็นครั้งแรกของโลก

DHL Express ผู้นำด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ และ Eviation ผู้ผลิตเครื่องบินไฟฟ้าระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองซีแอตเทิล ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับอุตสาหกรรมการบินด้วยการประกาศว่า DHL จะเป็นลูกค้ารายแรกที่สั่งซื้อเครื่องบินไฟฟ้า Alice จำนวน 12 ลำ จาก Eviation เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า ในการร่วมมือกันครั้งนี้ DHL ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในการสร้างเครือข่ายการขนส่งด่วนด้วยเครื่องบินไฟฟ้าและบุกเบิกการบินอย่างยั่งยืน เครื่องบิน Alice ของ Eviation เป็นเครื่องบินที่ใช้ไฟฟ้าทั้งลำระดับแนวหน้าของโลก ซึ่งจะช่วยให้สายการบินขนส่งสินค้าและผู้โดยสารสามารถปฏิบัติงานได้โดยไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ Eviation คาดว่าจะสามารถส่งมอบเครื่องบินไฟฟ้า Alice ให้กับ DHL Express ได้ในปี 2024

“เราเชื่อมั่นในอนาคตของโลจิสติกส์ที่ปลอดก๊าซเรือนกระจก” John Pearson, CEO ของ DHL Express กล่าว “ดังนั้น การลงทุนของเราจึงเป็นไปตามเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์เสมอ ในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์สะอาดนั้น การนำไฟฟ้าเข้ามาใช้ในทุก ๆ โหมดการขนส่งถือเป็นหัวใจสำคัญ และจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ DHL Express ก่อตั้งในปี 1969 และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมการบินมานานหลายทศวรรษ และตอนนี้เราได้ร่วมมือกับ Eviation ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่สมบูรณ์แบบที่มีวัตถุประสงค์ในการทำงานแบบเดียวกับเรา การร่วมมือครั้งนี้จะพาเราก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการบินอย่างยั่งยืน” 

เครื่องบินไฟฟ้า Alice ขับเคลื่อนได้ด้วยนักบินเพียงคนเดียว สามารถขนของได้ 1,200 กิโลกรัม (2,600 ปอนด์) โดยใช้เวลาชาร์จพลังงาน 30 นาทีหรือน้อยกว่า ต่อการบินหนึ่งชั่วโมง และมีระยะบินไกลสุด 815 กิโลเมตร (440 ไมล์ทะเล) Alice จะปฏิบัติการในทุกส่วนแทนที่เครื่องแบบลูกสูบและใบพัดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทันสมัยของ Alice มีชิ้นส่วนที่ถอดได้เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งทำให้เครื่องนี้ยิ่งทรงประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา เครื่องบิน Alice ยังมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยตรวจจับประสิทธิภาพการบินเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องบินกำลังบินด้วยประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

“นับตั้งแต่วันแรก เราได้ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายเพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการบินและสร้างศักราชใหม่ด้วยเครื่องบินไฟฟ้า” Omer Bar-Yohay, CEO ของ Eviation กล่าว “การได้ร่วมมือกับบริษัทอย่าง DHL ซึ่งเป็นผู้นำด้านการขนส่งสินค้าอย่างยั่งยืน คือบทพิสูจน์ว่ายุคสมัยของพลังงานไฟฟ้าขึ้นอยู่กับพวกเรา การประกาศความร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นก้าวย่างสำคัญของการพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับอนาคตการบินโลก” 

เครื่องบินไฟฟ้านี้เหมาะสำหรับลำเลียงสิ่งของและยังใช้เงินลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสถานีน้อยกว่า เครื่องบิน Alice สามารถชาร์จไฟฟ้าขณะแวะโหลดของหรือนำของลงได้ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าการส่งมอบสินค้าตามตารางเวลาขนส่งที่กำหนดในมาตรฐานของ DHL จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว

“ผมขอชื่นชม Eviation ที่พัฒนาเครื่องบินที่ใช้ไฟฟ้าทั้งลำอย่าง Alice ขึ้นมา” Travis Cobb ผู้บริหารระดับสูงด้าน Global Network Operations and Aviation ของ DHL Express กล่าว “ด้วยระยะการบินและพื้นที่บรรจุสินค้าสำหรับขนส่งขนาดนี้ Alice คือโซลูชั่นเพื่อความยั่งยืนที่ตอบโจทย์เครือข่ายระดับโลกของเรา เป้าหมายของเราคือพยายามลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งความก้าวหน้าด้านการบินและเทคโนโลยีเหล่านี้จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดคาร์บอนให้ได้มากขึ้นในอนาคต นี่คือย่างก้าวสำคัญสำหรับเราและลูกค้าของเรา เพื่อการเดินทางโดยปราศจากคาร์บอน และยังเป็นความก้าวหน้าสำหรับอุตสาหกรรมการบินโดยรวมด้วย” 

Eviation ชูนวัตกรรม ประสิทธิภาพ และความยั่งยืนเป็นธงชัยในการดำเนินธุรกิจ และเปิดศักราชใหม่ให้กับวงการการบินด้วยการสร้าง Alice เครื่องบินที่ใช้ไฟฟ้าทั้งลำขึ้น โดย Alice ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้งานทั้งในด้านการขนส่งสินค้าและขนส่งผู้โดยสาร และจะขึ้นบินเป็นครั้งแรกในปีนี้ 

“ครั้งต่อไปที่คุณสั่งซื้อสินค้า On-demand ลองเช็คดูก่อนว่าสินค้าของคุณขนส่งด้วยเครื่องบินปลอดมลพิษอย่างที่ DHL กำลังทำอยู่หรือเปล่า” โรอี้ แกนซาสกี้ ประธานกรรมการบริหารของ Eviation กล่าว “จากการช้อปปิ้ง On-demand และการขนส่งที่เพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ Alice จะช่วยให้ DHL สามารถปฏิบัติงานได้อย่างสะอาด เงียบ และใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งความก้าวหน้าครั้งนี้จะเปิดประตูสู่โอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่าให้กับประชาคมอื่น ๆ ด้วย”

การลดคาร์บอนในการปฏิบัติงานเป็นหนึ่งในเสาหลักของแผนงานด้านความยั่งยืนฉบับใหม่ที่ DPDHL Group ประกาศใช้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2021 และภายในปี 2030 กลุ่มบริษัทจะลงทุนรวม 7 พันล้านยูโร (ในรูปแบบของเงินทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน) เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเฉพาะการลงทุนในระบบพลังงานไฟฟ้าสำหรับการขนส่งลาสไมล์ (last-mile delivery) เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน และการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ในปี 2050 ซึ่งบริษัทดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาสี่ปีแล้ว DPDHL Group จะยังคงมุ่งมั่นเพื่อบรรลุเป้าหมายระหว่างช่วงเวลาที่วางไว้ เช่น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามเป้าหมายในปี 2030 ตามความตกลงปารีส ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร Science Based Targets initiative (SBTi) เป็นต้น


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เตรียมพบกับ “Taiwan Healthcare Pavilion” โซนจัดแสดงนวัตกรรมทางการแพทย์จาก 26 องค์กรชั้นนำ ในงาน TAIWAN EXPO 2024

กลับมาอีกครั้งกับการจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่ล้ำสมัยจากไต้หวันในงาน TAIWAN EXPO 2024 ระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 บูธ...

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...