Digital Ventures (ดิจิทัล เวนเจอร์ส) ผู้ศึกษาและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดโครงการบ่มเพาะและส่งเสริมสตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างยั่งยืน Digital Ventures Accelerator Batch 1 หรือ “DVAb1” ขยายผลการสร้างระบบนิเวศสำหรับ Startup ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดึงผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการติดปีก Startup ไทย

คุณอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ Accelerator ใน  ปีแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดย Startup ที่เข้าร่วมโครงการนอกจากจะได้รับการนำเสนอเงินลงทุนสูงสุด 8.5 ล้านบาทแล้ว ยังได้มีโอกาสร่วมงานกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อต่อยอดธุรกิจ อาทิ OneStockHome ที่สร้างแพลทฟอร์มการซื้อวัสดุก่อสร้างออนไลน์ซึ่งได้รับการต่อยอดธุรกิจจากเครือซีเมนต์ไทย และ Seekster ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นหางานด้านการบริการสำหรับลูกค้าทั่วไปและ SMEs ได้รับการต่อยอดธุรกิจจาก Ananda Development ทั้งยังมี Startup อีกหลายรายที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีร่วมกับทางธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Startup

“DVA ได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากมายในหลากหลายวงการที่มาร่วมกันเพิ่มศักยภาพแก่สตาร์ทอัพ ทั้งการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์และพันธมิตรที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากหลากหลายวงการ อาทิ Baker & McKenzie, PrimeStreet Advisory, Google และ Microsoft เป็นต้น เราจึงได้จัดโครงการ DVAb1 ต่อเนื่องทันทีเพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้แก่ Startup ไทยโดยคาดหวังให้ Startup ในโครงการเติบโตไม่น้อยกว่า 2 เท่า และมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศที่ดีให้กับ Startup ในบ้านเราให้เติบโตได้จริงและยั่งยืน พร้อมทั้งเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้าองค์กรของธนาคารฯ” คุณอรพงศ์กล่าว

มุมมอง Ecosystem ของวงการ Startup ในไทย

คุณชาล เจริญพันธ์ – Head of Accelerator บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด เล่าถึง Ecosystem ของวงการ Startup ในไทยว่า ภาพของ Ecosystem ของ Startup ในต่างประเทศนั้นนั้นชัดเจนมาก เช่น อิสลาเอลที่มี Startup จำนวนเยอะมากกว่า 4500 ราย มีนักลงทุนรายใหญ่ 70 ราย ในขณะที่เมืองไทยยังมีกำลังคนน้อยเกินไป โดยมี Startup ประมาณ 600 รายเท่านั้น ในขณะที่นักลงทุนรายใหญ่ก็มีอยู่เพียง 12 ราย และ Accelerator  อีกแค่ประมาณ 5 ราย ส่วนสิ่งที่มีอยู่เยอะ คือเงินทุนที่อยู่ใน Ecosystem ของเมืองไทยซึ่งเริ่มมาจากปีที่แล้วที่กระแสเรื่อง  Funding กับ Investment มีมากขึ้น เกิดเป็นเงินลงทุนเกินหลายพันล้าน สิ่งที่ Digital Ventures ทำคือการช่วยเหลือ Startup ให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

โดยมองว่าประเทศไทยยังตามหลังสิงคโปร์กับฮ่องกงประมาณ 5 ปี ซึ่งสิ่งที่เราขาดคือความรู้ของคนที่จะมาทำ Startup เช่นการขาดแคลน Developer และการบริหารเงินจำนวนมากที่ได้รับจากนักลงทุน หาก Startup ที่มี Product มีไอเดียที่ดี และไปในทางเดียวกัน Digital Ventures ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ โดยมีความคาดหวังว่า Startup ในโครงการที่ 2 จะสามารถเติบโตได้เร็วกว่าโครงการแรก ซึ่งจะมีทีมพี่เลี้ยงจากโครงการแรกมาช่วย Startup ในโครงการที่ 2 ด้วย

“สิ่งหนึ่งที่ทำให้โครงการ Accelerator ของเราโดดเด่นคือ ทีมที่ได้รับการคัดเลือก 10 ทีมนั้น นอกจากจะได้รับเงินทุนตั้งต้นทีมละ 300,000 บาท เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ระหว่างที่อยู่ในโครงการแล้ว ยังจะได้รับความรู้ต่างๆ จากหลักสูตรที่ได้รับออกแบบและพัฒนา ให้สอดคล้องกับเป้าหมายมากที่สุดตลอด 6 เดือนเต็ม โดย 3 เดือนแรกจะปูพื้นฐานความรู้ที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจให้แน่น ด้วย Startup Essential Program โดยคุณสุรวัฒน์ พรหมโยธิน ความรู้ด้านกฎหมายโดย Baker & McKenzie และความรู้ด้านการเงินโดย PrimeStreet Advisory และ 3 เดือนหลังเราจะเร่งให้ Startup สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยโปรแกรม Growth Hacking พร้อมมีเมนทอร์พิเศษที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เหมาะสมกับธุรกิจของแต่ละทีมมาให้คำปรึกษาแบบทีมต่อทีม (Specialist & Dedicated Mentor) เพื่อให้ Startup เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนหลังจากจบโครงการ อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินลงทุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ขั้นต่ำ 1 ล้านบาทหลังจากจบโครงการอีกด้วย" คุณชาลกล่าว

Startup ที่เข้าโครงการ ยังมีโอกาสได้รับการต่อยอดทางธุรกิจทั้งจากธนาคารไทยพาณิชย์เอง และลูกค้าองค์กรของธนาคารฯ พร้อมทั้งโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การทำ Startup กับ Accelerator ชั้นนำในต่างประเทศ

โครงการ DVAb1 เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 กรกฎาคม 2560 ที่เว็บไซต์ www.dv.co.th/DVA และสามารถติดตามข้อมูลเทคโนโลยี Fintech ได้ที่ www.facebook.com/DigitalVenturesTH