เมื่อไม่นานมานี้ Disney ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกขาดทุนอย่างหนักจากปัญหาการลดลงของลูกค้าแบบสมาชิกของ Disney+ ส่งผลให้หุ้นของ Disney ร่วงลง 4.4%
Disney ประกาศรายผลประกอบการในไตรมาสแรกไม่สู้ดีนักแม้จะลดการขาดทุนกว่า 400 ล้านดอลลาร์ จากไตรมาสก่อน แต่ลูกค้าแบบสมาชิกลับลดลงในบริการสตรีมมิ่งหลักอย่าง Disney+ Hotstar ส่งผลให้หุ้นของ Disney ร่วงลง 4.4%
บริการสตรีมหลักอย่าง Disney+ ซึ่งสูญเสียลูกค้าสมาชิกถึง 4 ล้านรายในช่วง 3 เดือนแรกของปี ทำให้ยอดสมาชิกสตรีมมิ่งทั้งหมดของบริษัทลดลงเหลือเพียง 157.8 ล้านรายจาก 161.8 ล้านราย
Disney สูญเสียลูกค้า 4.6 ล้านรายสำหรับบริการสตรีมมิ่ง Disney+ Hotstar ในอินเดีย อีกทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา Disney+ สูญเสียลูกค้าสมาชิกไปถึง 600,000 ราย
การเพิ่มราคาและการลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดกลับช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของหน่วยสตรีมมิ่งของ Disney ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม แต่เมื่อสิ้นสุดไตรมาสกลับจบด้วยผลขาดทุนจากการดำเนินงาน กว่า 659 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 1,100 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อนหน้า
เหล่านักลงทุนส่วนใหญ่มองว่า Disney ควรจะเพิ่มจำนวนลูกค้าแบบสมัครสมาชิก แต่ Paolo Pescatore นักวิเคราะห์จาก PP Foresight มองว่าการสร้างสมดุลระหว่างการเพิ่มจำนวนลูกค้าและประสิทธิภาพทางการเงินไม่ใช่เรื่องง่าย
กำไรต่อหุ้นของ Disney ปรับลดอยู่ที่ 93 เซนต์ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่สำรวจโดย Refinitiv รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 2,182 ล้านดอลลาร์ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เล็กน้อยที่ 2,179 ล้านดอลลาร์
Bob Iger Chief Executive ของ Disney กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายการเสนอบริการสตรีมมิ่ง ในช่วงปลายปีนี้ด้วยแอปพลิเคชันใหม่ที่รวมการบริการของ Disney+ ที่เหมาะสำหรับครอบครัวและ Hulu ที่เหมาะสำหรับบริการความบันเทิงทั่วไป
โดยแอปใหม่นี้จะปรับปรุงประสบการณ์การรับชมสำหรับสมาชิกและเปิดโอกาสให้กับผู้ลงโฆษณามากขึ้น นอกจากนี้ตัวเลือกในการรับชมด้วยโฆษณาจะถูกเพิ่มบน Disney+ ในยุโรปภายในสิ้นปีนี้
Disney มีความพยายามที่จะสร้างธุรกิจบริการสตรีมมิ่ง แต่ธุรกิจโทรทัศน์แบบดั้งเดิม ต้องเผชิญกับอุปสรรค รายได้จากการดำเนินงานบนเครือข่ายNetwork ลดลงถึง 35% จากปีก่อนหน้าเหลือเพียง 1,800 ล้านดอลลาร์ ส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนการผลิตรายการกีฬาที่สูงขึ้นรวมถึงค่าโปรแกรมกีฬา การแข่งขัน College Football Playoffs และ NFL ที่เผยแพร่และผลิตโดย ESPN และที่ ABC กับสถานีโทรทัศน์ที่บริษัทเป็นเจ้าของกลับมีรายได้จากโฆษณาลดลง
ตอนนี้ Disney อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างและลดพนักงาน โดยคาดว่าจะลดค่าใช้จ่ายได้ 5,500 ล้านดอลลาร์
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด