Disney+ มาแน่ 12 พ.ย. นี้ในอเมริกา เผยราคาถูกกว่า Netflix ครึ่งหนึ่ง

หลังจาก Disney เปิดเผยชื่อ Streaming ของตนเองในชื่อ Disney+ ล่าสุดก็ได้เผยกำหนดการพร้อมราคาออกแล้ว โดยเปิดราคาถูกกว่า Netflix พร้อมยกทัพเตรียมขนภาพยนตร์ - ซีรีส์ของดิสนีย์ ทั้ง Marvel , Pixar , Star Wars และยังเตรียมสร้างซีรีส์ใหม่โดยเฉพาะ โดยจะยังไม่มีโฆษณาบนแพลตฟอร์ม

Disney+ (Disney Plus) เตรียมเปิดตัวที่ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกวันที่ 12 พฤษศจิกายนนี้ โดยได้เผยราคาออกมาแล้วที่  7 ดอลลาร์ต่อเดือน ถูกกว่า Netflix ครึ่งหนึ่ง ปัจจุบันแพ็คเกจ Standard ของ Netflix มีราคาอยู่ที่ 13 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งจะมีการขนซีรีส์กว่า 5000 ตอนใน Disney Channel และ 100 หนังของดิสนีย์ ในการเปิดตัวครั้งนี้

ซีรีส์และภาพยนตร์ที่จะอยู่บน Disney+

  • เนื้อหา 250 ชั่วโมง จาก National Geographic
  • Marvel ซีรีส์ ได้แก่เรื่องราวของ The Falcon และ The Winter Soldier , Loki , Wanda Maximoff กับ The Vision
  • ซีรีส์ High School Musical

ดิสนีย์ยังได้ตั้งเป้าในหนึ่งปี ให้ Disney+ มีมากกว่า 7500 episodes และ 500 ภาพยนตร์มาอยู่ในคลัง ทั้งนี้ดิสนีย์คาดหวังให้มีผู้ Subscribe จำนวน 60-90 ล้านคนทั่วโลก ภายในปี 2024 โดยปัจจุบัน Netflix มีผู้ subscribe อยู่ 139 ล้านคน

อ้างอิง recode

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...