สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรมการขนส่งทางบก ได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก เบื้องต้นใช้เชื่อมข้อมูลใบสั่ง ผู้ที่ได้รับใบสั่งค่าปรับสามารถเสียค่าปรับได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ เริ่ม 19 ธ.ค. 2562 ที่จะถึงนี้
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ด้วย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.141/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 14/2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อ 16 มี.ค. 60 กำหนดให้นายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก มีอำนาจรับชำระค่าปรับที่ค้างชำระตามใบสั่งแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ในกรณีดังกล่าวยังไม่สามารถดำเนินการให้เป็นรูปธรรมได้ เนื่องจากระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ของทั้งสองหน่วยงานยังไม่เชื่อมโยงกัน ต่อมา พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.4/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ก.ย. 62 กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน ซึ่งบัดนี้ทั้งสองหน่วยงานได้ทำการเชื่อมโยงข้อมูลกันเรียบร้อยแล้ว
โดยผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถชำระค่าปรับดังกล่าวพร้อมกับการชำระภาษีประจำปี ได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ หากยังไม่พร้อมชำระค่าปรับที่ค้างชำระตามใบสั่ง กรมการขนส่งทางบกจะออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีฉบับชั่วคราวให้ซึ่งจะใช้ได้เพียง 30 วัน และผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถไปชำระค่าปรับได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ หรือช่องทางอื่น เช่น ไปรษณีย์ทุกแห่ง เคาน์เตอร์บริการของธนาคารกรุงไทย ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย แอปพลิเคชันกรุงไทย NEXT และหน่วยบริการรับชำระเงินที่มีสัญลักษณ์ PTM (เช่น กลุ่ม CenPay และตู้บุญเติม) ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียน
แต่หากผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถเห็นว่าตนไม่ได้กระทำความผิดตามที่ระบุไว้ในใบสั่งให้ทำหนังสือโต้แย้งข้อกล่าวหานั้นภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียนขนส่ง โดยให้ส่งหนังสือโต้แย้งข้อกล่าวหาดังกล่าวทางไปรษณีย์ตอบรับไปยังสถานีตำรวจตามที่ระบุไว้ในใบสั่ง ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังพัฒนาระบบให้ประชาชนผู้รับใบสั่งสามารถโต้แย้งข้อกล่าวหาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อีกช่องทางหนึ่ง ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน คือ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ หรือเรียกชื่อย่อว่า e-Ticket เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาข้อมูล และตรวจสอบใบสั่งจราจร จำนวนค่าปรับและช่องทางการชำระค่าปรับ นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น Web service และ Application
จากการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวจะบันทึกข้อมูลการกระทำความผิดของผู้ขับขี่ บันทึกค่าปรับที่ค้างชำระตามใบสั่ง การตัดคะแนนความประพฤติของผู้ขับขี่และการพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เมื่อคะแนนหมด การระงับการใช้รถชั่วคราว
นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพัฒนาระบบของกรมการขนส่งทางบกเพื่อรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์แบบออนไลน์ และได้ทำการทดสอบการเชื่อมโยงระบบบริหารจัดการใบสั่งจราจร (PTM) ในระบบปฏิบัติงานของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งกรมการขนส่งทางบกยังคงอำนวยความสะดวกในการชำระภาษีรถประจำปีทุกกรณีเช่นเดิม กรณีผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถที่มิได้กระทำผิดและไม่มีใบสั่งตามกฎหมายจราจร หรือมีใบสั่งแต่ได้ชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้ว ยังคงสามารถชำระภาษีรถประจำปีพร้อมรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) ได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศและทุกช่องทางตามปกติเช่นเดิม โดยจะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนผู้ใช้รถทั่วไป สามารถดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีได้ตามปกติ
ส่วนกรณีที่มีใบสั่งแต่ยังไม่ได้ชำระค่าปรับเมื่อถึงคราวชำระภาษีรถประจำปีมีความประสงค์จะชำระค่าปรับในคราวเดียวกัน สามารถชำระค่าปรับพร้อมชำระภาษีรถประจำปีได้ในคราวเดียวกันได้ โดยกรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการบันทึกข้อมูลการชำระค่าปรับในระบบซึ่งเชื่อมโยงกับระบบบริหารจัดการใบสั่งจราจร ทำให้มีผลเช่นเดียวกันกับการชำระค่าปรับกับพนักงานสอบสวน ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถจะได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) ตามปกติ
ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถคันที่มีใบสั่งตามกฎหมายจราจร แต่ยังไม่พร้อมชำระค่าปรับในคราวเดียวกัน กรมการขนส่งทางบกก็ยังคงอำนวยความสะดวกให้สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ แต่จะได้รับหลักฐานแสดงการเสียภาษีประจำปีชั่วคราว ซึ่งมีอายุ 30 วันนับแต่วันที่นายทะเบียนออกให้เท่านั้น หากชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้วสามารถนำหลักฐานใบเสร็จการชำระค่าปรับมาแสดง เพื่อรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) ฉบับจริงได้ในภายหลัง อย่างไรก็ตาม กรณีที่ชำระภาษีประจำปีแล้ว แต่ไม่ชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาตามที่กำหนด เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานจราจรตำแหน่งตั้งแต่สารวัตรขึ้นไปมีหนังสือแจ้งนายทะเบียน กรมการขนส่งทางบก ให้งดออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีสำหรับรถคันนั้น และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต่อไป
อ้างอิงข้อมูล : กรมการขนส่งทางบก
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด