กรมการขนส่งทางบกเปิดตัวบริการ TAXI VIP ร่วมกับ All Thai Taxi ค่าบริการเริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท เผยใช้รถยนต์ไฟฟ้าจาก Mercedes-Benz รุ่น C350e Avantgarde มาให้บริการ หวังยกระดับการให้บริการรถแท็กซี่ทัดเทียมมาตรฐานสากล รองรับความต้องการเดินทางของผู้โดยสารได้ทุกกลุ่ม

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกเปิดตัวโครงการ TAXI OK และ TAXI VIP เพื่อหวังยกระดับการให้บริการแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่นของผู้ให้บริการจากบริษัทในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันรถแท็กซี่จดทะเบียนใหม่ทุกคันจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ตามมาตรฐาน TAXI OK ผู้ขับรถผ่านการตรวจสอบประวัติมีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะถูกต้อง

ล่าสุดได้ทำการเปิดตัว TAXI VIP ร่วมกับทางบริษัท ออล ไทย แท็กซี่ จำกัด (All Thai Taxi) ไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น. ณ ลานด้านหน้าอาคาร 1 กรมการขนส่งทางบก จตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการทันทีตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป โดยสามารถเรียกใช้บริการได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่ ผ่านแอปพลิเคชั่น TAXI OK ของกรมการขนส่งทางบก หรือแอปพลิเคชั่น ALL THAI TAXI, ผ่าน LINE @allthaitaxi และ Call Center 0-2018-9799

โดย All Thai Taxi เป็นบริการที่มาจากบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด ผู้บริการให้บริการรถทัวร์ปรับอากาศที่หลายคนคุ้นชื่อ โดยออกมาตั้งบริษัทเพื่อให้บริการแท็กซี่ในชื่อ "บริษัท ออล ไทย แท็กซี่ จำกัด"

สำหรับการให้บริการรถ TAXI VIP ทางกรมการขนส่งทางบกระบุว่า เป็นรูปแบบการให้บริการที่เป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับรองรับความต้องการกลุ่มผู้โดยสาร เช่น ลูกค้าองค์กรธุรกิจ, ธุรกิจโรงแรม, นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ที่ต้องการความหรูหราสะดวกสบายและการให้บริการในการเดินทางระดับพรีเมี่ยม

ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก พร้อมให้ การสนับสนุนและส่งเสริมทุกภาคส่วนในการร่วมกันยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยให้มีคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งล่าสุด Eco Society แจ้งความประสงค์ที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาให้บริการเป็น TAXI VIP อีกด้วย

“ยังมีผู้ประกอบการอีกหลายรายที่ให้ความสนใจต้องการเข้าร่วมโครงการ คาดว่าภายในปีนี้จะมีรถ TAXI VIP รองรับให้บริการได้อย่างเพียงพอ และรองรับความต้องการของผู้โดยสารได้ทุกกลุ่มอย่างสมบูรณ์ โดยยึดหลักถูกใจผู้โดยสาร ถูกต้องตามกฎหมาย และทุกฝ่ายยอมรับได้ เพื่อพัฒนาคุณภาพและบริการรถแท็กซี่ของประเทศให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าว

อ่านประกอบ

• Taxi(ไม่)OK : เมื่อภาครัฐจะปรับปรุง แต่ผู้ขับกลับเห็นต่าง?
• เปรียบเทียบหมัดมวย บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอป หรือ Ride-Hailing ในไทยปี 2018

รายละเอียด TAXI VIP มีดังนี้

คุณสมบัติผู้ให้บริการ TAXI VIP

• ผู้ให้บริการต้องดำเนินการในรูปแบบนิติบุคคลที่มีการบริหารงานอย่างเป็นมืออาชีพ
• มาตรฐานตัวรถต้องมีสมรรถนะสูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป เป็นรถใหม่หรือมีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี และไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร
• เสริมความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเบรกแบบ ABS และมีถุงลมนิรภัยที่นั่งตอนหน้าอย่างน้อย 1 คู่ กล่องป้ายไฟแสดงข้อความ TAXI VIP หรือข้อความอื่นตามที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการทราบว่าเป็นรถแท็กซี่แบบพิเศษ
• มีการติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบภายในรถเหมือนกับ TAXI OK ประกอบด้วย
  • ติดตั้ง GPS Tracking พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ, มาตรค่าโดยสาร, ปุ่มฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสารอย่างน้อย 1 จุด ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้และใช้งานสะดวก
  • กล้องบันทึกภาพภายในรถแบบ Snap Shot ทำงานร่วมกันได้แบบ Real-time ส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการของผู้ประกอบการ และศูนย์บริหารจัดการรถแท็กซี่ของกรมการขนส่งทางบก (DLT TAXI CENTER)
  • พร้อมบริการสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตลอดการเดินทาง เช่น น้ำดื่ม, หนังสือพิมพ์, ผ้าเย็น, บริการฟรี Wi-Fi, ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

อัตราค่าบริการ TAXI VIP

• เริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท
• กิโลเมตรต่อไปกิโลเมตรละ 12-16 บาท
• กรณีรถติดนาทีละ 6 บาท
• กรณีเรียกรถผ่านศูนย์บริการสื่อสารครั้งละไม่เกิน 50 บาท
• การจองล่วงหน้าและการจ้างจากท่าอากาศยานครั้งละไม่เกิน 100 บาท

รถยนต์ที่นำมาให้บริการ

ส่วนรถยนต์ที่ทาง All Thai Taxi จะนำมาใช้ในการให้บริการ TAXI VIP จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) จาก Mercedes-Benz รุ่น The C 350 e Avantgarde เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ภายใต้แบรนด์เทคโนโลยี EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 58 กรัมต่อกิโลเมตร และสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 33 กิโลเมตร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะบนท้องถนน