Lazada, Shopee, JD Central ขาดทุนหนัก หลังเผชิญ สงครามธุรกิจ E-commerce | Techsauce

Lazada, Shopee, JD Central ขาดทุนหนัก หลังเผชิญ สงครามธุรกิจ E-commerce

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ผู้คนนิยมใช้บริการธุรกิจ E-commerce มากกว่าเมื่อหลายปีก่อน การแข่งขันในตลาดนั้นจึงมีความรุนแรงเพื่ม และมีแคมเปญส่งเสริมการขายออกมามากมาย เป็นสาเหตุให้หลายแพลตฟอร์มต้องขาดทุน หรือปิดตัวลงไปในที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ผู้คนนิยมใช้บริการธุรกิจ E-commerce มากกว่าเมื่อหลายปีก่อน การแข่งขันในตลาดนั้นจึงมีความรุนแรงเพื่ม และมีแคมเปญส่งเสริมการขายออกมามากมาย เป็นสาเหตุให้หลายแพลตฟอร์มต้องขาดทุน หรือปิดตัวลงไปในที่สุด

ผลวิเคราะห์จาก Creden Data ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2015 - 2021 ผลกระทบจากการต่อสู้ของธุรกิจ E-commerce ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่สามรายในประเทศไทยได้รับความเสียหายจากการดำเนินงานรวมกว่า 3.9 หมื่นล้านบาท โดยยักษ์ใหญ่ของ E-commerce นั้นได้แก่ Lazada Shopee และ JD Central 

ถึง E-marketplace รายใหญ่ทั้งสามจะมีรายได้รวมกันถึง 8.5 หมื่นล้านบาท แต่หลังจากได้ทำการ burning เพื่อดึงผู้ใช้งานรายใหม่ ๆ ให้เข้ามาใช้บริการ ก็สร้างผลกระทบที่ทำให้บริษัทขาดทุนอย่างมากในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา 

สถิติการขาดทุนสู่การปรับกลยุทธ์ใหม่

ตั้งแต่ปี 2015 ถึงปี 2021 Shopee ที่สามารถทำรายได้รวมไปทั้งสิ้น 2.1 หมื่นล้านบาท กลับมีผลขาดทุนมากที่สุดในบรรดาทั้งสามบริษัทอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท รองลงมาเป็น Lazada ที่อาศัยความได้เปรียบของการเป็นผู้บุกเบิกตลาด E-commerce รายแรกทำให้สามารถสร้างรายได้ไปกว่า 5.1 หมื่นล้านบาท แม้จะมีผลขาดทุนน้อยกว่าเจ้าอื่นที่ 1.3 หมื่นล้านบาทก็ตาม แต่นี่เพิ่งเป็นปีแรกที่ Lazada พลิกกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรกที่ 226 ล้านบาท และ JD Central ที่เพิ่งจะเปิดตัวในปี 2560 นั้นกวาดรายได้ไป 1.2 หมื่นล้านบาทนั้น โดยขาดทุนไป 5.5 พันล้านบาท 

จากผลขาดทุนรวมดังกล่าวทำให้แพลตฟอร์มทั้งสามนั้นต้องปรับตัวและเพิ่มกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างกำไรจากรายได้ให้มากที่สุดในปีนี้ โดย Lazada เองก็มีการเพิ่มส่วนลดในแคมเปญต่าง ๆ และสร้างความร่วมมือกับหลากหลายแบรนด์ดังเพื่อให้บริษัทยังคงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคตลาดออนไลน์

ในขณะเดียวกัน Shopee ก็กำลังจะขยายบริการให้เป็น Super App เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเพิ่มการใช้งาน รับส่วนลดและคะแนนมากขึ้น เพื่อเพิ่มความเหนียวแน่นให้กับแพลตฟอร์มของตัวเองเช่นกัน

ดังนั้นแล้วการจะดำเนินธุรกิจ E-commerce เงินทุนสำรองที่แข็งแกร่ง และความอดทนในการแข่งขันระยะยาว รวมถึงการตลาดที่ดีย่อมเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนควรจะมีไว้เพื่อให้อยู่รอดได้ในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ 


อ้างอิง Bangkok Post  IpriceInsight  


RELATED ARTICLE

Responsive image

อิตาลีสั่งแบน ChatGPT หลังพบเก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้โดยมิชอบ เตรียมสอบ OpenAI

ล่าสุดทางการอิตาลีได้ออกมาสั่งแบน ChatGPT หลังพบมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้โดยมิชอบ ถือเป็นชาติตะวันตกชาติแรกที่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นี้...

Responsive image

VinGroup หารือขายหุ้นใน Vincom Retail ยักษ์ใหญ่วงการศูนย์การค้าเวียดนาม

กลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม VinGroup Joint Stock Company (Vingroup JSC) กำลังเจรจาหารือกันเพื่อขายหุ้นใน Vincom Retail ที่พัฒนาเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าในเวียดนาม...

Responsive image

Pepsi เปลี่ยนโลโก้ใหม่ในรอบ 14 ปี ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบในยุค 90

เป็นเวลานานกว่า 14 ปี ที่ “Pepsi” แบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศเปลี่ยนโลโก้ใหม่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบในยุค 1990 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในอเมริกาเหนือ ช่วงฤด...