Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ได้เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งอย่างกระทันหัน เพื่อหารือเกี่ยวกับการเปิดตัวซอต์ฟแวร์ขับเคลื่อนรถอัตโนมัติแบบ Full Self-Driving (FSD) ในจีน รวมถึงการขออนุญาตในการโอนย้ายข้อมูลไปยังต่างประเทศ
"รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรีหลี่เฉียง เรารู้จักกันมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของโรงงานเทสล่าที่เซี่ยงไฮ้" Elon Musk โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X พร้อมรูปถ่ายร่วมกับนายกรัฐมนตรีของจีน
ก่อนหน้านี้ Tesla ได้เปิดตัว FSD ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ Autopilot มาเป็นเวลานานกว่า 4 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดให้ใช้งานในจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก โดย Tesla มีการขายรถยนต์ในจีนไปแล้วกว่า 1.7 ล้านคันนับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดเมื่อสิบปีที่แล้ว และมีโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของบริทตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้
รายงานจาก Reuters ระบุว่า Tesla ได้รับอนุมัติตามข้อกำหนดสำคัญบางประการ ที่เคยเป็นอุปสรรคในการนำฟีเจอร์ FSD ไปใช้งานในจีน รวมทั้งยังได้บรรลุข้อตกลงกับ Baidu เพื่อขอใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับแผนที่ในจีน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสำหรับใช้งานเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติอย่าง FSD นั่นเอง
สาเหตุที่ทำให้ FSD ยังไม่สามารถใช้งานในจีนได้แบบเต็มความสามารถ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของข้อมูลในจีน โดยตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลของจีน กำหนดให้ Tesla ต้องจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมโดยรถยนต์ในจีนไว้ที่เซี่ยงไฮ้ ทำให้บริษัทไม่สามารถถ่ายโอนข้อมูลใด ๆ กลับไปยังสหรัฐฯ ได้ แต่ Elon Musk ต้องการหาวิธีที่ทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลที่เก็บได้จากในจีนไปยังต่างประเทศ เพื่อนำไปฝึกอัลกอริทึมสำหรับเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ
แม้ว่าจีนจะไฟเขียวแล้ว แต่ Tesla ยังต้องเผชิญการต่อสู้ของสงครามรถยนต์ EV ในจีน ไม่ว่าจะเป็น ราคาที่แบรนด์ EV จีนแข่งกันลดราคาจน Tesla ต้องกัดฟันร่วมสงคราม Price War และต้องเร่งออกรุ่นราคาประหยัดให้ได้ภายในปี 2025 หรือเร็วกว่านั้น
Tesla กำลังเผชิญกับยอดขายรายไตรมาสที่ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 พร้อมกับมีการลดจำนวนพนักงานไปแล้วกว่า 10% น่าติดตามต่อว่าการเยือนจีนครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทกู้สถานการณ์ที่เปรียบเสมือน ‘พายุ’ ที่กำลังก่อตัวใน Tesla ได้หรือไม่
อ้างอิง : Reuter (1), (2), Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด