ในช่วงนี้สื่อกำลังจับจ้องการเดินทางของ Elon Musk ในการขยายธุรกิจและความร่วมมือไปยังประเทศต่างๆ โดยในบทความนี้ Techsauce จะชวนไปดูประเด็นและความน่าสนใจในการเยือนแต่ละประเทศของ Elon Musk ว่ามีประเด็นอะไรเกิดขึ้นบ้าง และจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างไร

ประเทศจีน

^{Image Source : image released by China’s Ministry of Foreign Affairs May 30, 2023}

เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา Elon Musk เริ่มต้นการเดินทางไปยังประเทศจีน นับว่าเป็นการเยือนประเทศจีนในรอบ 3 ปี หลังจากแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเปิดพรมแดนของประเทศจีน ในการเยือนประเทศจีนครั้งนี้ทำให้ Elon Musk ได้พบข้าราชการระดับสูงของประเทศจีนอย่าง Qin Gang รัฐมนตรีการต่างประเทศของจีน ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงศักยภาพของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในประเทศจีนว่า 

“มีโอกาสในการพัฒนาในวงกว้าง” และยินดีที่จะขยายตลาดของ Tesla ในจีนมากขึ้น อีกทั้ง Elon Musk ยังได้พบกับ Jin Zhuanglong รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับ ‘การพัฒนารถยนต์พลังงานใหม่และยานพาหนะเครือข่ายอัจฉริยะ’ 

รวมไปถึง Chen Jining เลขาธิการพรรคเซี่ยงไฮ้ ในการเข้าเยี่ยมชม Tesla’s Gigafactory โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเช่นกัน

ยังมีการรายงานความสนิทสนมของ Elon Musk และนักการเมืองระดับสูงของจีน หลังการปรากฎตัวของ Ding Xuexiang รองนายกรัฐมนตรีของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศที่ Elon Musk เข้าพบ Elon Musk ยังเข้าพบผู้บริหาร Zeng Yuqun ประธาน CATL บริษัทแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกและซัพพลายเออร์ของ Tesla ด้วย ซึ่งก่อนหน้านั้นมีรายงานว่า CATL และ Tesla กำลังหารือที่จะสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาด้วย

“มันน่าประทับใจอย่างเหลือเชื่อที่คุณเอาชนะความยากลำบากและความท้าทายมากมายได้” 

“ผมบอกผู้คนทั่วโลกว่ารถยนต์ที่เราผลิตที่นี่ไม่ใช่แค่การผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ยังมีคุณภาพสูงสุดด้วย” Elon Musk กล่าว

ประเทศอิตาลี

^{Image Source : Giorgia Meloni's Twitter}

สำหรับอิตาลีถือเป็นการเดินทางเยือนก่อนที่ Elon Musk จะเดินทางต่อไปยังฝรั่งเศสสำหรับงาน VivaTech ที่ฝรั่งเศส ในการเยือนครั้งนี้ Elon Musk ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีหญิงของอิตาลี Giorgia Meloni และพูดคุยกันในประเด็น

“นวัตกรรม โอกาสและความเสี่ยงของปัญญาประดิษฐ์ European’s Market Regulations และ Birth Rates”

ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ Elon Musk เคยออกมาพูดไว้หลายครั้งถึงความเสี่ยงของปัญญาประดิษฐ์ “หนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่ออนาคตของอารยธรรม” รวมไปถึงเรื่องของอัตราการเกิดของประชากรที่ลดลงก็ถือว่าเป็น “หนึ่งในความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่ออารยธรรม”

การพบปะกับนายกรัฐมนตรีอิตาลี มีขึ้นในขณะที่บรรดาผู้นำในยุโรปพยายามโน้มน้าวให้ประธานบริษัท Tesla สร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในประเทศของตน

ประเทศฝรั่งเศส

^{Image Source : Electrek}

การเดินทางต่อมาของ Elon Musk คือการเข้าร่วมงาน VivaTech ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยขึ้นบรรยายในหัวข้อเกี่ยวกับ ‘AI และ Twitter’  นับว่าเป็นที่น่าจับตามองว่า Elon Musk จะพูดอะไรบ้างในงานนี้

AI ยังคงเป็นปัญหากับมนุษยชาติ

"ผมคิดว่ามีอันตรายอย่างแท้จริงสำหรับ Digital Superintellingence ที่มีผลกระทบในทางลบ ดังนั้น หากเราไม่ระมัดระวังในการสร้างปัญญาประดิษฐ์ เราอาจได้รับผลลัพธ์ที่เป็นหายนะ”

"เราจำเป็นต้องลดความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อผิดพลาดกับ Digital Superintelligence project"

Elon Musk กล่าว

ซึ่ง Elon Musk ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎระเบียบของ AI เนื่องจาก "อะไรก็ตามที่มีความเสี่ยงต่อสาธารณะจำเป็นต้องมีผู้ตัดสิน"

การเยือนปารีสครั้งนี้ ตรงกับที่สมาชิกสภานิติบัญญัติของ Brussels ลงมติสนับสนุนกฎหมาย AI ของสหภาพยุโรป (European’s AI regulations) ในสัปดาห์นี้เช่นกัน 

Elon Musk กล่าวเสริมในภายหลังว่า "AI อาจเป็นเทคโนโลยีที่ disruptive มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา" 

ทิศทางของ Twitter 

อีกหนึ่งในหัวข้อร้อนแรงที่ทำให้ผู้คนสนใจคือการเข้าซื้อกิจการ Twitter มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเหตุผลก็เป็นเพราะระดับปฏิสัมพันธ์ที่เขามีกับกลุ่มผู้ติดตามกว่า 143 ล้านคนของเขา เขาจึงรู้สึกว่า 'เข้ากันได้ดี' กับแพลตฟอร์มนี้

Elon Musk กล่าวกลับผู้ชมในงาน VivaTech ว่า “โดยทั่วไปแล้ว ผมกังวลถึง Twitter ว่ามันมีผลกับ civilization ซึ่งมีผลต่อภาคประชาสังคม อะไรก็ตามที่มีผลกระทบต่อ civilization ผมคิดว่ามันไม่ค่อยดี”

แม้ว่า Elon Musk จะสนับสนุนกฎระเบียบในการควบคุม AI เพราะเชื่อว่ามีความเสี่ยงต่อมนุษยชาติ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ต่อต้านการควบคุม Twitter ของแต่ละประเทศ เพราะเขาให้เหตุผลว่า 'มีผลเสียต่อเสรีภาพในการพูด' เช่นเดียวกัน

Elon Musk พบประธานาธิบดี Emmanuel Macron

หลังจากการประกาศวางแผนสำหรับ Tesla Gigafactory ที่จะถูกสร้างขึ้นในยุโรป Elon Musk ได้เดินทางเข้าพบ Macron ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส เพื่อหารือในเรื่องของ ‘การลงทุนที่สำคัญ’ ที่มีศักยภาพในฝรั่งเศส  ท่ามกลางข่าวลือที่ว่าโรงงาน Tesla จะตั้งในฝรั่งเศส 

Macron กล่าวว่าในการพูดคุยกับ Elon Musk นั้นเป็นเรื่องของ AI และ พลังงาน แต่ก็ไม่ได้ปิดบังในความจริงที่ว่ากำลังเจรจาเพื่อให้ Elon Musk สร้างโรงงานของ Tesla ในฝรั่งเศส ซึ่งทาง Tesla เองก็อาจจะกำลังพิจารณาถึงข้อเสนอนี้เช่นเดียวกัน สำหรับการสร้าง Tesla Gigafactory ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนี้ เพราะ Tesla ได้วางแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ให้ 20 ล้านคันต่อปี จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างโรงงานอีก 2-3 แห่ง

แต่ทั้งนี้ ก็มีความกังวลเกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำงานของ Tesla ที่อาจจะขัดแย้งกับวัฒนธรรมการทำงานแบบสหภาพแรงงานของฝรั่งเศส แต่ Tesla อาจจะไม่ได้กังวลเรื่องนั้นแล้วหลังจากสร้าง Gigafactory ใน ฺBerlin ที่มีสหภาพแรงงานเช่นกัน

The Power Lunch

‘Power Lunch’ ถือเป็นนิยามใหม่ของการพบกันระหว่าง 2 บุคคลที่รวยที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นการพบกันระหว่าง Elon Musk และ Bernard Arnault CEO ของ LVMH 

ทรัพย์สินของ Bernard Arnault มีมูลค่า 2.02 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจาก Elon Musk ที่มีมูลค่า 2.33 แสนล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Bloomberg Billionaires Index แต่ Elon Musk เสียตำแหน่งนี้ให้ Bernard Arnault เมื่อปีที่แล้ว แต่ราคาหุ้นของ Tesla ที่พุ่งสูงขึ้นในปีนี้ทำให้เขากลับมาอยู่ในอันดับต้นๆ อีกครั้ง

มีรายงานว่า Bernard Arnault บอกกับ Quotidien สถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศสว่าเขาคิดว่า Elon Musk เป็น ‘ผู้ประกอบการที่ยอดเยี่ยม’ แต่รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันในมื้อกลางวันยังไม่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ก่อนที่จะ Elon Musk จะขึ้นเวที VivaTech

ประเทศอินเดีย

^{Image Source : Narendra Modi's Twitter}

การพบกันระหว่างนายกรัฐมนตรี Narendra Modi กับ Elon Musk มีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter กล่าวหาว่าอินเดียขู่จะปิดแพลตฟอร์มเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ลบเนื้อหาออกจากเว็บไซต์ ข้อกล่าวหาของ Jack Dorsey  ซึ่งให้สัมภาษณ์กับรายการข่าวอิสระ ได้รับการปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวจากรัฐบาลอินเดีย ซึ่งเรียกว่า ‘โกหกโดยสิ้นเชิง’

Elon Musk แสดงความคิดเห็นในเหตุการณ์ดังกล่าวและกล่าวว่า Twitter ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อฟังรัฐบาลท้องถิ่นหรือ ‘เราจะปิดตัวลง’

“เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจัดให้มีการพูดอย่างเสรีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้กฎหมาย” เขากล่าว

การเยือนอินเดียของ Elon Musk ครั้งนี้ก็เพื่อผลักดัน ‘การลงทุนที่สำคัญ’ เกี่ยวกับแผนการตั้งฐานการผลิตในอินเดีย

อินเดีย เป็นประเทศที่มีศักยภาพที่แข่งแกร่งสำหรับอนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ ชุดแบตเตอรี่ และ ยานพาหนะแบบไฟฟ้า อีกทั้ง Elon Musk มีความคาดหวังที่จะนำบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink ของ SpaceX มาสู่อินเดียอีกด้วย

หลังการเข้าพบนายกรัฐมนตรีของอินเดีย Elon Musk กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “Modi พยายามผลักดันให้เราลงทุนจำนวนมากในอินเดีย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เราตั้งใจจะทำอยู่แล้ว”

"ผมมั่นใจว่า Tesla จะอยู่ในอินเดียและจะดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

ต่อมา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอินเดียทวีตว่า Modi ได้เชิญ Musk ให้ "สำรวจโอกาสในอินเดียสำหรับการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าและการขยายตัวอย่างรวดเร็วของพื้นที่เชิงพาณิชย์"

โดยผู้บริหารของ Tesla ได้ไปเยือนอินเดียและพูดคุยกับข้าราชการและรัฐมนตรีของอินเดียเมื่อเดือนที่แล้วเกี่ยวกับการสร้างฐานการผลิตรถยนต์และแบตเตอรี่ในอินเดีย ซึ่ง Elon Musk กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า Tesla อาจจะเลือกที่ตั้งโรงงานแห่งใหม่ภายในสิ้นปีนี้ และเสริมว่าอินเดียเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับโรงงานแห่งใหม่

การวางแผนเข้ามาตั้งฐานการผลิตในอินเดียครั้งนี้ก็เพราะ บริษัทสจำเป็นต้องลดการพึ่งพาจีนในฐานะฐานการผลิตเมื่อเผชิญกับความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง แต่เมื่อปีที่แล้ว Tesla ก็ได้ระงับแผนการเข้าสู่อินเดียเนื่องจากโครงสร้างภาษีนำเข้าที่สูง

อ้างอิง

China : CNBC

Italy : CNBC

France : Electreck, Euro News, CNBC, Business Insider

India : Reuters, BBC