บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA บริษัทนวัตกรรมพลังงานสัญชาติไทยเจ้าแรก ชูโมเดลบริหารธุรกิจผ่านแนวคิด CSI (Corporate Social Innovation) หรือนวัตกรรมสังคมองค์กรปรับเปลี่ยนและพัฒนาองค์กรสู่การบริหารและการทำงานแบบบูรณาการยังประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืนนำร่องด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิตต้นแบบ ‘สารเปลี่ยนสถานะ’ หรือ PCM (Phase Change Material) จากน้ำมันปาล์ม สิทธิบัตรเจ้าแรกในโลก! ตั้งเป้าผลิต 130 ตัน/วัน ภายในปี 2563 คาดสร้างรายได้เพิ่มปีนี้อีกกว่า 800 ล้านบาท พร้อมพลิกโฉมอุตสาหกรรมปาล์มไทย ด้วยแอปพลิเคชัน ‘ปาล์มยั่งยืน’แพลตฟอร์มออนไลน์ครั้งแรกในโลก ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain มาวางกลไกไว้ใช้ตรวจสอบทุกธุรกรรมการซื้อขายสร้างความโปร่งใสเป็นธรรม และสามารถปันผลตอบแทนส่วนเพิ่มสู่ผู้จำหน่ายวัตถุดิบให้แก่บริษัทซึ่งรวมถึงเกษตรกรชาวสวนปาล์มยกระดับมาตรฐานการผลิต การขายคุณภาพและเพิ่มมูลค่าปาล์มไทยให้พร้อมสู่การเป็นสินค้านวัตกรรมส่งออกในตลาดโลก
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด และนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานเพื่ออนาคตหลากหลายธุรกิจ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์-พลังงานลม,โรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน,น้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม,รถยนต์-เรือโดยสารไฟฟ้าที่เกิดโดยฝีมือคนไทย,สถานีชาร์จรถไฟฟ้า เป็นต้น เน้นธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการด้านพลังงานในอนาคตการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์สูงสุดที่ผ่านมาบริษัทฯให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นคิดค้นนวัตกรรมที่ต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจในปัจจุบันจากการตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียชุมชนและประเทศนำไปสู่เจตจำนงที่จะร่วมสร้างและแบ่งปันความสำเร็จไปด้วยกันทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคมจึงเป็นที่มาของแนวคิด ‘นวัตกรรมสังคมองค์กร’ หรือ Corporate Social Innovation (CSI)
“เราอยากแบ่งปันองค์ความรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใช้ในบริษัทมาสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและชุมชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เติบโตเข้มแข็งเกิดประโยชน์ร่วมกันในระยะยาวเป็นรากฐานสู่การพัฒนาชุมชนทุกมิติสู่ความยั่งยืนในที่สุดนำร่องด้วยโครงการ ผลิตสารเปลี่ยนสถานะ หรือ PCM (Phase Change Material) จากน้ำมันปาล์มครั้งแรกในโลก โดยนำนวัตกรรม Blockchain มาพัฒนาเป็นplatformเพื่อใช้บันทึกข้อมูลและตรวจสอบการซื้อขายปาล์มตลอดจนปันผลประโยชน์ตอบแทนถือเป็นโครงการ CSIต้นแบบของบริษัทด้วยงบลงทุนกว่า1,000ล้านบาทเป็นการเพิ่มมูลค่าของปาล์มและทำให้เกษตรกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยเรามีความเชื่อว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นต้องคำนึงถึงความสมดุลย์ของ 3P ได้แก่
PCM จากน้ำมันปาล์ม หรือจากแหล่งชีวภาพ (Bio Base) เป็นนวัตกรรมใหม่ถูกคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกโดย EA ซึ่งอยู่ในระหว่างการยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตรในระดับโลก ปัจจุบัน ตลาด PCM โลกมีมูลค่าราว 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าจะเพิ่มอีก 3 เท่าภายในอีก 5 ปี สำหรับโรงงานผลิต PCM ของ EA ตั้งอยู่ที่ จ. ระยอง มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 130 ตัน/วัน เริ่มผลิตเฟสแรกในไตรมาสที่ 2 โดยส่งออกจำหน่ายไปประเทศเยอรมนี และญี่ปุ่น ทั้งหมด เพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างอาคาร และที่อยู่อาศัยเป็นส่วนสำคัญในการอนุรักษ์พลังงาน ด้วยการรักษาอุณหภูมิและลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อนได้ ให้ภายในสิ้นปีนี้ สัดส่วนรายได้ของ PCM จะอยู่ที่ประมาณ 800ล้านบาทคิดเป็น 3% ของรายได้รวมบริษัทฯ สำหรับสายการผลิต PCM เฟสสองจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าที่จะขยายกำลังการผลิตเป็น 1,000 ตัน/วันภายในอีก 5 ปี
นอกจากนี้ EA ยังพลิกโฉมอุตสาหกรรมปาล์มไทย ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชัน‘ปาล์มยั่งยืน’ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในโลก ที่มีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ประกอบการทำธุรกรรมซื้อขายปาล์ม โดยการลงทะเบียนบันทึกข้อมูลส่วนตัวข้อมูลการซื้อขาย และคุณภาพของวัตถุดิบเพื่อใช้ตรวจสอบที่มาและบันทึกการทำธุรกรรมซื้อขายอย่างถูกต้อง และที่สำคัญสามารถปันผลประโยชน์ส่วนเพิ่มกลับมายังผู้ขายวัตถุดิบในแต่ละขั้นตอนได้หากวัตถุดิบนั้นมีคุณภาพดีจนสามารถนำไปผลิตสาร PCM ที่มีคุณภาพสูงได้เป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพส่งเสริมให้การกำหนดราคาเป็นไปตามกลไกตลาดอย่างโปร่งใสเป็นธรรมสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนและมีระบบการจ่ายผลตอบแทนที่สามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้อย่างรวดเร็วด้วยวิธีการโอนเข้าบัญชีที่ได้ลงทะเบียนไว้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สำหรับนวัตกรรม สารเปลี่ยนสถานะ หรือ PCM จากน้ำมันปาล์ม ถือเป็นสิ่งที่จะมาช่วยเพิ่มมูลค่าของปาล์มน้ำมัน วึ่งเป็นสินค้าการเกษตรที่สำคัญของคนไทยได้ ซึ่ง PCM เป็นสารมีราคาสูงกว่า ไบโอดีเซล 100% หรือ B100 ที่เรานำมาใช้ทำพลังงานกว่า 3 เท่าตัว ซึ่งจากนวัตกรรมดังกล่าวได้สอดคล้องกับทิศทางที่ทางภาครัฐบาลส่งเสริมที่ให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรของไทยได้ โดยราคาของ PCM ที่เพิ่มขึ้นกว่า B100 ถึง 3 เท่าตัวนั้น ถือเป็นสิ่งที่สามารถเข้ามาช่วยยกระดับสินค้าการเกษตร และในอนาคตทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้น และในวันนี้นวัตกรรมที่ EA ได้คิดค้นขึ้น ไม่เพียงแต่ยกระดับสินค้าการเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาเพื่อคืนกำไรให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มได้อีกด้วย อีกทั้งการนำ Blockchain มาใช้ยังตรงกับนโยบายที่ทางกระทรวงพลังงานที่จะนำมาควบคุมเรื่องของการลักลอบนำเข้าปาล์มน้ำมันอีกด้วย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด