รู้จัก EVO 2 เอไอที่ช่วยออกแบบ DNA ให้กับสิ่งมีชีวิต ช่วยเร่งวิวัฒนาการได้ดั่งใจ

หากเราสามารถเร่งวิวัฒนาการ เพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีคุณสมบัติตามที่เราต้องการได้ จะเป็นอย่างไร ? ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้สร้าง Evo 2 ปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะที่สามารถ 'อ่าน' และ 'เขียน' รหัส DNA ของสิ่งมีชีวิตได้ทุกชนิด 

Evo 2 ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราเข้าใจกลไกของโรคต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังเปิดประตูสู่การสร้างยา และการรักษาแบบใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน

Evo 2 คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ ?

Evo 2 คือ AI ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันจากทีมงานหลายสถาบันชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Stanford University, Arc Institute ไปจนถึง NVIDIA โดยได้รับการเทรนด้วยข้อมูล DNA จากสิ่งมีชีวิตที่เรารู้จัก ทั้งมนุษย์ พืช แบคทีเรีย อะมีบา รวมถึงสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธ์ไปแล้ว 

การที่ Evo 2 ได้รับการเทรนด้วยข้อมูล DNA มหาศาลกว่า 9.3 ล้านล้านโทเค็น ซึ่งในที่นี้คือ นิวคลีโอไทด์ (Nucleotide) จากจีโนม (Genome) กว่า 128,000 จีโนม ทำให้มันสามารถทำนายรูปแบบ และเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างโปรตีนใน DNA ของสิ่งมีชีวิตทุกประเภท สามารถระบุโมเลกุลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับการแพทย์ นำไปสู่โอกาสในการทดลองเสมือนจริงในเวลาเพียงไม่กี่นาทีแทนที่จะเป็นเวลานานนับปี

DNA, จีโนม และยีน คืออะไร AI เกี่ยวข้องตรงไหน ?

เพื่อให้เข้าใจการทำงานของ Evo 2 ได้ง่ายขึ้น ต้องอธิบายก่อนว่า DNA ของสิ่งมีชีวิต (รวมถึงคนเรา) มีลำดับทางพันธุกรรมโดยใช้อักษรย่อแทนหน่วยย่อยนิวคลีโอไทด์ เพียง 4 ตัว คือ A, C, G และ T เปรียบเสมือนเป็นภาษาลับของสิ่งมีชีวิต 

ซึ่งจีโนมหรือชุดข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ ก็เปรียบเหมือน ‘หนังสือคู่มือ’ เล่มใหญ่ที่บอกทุกสิ่งทุกอย่างของสิ่งมีชีวิตนั้น ซึ่งจีโนมของคนเราก็เหมือนกับหนังสือเล่มใหญ่มากๆ มีตัวอักษร A, C, G, T เรียงต่อกันยาวถึง 3,000 ล้านตัว

ในหนังสือคู่มือเล่มนี้ (จีโนม) ก็จะประกอบไปด้วย ยีน (Gene) ซึ่งยีนแต่ละตัวก็เหมือน ‘คำ’ แต่ละคำในภาษา ซึ่งคำแต่ละคำก็สะกดไม่เหมือนกัน (ซึ่งหมายความว่าตัวอักษร A, C, G, T จะเรียงไม่เหมือนกัน) บางคำก็สั้น บางคำก็ยาว แต่ละคำต่างก็มีความหมาย และการใช้งาน (หน้าที่) ต่างกันออกไป เช่น ยีนตัวนี้อาจเป็นคำสั่งที่บอกว่าให้ร่างกายไปสร้างโปรตีนที่ช่วยย่อยอาหาร เป็นต้น

ซึ่ง Evo 2 เป็น AI ที่ได้เรียนรู้ DNA ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด มันสามารถมองหารูปแบบต่างๆ ในตัวอักษร A, C, G, T ที่เรียงต่อกัน แล้วสามารถ ‘เดา’ ได้ว่าตัวอักษรต่อไปน่าจะเป็นอะไร เหมือนเราอ่านหนังสือแล้วเดาประโยคต่อๆ ไป หรือเดาตอนจบได้ ความสามารถในการเดานี้เอง ทำให้ Evo 2 สามารถเขียนรหัส DNA ใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ โดยมันสามารถเขียนรหัส DNA ได้มากถึง 1 ล้านตัวอักษรเลยทีเดียว 

เรื่องนี้ทำให้ในนักวิจัยสามารถนำความสามารถของ Evo 2 ไปทดลองเพื่อค้นคว้าได้อย่างรวดเร็วกว่าแต่มากมาก และเป็นไปได้ว่าในอนาคตอนาคตเราสามารถปรับแต่ง DNA ของสิ่งมีชีวิต เพื่อรักษาโรคภัยต่างๆ ได้นั่นเอง

นักพัฒนาที่อยู่เบื้องหลังโปรเจ็กต์นี้อธิบายเพิ่มเติมว่า Evo 2 ก็คล้ายกับแชทบอทอย่าง ChatGPT ที่หากเราพิมพ์ข้อความบางส่วนเข้าไป มันก็สามารถช่วยเติมข้อความที่เหลือให้เราได้แบบอัตโนมัติเหมือนเดาใจได้ว่าเราจะพิมพ์อะไรต่อ ซึ่ง Evo 2 ก็ทำสิ่งนี้เช่นเดียวกันแต่แทนที่ข้อความ มันทำงานกับ DNA เพียงเราป้อนรหัส DNA ให้ Evo 2 มันก็จะช่วยเขียนรหัส DNA ต่อให้จนจบ แต่ที่น่าสนใคือ บางครั้ง AI ตัวนี้ก็จะเขียนรหัส DNA แบบใหม่ที่อาจจะดีกว่าเดิม หรือไม่เคยมีมาก่อนก็ได้

นอกจากนี้ Evo 2 ยีงมีผู้ช่วยที่คอยบอกเราว่า DNA ที่มันเขียนขึ้นมานั้น มีอยู่จริงในธรรมชาติหรือไม่ และจะทำงานอย่างไร สามารถช่วยเลือกการเปลี่ยนแปลงใน DNA ที่ต้องการได้ ทำให้เราสร้าง DNA ที่มีประโยชน์ได้เร็วมากขึ้น พูดง่ายๆ คือ Evo 2 เหมือนเครื่องเร่งวิวัฒนาการได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน

Evo 2 เอาไปใช้ทำอะไร ?

Evo 2 ถือว่ามีความเก่งกาจในด้านการค้นพบ และช่วยเร่งการวิจัย ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาหวังว่า Evo 2 จะช่วยในการทำนายได้กว่าการกลายพันธุ์ของ DNA ใดนำไปสู่การก่อโรค และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เนื่องจากทุกคนมีการกลายพันธุ์แบบส่มใน DNA ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่อันตราย แต่ในบางครั้งมันอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ ซึ่ง Evo 2 จะช่วยแยกแยะสิ่งเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ นักวิจัยยังหวังว่า Evo 2 จะเป็นตัวที่ช่วยสร้างเครื่องมือทางชีวภาพใหม่ๆ เพื่อให้สามารถพัฒนายาที่รักษาได้ตรงเป้าหมายโดยมีผลข้างเคียงน้อยลง ไปจนถึงการทำให้ Evo 2 เป็นรากฐานสำหรับแบบจำลอง AI ในด้านชีววิทยา เพื่อให้นักพัฒนารายอื่นๆ ได้ใช้ประโยชน์จากโมเดล AI ตัวดังกล่าวในการค้นพบ และค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่อไป


อ้างอิง : Stanford University, Arc Institute, asimov.press

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จีนพัฒนา ‘Vision Heat’ เซนเซอร์มองทะลุควัน-หมอก ความละเอียด 4K ไม่ต้องใช้ความเย็น เห็นภาพความร้อนเหมือนตาของงู!

นักวิจัยจีนพัฒนาเซนเซอร์อินฟราเรด 4K แรงบันดาลใจจากตาของงู ใช้ Quantum Dots ผสาน CMOS ทำงานได้ที่อุณหภูมิห้อง เตรียมปฏิวัติกล้องสมาร์ทโฟนและรถไร้คนขับให้มองเห็นทะลุความมืดและหมอกคว...

Responsive image

เด็ก 19 สร้างนวัตกรรม ถุงมือพิมพ์งานในอากาศ จากการเรียนคอร์สออนไลน์ฟรี MIT จนคว้ารางวัล SxSW Sydney 2025

พบกับ Freesia Gaul เด็กวัย 19 ที่ย้ายโรงเรียนถึง 13 ครั้ง แต่ใช้คอร์สเรียนฟรีจาก MIT สร้างถุงมือ VR พิมพ์งานกลางอากาศจนคว้ารางวัล SxSW และเปิด Startup ได้สำเร็จ...

Responsive image

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent สาย Productivity เลขาส่วนตัวอัจฉริยะ สรุปงาน–ส่งเมล–นัดประชุมให้เสร็จในคลิกเดียว

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent ผู้ช่วยสาย Productivity ที่เชื่อม Gmail, Calendar และ Drive เข้าด้วยกัน ช่วยสรุปงาน ร่างอีเมล และจัดการนัดหมายแบบอัตโนมัติ เปลี่ยน Inbox ให้กลายเป...