บริการชมวิดีโอบน Facebook หรือที่เรียกว่า Facebook Watch นั้น กำลังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั่วโลก สิ่งที่น่าสนใจคือที่ Facebook Watch จะทำไม่ใช่เพียงการเปิดให้ดูวิดีโอบน Platform แต่ต้องการพลิกเทรนด์สร้างสิ่งที่เรียกว่า 'Social Video' ที่อาจเป็นอนาคตสำคัญของวัฒนธรรมการดูวิดีโอของคนจำนวนมากในอนาคต ซึ่งทาง Facebook เองก็ได้เผยตัวเลขสำคัญที่สะท้อนนัยของการเติบโตของ Facebook Watch และพฤติกรรมการ 'แชร์ประสบการณ์ร่วมกัน' ของคนดูที่กำลังเปลี่ยนไป ซึ่งในตอนนี้ Facebook Watch ก็ได้เผยกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น โดยหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือการร่วมมือกับ Local Partner ซึ่งเป็นผู้ผลิต Video Content รายใหญ่ อย่างเช่นในไทยที่ร่วมมือกับผู้ผลิตระดับแม่เหล็กอย่าง ช่อง3, Workpoint, Woody และ ONE 31

สถิติสำคัญของ Facebook Watch

พาเรช ราชวัต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์วิดีโอ ได้เปิดเผยสถิติตัวเลขสำคัญของ Facebook Watch เพื่อสะท้อนถึงความเติบโต และเทรนด์ของผู้ชมที่กำลังเปลี่ยนไป ดังนี้

1. ผู้คนจำนวนมากกว่า 720 ล้านคนทั่วโลก ใช้เวลาในการรับชมวิดีโอผ่าน Watch อย่างน้อย 1 นาที ในแต่ละเดือน
2. ผู้คนมากกว่า 140 ล้านคนทั่วโลก ใช้เวลาในการรับชมวิดีโอผ่าน Watch อย่างน้อย 1 นาที ในแต่ละวัน
3. โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้คนจำนวนกว่า 140 ล้านคนเหล่านี้ ใช้เวลารับชมวิดีโอผ่าน Watch มากกว่า 26 นาทีในแต่ละวัน
4. ผู้คนมีแนวโน้มที่จะแสดงความคิดเห็นผ่านคอมเม้นท์บนวิดีโอที่รับชมร่วมกับผู้อื่นในปาร์ตี้รับชม (Watch Party) มากกว่าการรับชมวิดีโอเพียงลำพังถึง 8 เท่า

ตัวเลขดังกล่าวนอกจากจะสะท้อนความนิยมการดูวิดีโอผ่าน platform ของ Facebook เอง ตัวเลขของการมีปฏิสัมพันธ์ของผู้ชมผ่านคอมเม้นท์บนวิดีโอจำนวนมากที่รับชมในรูปแบบการรับชมร่วมกับผู้อื่น บ่งชี้ถึงแนวโน้มพฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนไป ซึ่งก็สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Facebook Watch เป็นอย่างดี

เพราะวิสัยทัศน์คือการที่คนจะไม่ใช่แค่ 'ดู' วิดีโออีกต่อไป แต่ต้อง 'แชร์ประสบการณ์' ร่วมกัน

จุดแข็งตั้งต้นของ Platform ของ Facebook คือการเชื่อมโยงคนเข้าหากัน เช่นกันกับวิสัยทัศน์ในด้านวิดีโอของ Facebook Watch ที่จะไม่ใช่แค่การดูร่วมกัน(Co-Watching) การมีปฏิสัมพันธ์กัน (Interactivity) แต่รวมไปถึงการสร้าง Community 

Facebook Watch กับแผนการลงทุนด้าน Content ในประเทศไทย

หนึ่งในแผนการด้านกลยุทธ์การขยายตลาดที่สำคัญของ Facebook Watch คือการจับมือกับ Local Partner ในแต่ละตลาดท้องถิ่นที่ขยายไป ซึ่งสำหรับประเทศไทยเองก็ได้มีการจับมือสร้างความร่วมมือกับบรรดาผู้ผลิต Video Content ระดับแม่เหล็ก อย่าง Workpoint ที่ขนรายการยอดนิยม เช่น รายการ The Rapper รายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง รายการ I Can See Your Voice มาให้รับชมใน Facebook Watch ช่อง3 มีเนื้อหาพิเศษอย่างเบื้องหลังการถ่ายทำ และเนื้อหาฉบับเต็มก่อนการตัดต่อของละครยอดนิยม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบเนื้อหาและเหล่าแฟนคลับ Zense Entertainment ที่เน้นแสดงเนื้อหาของรายการชั้นนำ เช่น รายการตลก (บริษัทฮาไม่จำกัด) รายการเกมโชว์ (Couple or Not? คู่ไหน..ใช่เลย) ONE 31 เน้นเนื้อหารูปแบบละคร และการร่วมมือกับครีเอเตอร์เพื่อผลิตรายการเอ็กซ์คลูซีฟอย่าง Woody World

Facebook Watch Original Content

นอกจากนี้ยังมีการผลิตรายการที่เป็น Original Content ของ Facebook Watch เอง อย่าง รายการ The Real World Bangkok ของเอ็มทีวี: เป็นรายการเรียลลิตี้โชว์เชิงสะท้อนสังคมที่มีเนื้อหาทั้งหมด 12 ตอน และเป็นรายการที่ผลิตขึ้นเองโดย Facebook Watch เป็นรายการแรกในภูมิภาค โดยเริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รายการ The Real World Bangkok ของเอ็มทีวีเล่าเรื่องราวของผู้เข้าร่วมรายการที่เป็นคนไทยและออกอากาศผ่านทาง Facebook Watch เท่านั้น

โดยในส่วนของผลตอบรับของรายการ The Real World Bangkok นั้น คุณแจ็ค คุณธรรมสาธิต หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรด้านเนื้อหาบันเทิง ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวว่าพึงพอใจกับคุณภาพของคอมเม้นท์ที่ผู้ชมเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหา แม้จะไม่ได้เปิดเผยสถิติเชิงตัวเลข แต่สิ่งที่ทีมงานให้ความสำคัญมากกว่าคือคุณภาพของคอมเม้นท์ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของการที่จะสร้าง 'Social Video' ของทาง Facebook Watch เอง

เครื่องมือสร้างรายได้สำหรับเหล่า Creator

แมทธิว เฮนนิก หัวหน้าฝ่ายการวางแผนกลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ ได้เผยถึงเครื่องมือต่างๆ สำหรับวิดีโอใน Facebook Watch และวิธีที่จะสร้างรายได้สำหรับบรรดา Creator ดังนี้

ฟีเจอร์ Facebook Watch ที่ให้บริการในประเทศไทยในปัจจุบัน

1. พรีเมียร์ (Premiere): การแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ใช้ รับชมวิดีโอและเพื่อสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับเนื้อหาวิดีโอ เครื่องมือนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถโพสต์วิดีโอในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ ด้วยการกำหนดเวลาฉายวิดีโอ คล้ายกับการฉายภาพยนตร์
2. การเผยแพร่สด (LIVE): การเผยแพร่สด ซึ่งรวมถึงความสามารถในการเผยแพร่รอบซ้อม การตัดเนื้อหา การขยายช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้น การแสดงรายการพร้อมกันผ่าน Live API ซึ่งมีให้บริการใน Facebook Lite ด้วย
3. ปาร์ตี้รับชม (Watch Party): ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อเพื่อนๆ และชุมชนเพื่อรับชมวิดีโอร่วมกันตามเวลาจริงภายในกลุ่มที่พวกเขาเข้าร่วม รวมถึงการเผยแพร่สด (โดยผู้สร้างสามารถแชร์ความคิดเห็นตามเวลาจริงได้) หรือวิดีโอที่ถูกบันทึกและแชร์จากเพจอื่นๆ ระหว่างการเผยแพร่ปาร์ตี้รับชม ผู้ใช้สามารถสร้างบทสนทนาผ่านคอมเม้นท์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน รวมถึงกำหนดเวลาและเล่นซ้ำได้ นอกจากนี้ ปาร์ตี้รับชมยังมีการอัพเดทเมตริกใหม่ (เช่น จำนวนนาทีที่รับชม และจำนวนผู้ชม 60 วินาทีโดยไม่นับซ้ำ) และการตั้งค่าปาร์ตี้รับชมให้เป็นเนื้อหาที่มีแบรนด์

การคั่นด้วยโฆษณา (Ad break)

Ad Break หรือการคั่นเนื้อหาวิดีโอด้วยโฆษณาแบบสั้นเพื่อสร้างรายได้ โดยจะสามารถเลือกตำแหน่งการจัดวางวิดีโอแบบในสตรีม เลือกตำแหน่งการจัดวางโฆษณาให้อยู่ก่อน ระหว่าง และหลังเนื้อหาวิดีโอได้ ทั้งยังสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปชี้วัดคุณภาพของเนื้อหาได้

สถิติที่น่าสนใจของการสร้างรายได้ (Monetization) ใน Facebook Watch

• การคั่นด้วยโฆษณาเป็นฟีเจอร์ที่มีให้บริการอยู่ใน 40 ประเทศทั่วโลกในปัจจุบัน
• เพจที่ใช้การคั่นด้วยโฆษณาเป็นประจำมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
• เพจที่ได้รับรายได้มากกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 8 เท่า
• เพจที่ได้รับรายได้มากกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า

เกณฑ์คุณสมบัติในการใช้ Ad break

• ผ่านมาตรฐานคุณสมบัติการสร้างรายได้: การคุ้นเคยกับมาตรฐานเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เพียงเพื่อมีสิทธิ์สำหรับช่วงพักโฆษณาแต่เพื่อรักษาสิทธิ์ในการสร้างรายได้ไว้อยู่เสมอ
• ผู้ติดตาม 10,000 คน: ต้องเผยแพร่วิดีโอจากเพจที่มีผู้ติดตามอย่างน้อย 10,000 คน ไม่ใช่จากโปรไฟล์
• การรับชมวิดีโอ 1 นาทีสำหรับวิดีโอที่มีความยาว 3 นาที: เกณฑ์ชี้วัดนี้จะช่วยกำหนดวิธีที่คุณสามารถสร้างรายได้จากช่วงพักโฆษณาได้สำเร็จ คุณต้องมียอดการรับชม 1 นาทีให้กับวิดีโอที่มีความยาวอย่างน้อย 3 นาทีถึง 30,000 ครั้งในช่วง 60 วันที่ผ่านมา
• ประเทศที่พร้อมให้บริการ: ประเทศไทยสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้

สำหรับผู้ที่มีเพจอยู่ในปัจจุบัน สามารถตรวจสอบว่าตนเองมีคุณสมบัติในการใช้ช่วงพักโฆษณาหรือไม่ที่ลิงค์นี้: https://www.facebook.com/business/m/join-ad-breaks