Figma เปิดตัว AI ใหม่ สร้างเว็บ-แอปฯ-คอนเทนต์ ท้าชน Canva-Adobe

Figma

วงการออกแบบต้องจับตา! Figma บริษัทซอฟต์แวร์ดีไซน์ชื่อดัง ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI เน้นช่วยสร้างเว็บไซต์, แอปฯ prototype และคอนเทนต์ ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นการท้าชนโดยตรงกับยักษ์ใหญ่อย่าง Canva, Adobe รวมถึงเครื่องมือสร้างเว็บและโปรโตไทป์ด้วย AI เช่น WordPress, Wix, Hostinger และ Replit

จุดเด่นสำคัญคือ Figma Sites เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ด้วย AI ที่ช่วยให้นักออกแบบสามารถเปลี่ยนต้นแบบหน้าตาเว็บใน Figma ให้กลายเป็นเว็บไซต์จริงพร้อมใช้งานได้ทันที ผู้ใช้สามารถแก้ไของค์ประกอบต่างๆ ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้คำสั่ง AI ซ้ำ พร้อมเพิ่มลูกเล่นอย่าง transition, animation, scroll effect และออกแบบให้รองรับทุกหน้าจอ (responsive) ที่สำคัญ Figma Sites จะมีระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ในตัว ทำให้สร้างและแก้ไขบทความบล็อก, จัดการภาพ thumbnail หรือ slug ได้โดยตรงจากในดีไซน์ หากต้องการส่วนเสริมแบบอินเทอร์แอคทีฟ เช่น กราฟหุ้น ก็สามารถใส่โค้ดเองหรือให้ AI ช่วยเขียนโค้ดให้ได้

ส่วน Figma Make เป็นอีกเครื่องมือ AI ที่คล้ายกัน แต่จะเน้นไปที่การระดมสมองและสร้างต้นแบบแอปพลิเคชัน (prototyping) ผู้ใช้แค่ป้อนคำสั่ง (prompt) ก็สามารถสร้างแอปต้นแบบขึ้นมาได้ทันที สามารถทำงานร่วมกันกับทีม และให้ AI ช่วยปรับแก้หรือเพิ่มองค์ประกอบต่างๆ ได้ หากมีนักพัฒนาในทีมก็สามารถเข้าไปแก้ไขโค้ดโดยตรงได้เลย นอกจากนี้ยังสร้างองค์ประกอบอินเทอร์แอคทีฟเล็กๆ เช่น นาฬิกา แล้วนำไปฝังในหน้าที่สร้างผ่าน Figma Sites ได้อีกด้วย

คุณยูกิ ยามาชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Figma เผยว่าทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้ใช้เทคโนโลยีพื้นฐานร่วมกัน "เราต้องการให้ Figma Make ช่วยสร้างต้นแบบที่มีความสมจริงสูง สามารถใส่ข้อมูลจริงเพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของไอเดีย ส่วน Figma Sites จะเหมาะกับทีมที่ต้องการสร้างเว็บไซต์สำหรับเผยแพร่คอนเทนต์โดยตรง และทีมออกแบบที่รู้ว่าหน้าตาเว็บควรเป็นอย่างไร และต้องการควบคุมทุกอย่างได้เต็มที่" คุณยามาชิตะอธิบายถึงความแตกต่าง

การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการเข้าสู่สมรภูมิ AI ที่กำลังเข้มข้น บริษัทมากมายต่างก็หาทางใช้ AI สร้างประสบการณ์อินเทอร์แอคทีฟ ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการโฮสติ้งอย่าง Squarespace, Wix, WordPress, และ Hostinger ที่มีเครื่องมือ AI สร้างเว็บ หรือแม้แต่ Canva เองก็เพิ่งเปิดตัว Canva Code ให้สร้างประสบการณ์อินเทอร์แอคทีฟในดีไซน์ได้ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Figma ทดลองใช้ AI เพราะปีที่แล้วเคยปล่อยฟีเจอร์ Make Design แต่ก็ต้องถอดออกไปหลังถูกวิจารณ์ว่านำข้อมูลแอปที่มีอยู่เดิมมาเทรนโมเดลมากเกินไป

นอกจากนี้ Figma ยังมีเครื่องมือใหม่ชื่อ Figma Buzz สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างคอนเทนต์โดยเฉพาะ เครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้สร้างคอนเทนต์นำเทมเพลตดีไซน์ที่นักออกแบบเตรียมไว้ (พร้อมอัตลักษณ์แบรนด์) มาสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดาย สามารถใช้ AI ช่วยสร้างภาพ หรือเปลี่ยนพื้นหลังของคอนเทนต์ และยังสร้างคอนเทนต์จำนวนมากพร้อมกันโดยดึงข้อมูลจาก Spreadsheet ได้

และสำหรับสายวาด Figma ก็เปิดตัว Figma Draw เครื่องมือสำหรับงาน vector editing และภาพประกอบโดยเฉพาะ คุณยามาชิตะบอกว่าที่ผ่านมานักออกแบบมักจะต้อง export งาน vector ออกไปแก้ไขข้างนอก ตอนนี้ Figma เลยเพิ่มฟีเจอร์อย่างการใส่ข้อความตามเส้นโค้ง (text on a path), การเติมลวดลาย (pattern fill), แปรง (brushes), การแก้ไข vector หลายชิ้นพร้อมกัน, การเพิ่ม noise และ texture, และเครื่องมือเลือกแบบ lasso เข้ามาใน Figma Draw โดยตรง

หลังจากปีที่แล้ว Figma ได้เปิดตัว Slides สำหรับทำพรีเซนเทชัน การมาของเครื่องมือสร้างคอนเทนต์และเครื่องมือวาดภาพใหม่นี้ ยิ่งทำให้ Figma เข้าไปแข่งขันโดยตรงกับชุดโปรแกรมครีเอทีฟอย่าง Adobe และ Canva มากขึ้น แม้คุณยามาชิตะจะย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจแข่งกับใครโดยตรง แต่เน้นที่การสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัล และผู้ใช้หนึ่งในสามของ Figma ก็เป็นนักพัฒนา (ด้วยเครื่องมืออย่าง Dev Mode) ทั้งนี้ Figma ได้ประกาศแผนบริการใหม่ชื่อ "content seat" เริ่มต้นที่ 8 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งจะให้สิทธิ์เข้าใช้ Figma Buzz, Slides, FigJam และ CMS ของ Sites

อ้างอิง: techcrunch

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จีนพัฒนา ‘Vision Heat’ เซนเซอร์มองทะลุควัน-หมอก ความละเอียด 4K ไม่ต้องใช้ความเย็น เห็นภาพความร้อนเหมือนตาของงู!

นักวิจัยจีนพัฒนาเซนเซอร์อินฟราเรด 4K แรงบันดาลใจจากตาของงู ใช้ Quantum Dots ผสาน CMOS ทำงานได้ที่อุณหภูมิห้อง เตรียมปฏิวัติกล้องสมาร์ทโฟนและรถไร้คนขับให้มองเห็นทะลุความมืดและหมอกคว...

Responsive image

เด็ก 19 สร้างนวัตกรรม ถุงมือพิมพ์งานในอากาศ จากการเรียนคอร์สออนไลน์ฟรี MIT จนคว้ารางวัล SxSW Sydney 2025

พบกับ Freesia Gaul เด็กวัย 19 ที่ย้ายโรงเรียนถึง 13 ครั้ง แต่ใช้คอร์สเรียนฟรีจาก MIT สร้างถุงมือ VR พิมพ์งานกลางอากาศจนคว้ารางวัล SxSW และเปิด Startup ได้สำเร็จ...

Responsive image

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent สาย Productivity เลขาส่วนตัวอัจฉริยะ สรุปงาน–ส่งเมล–นัดประชุมให้เสร็จในคลิกเดียว

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent ผู้ช่วยสาย Productivity ที่เชื่อม Gmail, Calendar และ Drive เข้าด้วยกัน ช่วยสรุปงาน ร่างอีเมล และจัดการนัดหมายแบบอัตโนมัติ เปลี่ยน Inbox ให้กลายเป...