สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับสมาคมฟินเทคประเทศไทย คัดเฟ้น 12 ทีม FinTech Startup เข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ “FinTech Challenge 2018 : The Discovery” โครงการประกวดผลงานนวัตกรรมทางการเงิน ค้นหาผู้ประกอบธุรกิจ FinTech Startup หน้าใหม่ที่จะปฏิวัติวงการทางการเงิน ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกันกว่า 400,000 บาท เพื่อสร้างโอกาสในการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยช่วยให้เข้าถึงบริการทางการเงินและการลงทุนได้อย่างทั่วถึงและสะดวกรวดเร็ว อันจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างแท้จริง
“FinTech Challenge 2018 : The Discovery” เป็นโครงการประกวดผลงานนวัตกรรมทางการเงินที่ดำเนินการโดย ก.ล.ต. ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 เพื่อกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการเงิน การลงทุน และประกันภัยในประเทศไทย รวมถึงสร้างโอกาสในการนำเสนอนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้ในระบบการเงิน การระดมทุน และการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับยุค “ไทยแลนด์ 4.0” โดยครั้งนี้สมาคมฟินเทคประเทศไทยได้ร่วมกับ ก.ล.ต. ในการค้นหาผู้ประกอบธุรกิจ FinTech Startup หน้าใหม่ และช่วยบ่มเพาะศักยภาพให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งในด้านเทคโนโลยีและการดำเนินธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทคที่ประสบความสำเร็จและมากด้วยประสบการณ์ ตลอดจนความรู้ด้านกฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พร้อมต่อยอดธุรกิจ หรือสามารถพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่ง 12 ทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศนี้ คณะกรรมการได้คัดเลือกโดยพิจารณาจากความคิดสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ความเป็นไปได้ในการนำไปใช้งานจริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมทางการเงินรวมไปถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันจะเป็นผลต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
FinTech Startup ทั้ง 12 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ประกอบด้วย
1. CryptovationX: หุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนในตลาดคริปโต 2. Skynet: ระบบ Social Trading Platform ที่รองรับ AI ทุกภาษาโปรแกรม 3. Digital Workforce: หุ่นยนต์ดิจิทัลสำหรับการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ 4. FINE: แพลตฟอร์มส่งเสริมการออม ให้ความรู้ และวางแผนทางการเงิน 5. ZeeZave: ระบบส่งเสริมการออมสำหรับคนรุ่นใหม่ 6. ATOM: Retire-Care Planer วัยเกษียณที่ออกแบบได้ 7. ESPREE.IO: แพลตฟอร์มการรับชำระเงินของทุกสรรพสิ่ง 8. ebizkit: เครื่องมือที่ยกระดับการซื้อขายออนไลน์ผ่านช่องทาง Chat commerce 9. JFIN Coin: บล็อกเชนแพลตฟอร์มที่ให้บริการกู้ยืมเงินสำหรับคนดี 10. Credit OK: แพลตฟอร์มเพื่อสร้าง “เครดิตสกอร์” ให้ผู้ประกอบการรายย่อย 11. WEALTHI: แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้ขาดโอกาสทางการเงินได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน 12. ThaiIDP: ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนดิจิทัล
ในรอบชิงชนะเลิศ ทุกทีมจะต้องนำเสนอผลงานบนเวทีต่อหน้าคณะกรรมการ ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ สยามสแควร์ วัน ชั้น 7 เพื่อชิงรางวัลทุนสนับสนุน 4 ทุน รวมมูลค่ากว่า 400,000 บาท ได้แก่
1. ทุนนวัตกรรมประเภท Innovative FinTech จำนวน 200,000 บาท พร้อมโล่รางวัล สำหรับทีมที่สามารถเสนอ นวัตกรรม หรือความคิดสร้างสรรค์ ที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการ 2. ทุนนวัตกรรมประเภท Popular Vote จำนวน 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัล สำหรับทีมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด 3. รางวัลพิเศษอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น ทุนสนับสนุนจากหน่วยงานพันธมิตร สิทธิ์การเข้าร่วมโครงการของพันธมิตร และสิทธิ์การใช้งานหรือได้รับการสนับสนุนในรูปแบบอื่น ๆ 4. รางวัลชมเชย รางวัลละ 20,000 บาท
โดยทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากโครงการ
หน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนโครงการประกวด FinTech Challenge 2018 : The Discovery ประกอบด้วย 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย 2. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 3. สมาคมฟินเทคประเทศไทย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด