คุณคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด (Flash Express) ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทยแบบครบวงจร สตาร์ทอัพไทยรายแรกที่ก้าวสู่ยูนิคอร์นระดับสากล เปิดเผยว่า ในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมาพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคคนไทยเติบโตขึ้นอย่างมาก ทำให้ E-commerce เติบโตอย่างก้าวกระโดด
และที่สำคัญผู้บริโภคไม่ได้เลือกซื้อแค่สินค้าในกลุ่มที่มีขนาดเล็ก เช่น เสื้อผ้า สินค้าGadget เท่านั้น แต่อัตราการเติบโตของสินค้าขนาดใหญ่กลับมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 3 อันดับสินค้าที่มีการซื้อขายเติบโตเพิ่มขึ้นได้แก่ สินค้าประเภทของใช้สัตว์เลี้ยง อุปกรณ์ฟิตเนสที่ครอบอันดับ 1 โดยเติบโตสูงถึง 71%
ส่วนสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ จำพวก ตู้เย็น เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ เครื่องเสียงต่างๆ ตามมาเป็นอันดับ 2 มีการเติบโตสูงถึง 63% ขณะที่สินค้าประเภทของใช้ภายในบ้าน อย่างเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มีการเติบโตอยู่ที่ 53%
โดยกลุ่มสินค้าเหล่านี้นับเป็นสินค้าติดอันดับ Top 3 ที่มีตัวเลขการซื้อขายเพิ่มขึ้นบน Shopping Platform ที่มีปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่แพร่ระบาดมาเป็นระยะเวลาร่วม 3 ปี รวมไปถึงการจัด Promotion และออก Campaign เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าดังกล่าวนั่นเอง
และด้วยปัจจัยข้างต้น Flash Express ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มสินค้าชิ้นใหญ่ ล่าสุดจึงได้เปิดตัว “Flash Bulky” คือ การส่งสินค้า Bulky พร้อมกับชูคอนเซปต์ “ส่งของใหญ่ ไว้ใจแฟลช” ซึ่งบริการส่งพัสดุขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 5 กิโลกรัม – 100 กิโลกรัม ขนาดรวมกันทั้ง 3 ด้านสูงสุดไม่เกิน 400 CM และความยาวแต่ละด้านไม่เกิน 160 CM ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ยางรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยยังคงคอนเซปต์เข้ารับบริการฟรีถึงที่ (Door to Door Services) พร้อมเปิดให้บริการ 365 วันไม่มีวันหยุด ในอัตราค่าบริการเริ่มต้นเพียง 50 บาท
ซึ่งตรงจุดนี้คุณคมสันต์มองว่า แม้ธุรกิจของ Bulky จะมีผู้เล่นในตลาดอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีช่องว่างนั่นคือ การรับส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน รวมไปถึงจุดให้บริการ พื้นที่ให้บริการที่ยังไม่ครอบคลุม ดังนั้น Flash จึงต้องการที่จะพัฒนาบริการเพื่อมาตอบโจทย์ Pain Point เหล่านี้ และคาดว่ามาร์เก็ตแชร์ของ Flash จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
รวมทั้งการออกบริการเสริมที่มีชื่อว่า “Speed Guarantee” ส่งไวกว่าเดิม ด้วยการการันตีเวลาจัดส่งภายใน 2 วัน ซึ่งหากพัสดุไปถึงปลายทางหลังระยะเวลากำหนด ผู้ส่งพัสดุจะได้รับเงินคืน โดยจะให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย
“ปี 2565 นับเป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งของตลาด Logistics และ E-commerce เราจะเห็นได้ว่าผู้เล่นแทบทุกรายต่างหันมาใช้คอนเซปต์ เข้ารับฟรีถึงที่ และให้บริการไม่มีวันหยุด สำหรับแฟลช เอ็กซ์เพรส นับว่าเราเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้ เรามองหาสิ่งที่แตกต่างด้วยการมองถึงภาพรวมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน เหนือสิ่งอื่นใดคือการนำเอา Pain point ที่ตลาดพบเจอเข้ามา Apply ให้สอดคล้องกับบริการใหม่ๆ ที่เราจะคลอดออกมา เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายหลัก คือ การสนับสนุนตลาดให้สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างไม่มีสะดุด และยังช่วยให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยู่บน Platform สามารถทำธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น”
คุณคมสันต์ ยังได้พูดถึงทิศทางธุรกิจของ Flash ในปี 2565 ว่า บริษัทเร่งเดินหน้าขยายบริการให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศในแถบ South East Asia ทั้งหมด โดยเมื่อปี 2564 ได้มีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้วใน สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ รวมถึงอีกหลายๆประเทศที่จะแถลงภายใน Q1/65 นี้ อาทิ มาเลเซีย ซึ่งคาดว่ามาเลเซีย จะเป็นประเทศที่สามที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกนี้ และมีอีกหลายประเทศที่ในปี 2565 จะเปิดให้บริการให้ครอบคลุมโดยหลักๆจะเป็นในแถบ South East Asia
และจากการที่มีแพลนจะไปเปิดบริการเพิ่มที่ประเทศมาเลเซีย ใน Q1/65 คาดว่าจะครอบคลุมอาเซียนได้ในช่วงไหนนั้น คุณคมสันต์ มองว่าภายในปี 2022 จะเปิดได้ไม่น้อยกว่า 4 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน หรือ AEC ส่วนเฟสแรกและเฟสสองคาดว่าจะสามารถส่งสินค้าข้ามประเทศได้
ส่วนภาพรวมตลาดขนส่งไทยในปีนี้ มองว่า กำลังการจัดซื้อสินค้าแฟชั่นลดน้อยลง จะเป็นสินค้าอุปโภค บริโภคมากขึ้น ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์หรือสินค้ามีขนาดใหญ่เติบโตมากขึ้น สำหรับปี 2022 จะยังคงไปเรื่อยๆ และฟื้นตัว ส่วนการค้าขายออนไลน์และ Flash จะเติบโตเช่นกัน
“ในปี 2022 การแข่งขันของธุรกิจการขนส่งถือเป็นอุตสาหกรรมเนื้อหอม และทุกพื้นที่มีผู้ให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งภาพรวมการแข่งขันจะไม่ต่างกับปี 2021 มากนัก หลายๆค่ายออกแคมเปญใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่จะช่วยกระตุ้นตลาด สำหรับ Flash มองว่า เรายังคงแข่งขันได้และยังเป็นผู้นำในตลาดปัจจุบัน”
นอกจากนี้ภาพรวมการลงทุนใหม่ๆปีนี้ของ Flash จะเน้นการลงทุนไปยังต่างประเทศ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ E-commerce โดยตรง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการ E-commerce อย่างครบวงจร รวมถึงธุรกิจใหม่ๆที่จะลงทุนมากขึ้น อาทิ Bulky , Speed Guarantee
ในขณะที่สงครามราคาคาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงผู้ให้บริการหลายรายยังมีค่อนข้างเยอะ ซึ่งผู้ให้บริการหลายรายก็มีการระดมทุน การขึ้นต่อตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผู้ถือหุ้น และโครงสร้างของสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ ดังนั้นทุกรายจะมีสัดส่วนทางการตลาดและรายได้ที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันของราคาจึงเป็นเรื่องปกติของตลาด
และเมื่อถามถึงแผนระดุมทุนรอบใหม่มีแนวโน้มอย่างไรบ้างนั้น คุณคมสันต์ เอ่ยว่า สำหรับ Flash Group ยังคงมีการระดมทุนเรื่อยๆ และมีการเปิดกิจการในหลายๆพื้นที่ ส่วนการระดมทุนรอบใหม่นั้นคาดว่าประมาณกลางปีนี้จะเห็นการระดมอย่างแต่นอน
สำหรับการเป็นยูนิคอร์นคุณคมสันต์มองว่า ไม่ได้ต่างกับการทำงานรูปแบบเดิมมากนัก แต่จะมีข้อดีสำหรับสตาร์ทอัพหน้าใหม่ คือ ทำให้มีผู้ลงทุนจากตลาดและต่างประเทศให้ความสนใจมากขึ้น ซึ่งถือเป็นนามบัตรอีกใบของประเทศไทยที่สามารถแชร์กับชาวโลกได้ว่าประเทศไทยก็มีศักยภาพเช่นกัน
ทั้งนี้ Flash Express ยังได้เปิดเผยรายได้รวมของปี 2564 ที่ผ่านมา ว่ามีตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท และยอดพัสดุทั้งปี สูงกว่า 600 ล้านชิ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานกว่า 35,000 คน จุดรับส่งพัสดุทั่วประเทศมากกว่า 15,000 แห่ง
ประกอบด้วย Flash Shop ,Flash Home และจุด Drop Off ที่ร่วมกับกลุ่มพาร์ทเนอร์หลักอย่าง Cafe Amazon, บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT, ศูนย์การค้าบิ๊กซี (Big C) ,The Living OS และธนพิริยะ(NTP) เป็นต้น ทั้งนี้ในส่วนของศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่มีอยู่ 40 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งล่าสุดยังมีแผนขยายพื้นที่เพื่อรองรับกับปริมาณสินค้าในแต่ละวันที่มีมากกว่า 2 ล้านชิ้น
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด