อนาคตที่ปรึกษาทางการเงิน จะเป็นอย่างไร ? เมื่อ AI คือผู้ช่วยคนสำคัญ | Techsauce

อนาคตที่ปรึกษาทางการเงิน จะเป็นอย่างไร ? เมื่อ AI คือผู้ช่วยคนสำคัญ

ที่ปรึกษาการเงินหลายคนกำลังเผชิญกับภาวะ "งานเอกสารท่วมตัว" จนแทบไม่มีเวลาดูแลลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับงานที่ไม่สร้างรายได้ ทำให้การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นไปได้ยาก

อนาคตที่ปรึกษาทางการเงิน จะเป็นอย่างไร ? เมื่อ AI คือผู้ช่วยคนสำคัญ

จากข้อมูลพบว่า ที่ปรึกษาการเงินระดับสูงใช้เวลาเพียง 17% เท่านั้นในการพบปะลูกค้า ในขณะที่เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับงานเอกสารและธุรการต่างๆ เช่น งานหลังบ้าน (22%) งานเตรียมการประชุมและวิเคราะห์ข้อมูล (48%) และงานหาลูกค้าใหม่ (13%) นั่นหมายความว่า ที่ปรึกษาการเงินใช้เวลาถึง 70% ไปกับงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลลูกค้าโดยตรง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไข

และแม้ว่าที่ปรึกษาที่ทำรายได้สูง (1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปต่อปี) จะมีเวลาพบลูกค้ามากกว่า (26%) แต่ก็ยังถือว่าน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับเวลาที่เสียไปกับงานอื่นๆ

เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัทการเงินชั้นนำ เช่น Morgan Stanley จึงหันมาใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยให้ที่ปรึกษาการเงินทำงานได้ดีขึ้น โดย Morgan Stanley เห็นผลลัพธ์ที่ดีจากการใช้ AI ในธุรกิจของตน เห็นได้จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 ที่เพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

Morgan Stanley ได้ลงทุนอย่างจริงจังในการนำ AI มาใช้ รวมถึงการร่วมมือกับ OpenAI เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์การทำงานของที่ปรึกษา ช่วยให้พวกเขามีเวลาดูแลลูกค้ามากขึ้น และทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ความกังวลในการใช้ AI

อย่างไรก็ตาม บริษัทการเงินขนาดเล็กและขนาดกลาง ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ AI เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎหมาย ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และความรู้ทางเทคนิคที่ยังไม่มากพอ โดย 62% ของบริษัทเห็นว่าการขาดกฎหมายที่ชัดเจนเป็นอุปสรรคสำคัญในการนำ AI มาใช้

ปัจจุบัน บริษัทการเงินเกือบครึ่ง (45%) ยังอยู่ในช่วงศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับ AI ในขณะที่อีกหนึ่งในสาม (34%) เริ่มนำ AI มาใช้ในระดับเล็กๆ

AI ได้กลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของที่ปรึกษาการเงิน

ถึงแม้จะมีความกังวล แต่บริษัทการเงินก็รู้ดีว่า AI มีประโยชน์ในการช่วยให้ที่ปรึกษาการเงินทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดูแลลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นที่ปรึกษา

AI ช่วยให้ที่ปรึกษาทำงานได้ง่ายขึ้นในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการหาลูกค้า การวางแผนการเงิน การดูแลลูกค้า การตลาด หรือการจัดการเงินลงทุน นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้ทำงานด้านการตลาดได้อัตโนมัติ เช่น การเขียนข้อความโฆษณาและการทำวิดีโอ

การใช้ AI กับระบบเดิม

บริษัทที่ต้องการนำ AI มาใช้ในการดูแลลูกค้า การนำ AI ไปใช้กับระบบที่มีอยู่เดิมเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเห็นได้จากการที่ลูกค้าพึงพอใจกับการใช้เครื่องมือ AI ของ Nitrogen ที่ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาในการติดตั้งระบบใหม่

ปัจจุบัน มีบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินที่เน้น AI กว่า 50 บริษัท ที่มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับ และส่วนใหญ่กำลังมีลูกค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า AI พร้อมแล้วสำหรับการใช้งานจริง

เทคโนโลยี AI ที่น่าสนใจ

  • AI สร้างข้อความการตลาด: Typeface, Jasper, Content, Vintom, Omneky
  • AI ด้านการเงิน: Kasisto, Bust, Arthur, Nextla
  • AI ช่วยวางแผนการเงิน: Blueleaf, Healthplan
  • AI ช่วยดูแลลูกค้า: Docuphase, Laser App, Zocks
  • AI ช่วยทำการตลาดและหาลูกค้าใหม่: Identified, Nitrogen, Jump, FMG

AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวงการที่ปรึกษาการเงิน โดย AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่คน แต่เข้ามาช่วยให้ที่ปรึกษาทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีเวลาดูแลลูกค้ามากขึ้น และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น บริษัทที่ปรับตัวและนำ AI มาใช้ได้ก่อน จะได้เปรียบในการแข่งขันในยุคนี้

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

EU เริ่มกฎบังคับใช้พอร์ตชาร์จ USB-C ตั้งเป้าลดขยะอิเล็กทรอนิกส์

หลังจากที่สหภาพยุโรป หรือ EU ได้ออกมาเคลื่อนไหวด้านการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการเคลื่อนไหวด้านกฎบังคับให้ใช้พอร์ตชาร์จเดียวกันสำหรับทุกอุปกรณ์มาตั้งแต่ปี 2022 ล่าสุดกฎหมายดังกล่าว...

Responsive image

GAC บุกตลาดหุ่นยนต์ เปิดตัว GoMate หุ่นสี่ล้อสองขาสูงเท่าคน เตรียมใช้ในโรงงานผลิตรถยนต์

GAC Group แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ได้เปิดตัวหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์หรือ Humanoid ในชื่อ GoMate เพื่อตอบรับเทรนด์การใช้หุ่นยนต์แทนแรงงานในอนาคต...

Responsive image

หมดยุครถน้ำมัน? จีนจ่อทุบสถิติ ยอดขาย EV แซงหน้ารถสันดาปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

แม้จีนจะขึ้นชื่อด้านรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยอดขายในประเทศยังถือว่าตามหลังรถสันดาป (ICE) แต่ในปี 2025 ที่กำลังจะถึงนี้ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนอาจแซงรถยนต์สันดาปเป็นครั้งแรก นับเป็นจุดเปลี่ยน...