แม่บ้าน AI ใกล้ความจริง Google Deepmind เริ่มพัฒนาแล้ว โมเดล AI เพื่ออัปเกรดความสามารถหุ่นยนต์ | Techsauce

แม่บ้าน AI ใกล้ความจริง Google Deepmind เริ่มพัฒนาแล้ว โมเดล AI เพื่ออัปเกรดความสามารถหุ่นยนต์

แน่นอนในปัจจุบันเรามี AI ที่ฉลาดหลักแหลม สามารถตอบคำถามได้เหมือนมนุษย์ หรือทำโจทย์ทางคณิตศาสตร์ยากๆ ได้แล้ว ซึ่งสามารถช่วยเราทำ Task ในงานประจำของเราได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับ ‘งานบ้าน’ เรายังไม่ค่อยเห็นใครที่พัฒนา AI เข้ามาช่วยในเรื่องนี้

บทความนี้ Techsauce จึงอยากชวนมารู้จักกับ ALOHA Unleashed และ DemoStart ระบบ AI ตัวใหม่จาก Google Deepmind ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยด้านความคล่องแคล่วของหุ่นยนต์ ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้งานที่ซับซ้อนได้เร็วขึ้น ตั้งแต่การแขวนเสื้อ ไปจนถึงผู้เชือกรองเท้า !

รู้จัก ALOHA Unleashed และ DemoStart 

การแขวนเสื้อหรือการผูกเชือกรองเท้า อาจฟังดูเป็นงานที่ไม่มีความซับซ้อนสำหรับคน เพราะสิ่งเหล่านี้เราเรียนรู้กันได้ตั้งแต่เด็กๆ แต่สำหรับหุ่นยนต์แล้วมันเป็นงานที่ต้องอาศัยกระบวนการคิดหลายชั้น เพื่อทำให้มือและแขนทั้ง 2 ข้างสามารถทำงานสื่อประสานกันได้อย่างราบลื่น

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ Google Deepmind พัฒนาระบบ AI อย่าง ALOHA Unleashed และ DemoStart ขึ้นมา ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้ก็มีความสามารถที่แตกต่างกันไป ได้แก่

  • ALOHA Unleashed: ระบบ AI ที่จะทำให้หุ่นยนต์ใช้แขนสองข้างเพื่อทำภารกิจที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น เช่น การผูกเชือกรองเท้า แขวนเสื้อ และแม้แต่ทำความสะอาดครัว เพราะก่อนหน้านี้ความสามารถของหุ่นยนต์มักทำได้แค่การใช้แขวนข้างเดียวทำงานง่ายๆ เช่น การหยิบของ เท่านั้น ซึ่งเมื่อนำ ALOHA Unleashed หุ่นยนต์จะสามารถเรียนรู้ได้ผ่านการ ‘ดูตัวอย่างของงานที่ต้องทำ’ และฝึกฝนด้วยตัวเอง ซึ่งระบบ AI ใหม่นี้จะเข้ามาช่วยให้หุ่นยนต์เรียนรู้และเข้าใจได้เร็วขึ้น 
  • DemoStart: ระบบ AI ที่จะทำให้หุ่นยนต์เรียนรู้วิธีใช้มือ นิ้ว และข้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย DemoStart จะใช้ฝึกหุ่นยนต์ผ่านการจำลองสถานการณ์ ซึ่งความพิเศษของระบบใหม่่นี้คือ หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้รวดเร็วขึ้นถึง 100 เท่า 

อนาคตของหุ่ยนต์ในยุค AI

Google Deepmind ชี้ว่า หุ่นยนต์คือเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถเข้าใจได้ว่า AI ทำงานได้ดีแค่ไหนในชีวิตจริง ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ LLM สามารถอธิบายวิธีการขันน็อตหรือผูกเชือกรองเท้าได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อมาอยู่ในหุ่นยนต์กลับประสบปัญหาในการทำงาน

แสดงให้เห็นว่าการทำความเข้าใจวิธีการทำบางสิ่งกับการทำจริงนั้นเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งการวิจัยและพัฒนา AI ที่นำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของหุ่นยนต์ครั้งนี้จะช่ายให้ในอนาคต หุ่นยนต์ AI อาจช่วยเหลืองานได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะงานบ้าน หรืองานอื่นๆ ในชีวิตจริง

อ้างอิง: deepmind.google, techcrunch


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Microsoft ร่วม BlackRock ตั้งกองทุน AI มูลค่า 3 ล้านล้าน ลุยแผนพัฒนาเอไอเต็มกำลัง

Microsoft และ BlackRock สองผู้นำในวงการเทคโนโลยีและการเงิน ร่วมกันเปิดตัวกองทุน Global AI Infrastructure Investment Partnership (GAIIP) โดยตั้งเป้าระดมทุนสูงสุดถึง 1 แสนล้านดอลลาร์...

Responsive image

Instagram ออกข้อจำกัดใหม่ เพิ่มความเข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวสำหรับวัยรุ่น

Instagram กำลังปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใหม่สำหรับผู้ใช้งานวัยรุ่นในสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการควบคุมการใช้งานโซเชียลมี...

Responsive image

สรุป 11 จุดเด่น AVATR 11 รถไฟฟ้าพรีเมียมรุ่นใหม่จาก CHANGAN ที่เปิดตัวในไทยราคาเริ่ม 2,099,000 บาท

หลังจากที่ CHANGAN ประสบความสำเร็จกับการนำรถยนต์ไฟฟ้า (EV) Deepal เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยทั้ง S07, S07L, L07 และ L07L ล่าสุดได้มีการนำรถแบรนด์ใหม่ในค่ายอย่าง Avatr (การเกิดใหม่...