หลังจาก Microsoft ได้มีการเปิดตัว Bing และ Edge รูปแบบใหม่ที่ใช้ AI วันถัดมา Google ก็ประชันศึกด้วยการจัดงานเปิดตัว AI ที่ปารีสเช่นกัน ซึ่งฟีเจอร์หลักที่เน้นคือเรื่องของ การค้นหา แผนที่ และการแปลภาษาที่จะมีการหยิบยกเทคโนโลยี AI มาใช้
ซึ่งตรงจุดนี้บอกได้ว่าไม่มีอะไรใหม่เป็นพิเศษ ส่วนมากจะเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่พัฒนาความสามารถเพิ่มโดยใช้ AI โดยการเปิดตัวแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือจะเปิดให้ใช้งานเร็วๆ นี้ และอีกส่วนจะยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนว่าผู้ใช้งานจะได้ใช้ตอนไหน อาจจะต้องรอนานเป็นเดือนหรือหลายสัปดาห์เลยก็เป็นได้
Rueters เป็นสื่อแรกที่ชี้เป้าว่า Google ยิงโฆษณาลง Twitter เกี่ยวกับ Bard ที่เป็น AI ที่ใช้ LaMDA (Language Model for Dialogue Applications) เวอร์ชั่นเล็ก และได้มีการถาม Bard เกี่ยวกับข้อมูลเรื่องของ James Webb Space Telescope ซึ่งในโฆษณามีคนถามว่า “What new discoveries from the Jame Webb Space Telescop (JWST) Can I tell my 9-year old about ? ซึ่ง Bard ก็ได้ให้คำตอบกลับมามากมาย แต่มีประโยคหนึ่งที่บอกว่า JWST ถูกใช้ในการถ่ายภาพดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะเป็นครั้งแรก และนั่นกลับเป็นข้อมูลที่ผิด ซึ่งข้อมูลจาก NASA ระบุว่าภาพนั้นถูกถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์ Very Large Telescope (VLT) ของ European Observatory ในปี 2004 ต่างหาก
การให้ข้อมูลผิดของ Bard เหมือนลูกศรที่ย้อนกลับมาหา Google ซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นใน Bard เริ่มสั่นคลอน และตามมาด้วยหุ้น Alphabet บริษัทแม่ของ Google ร่วงลงมาถึง 9% เลยทีเดียว
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ผู้บริหารระดับสูงเคยออกมากล่าวกับพนักงานว่า บริษัทมีความเสี่ยงด้านชื่อเสียง ต้องระมัดระวังในการให้ข้อมูลผิดกับผู้ใช้งาน ทำให้ที่ผ่านมาไม่ได้มีการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI Chatbot เหมือนของ ChatGPT ในขณะที่ OpenAI เคยเปิดเผยข้อจำกัดของ ChatGPT ไว้ว่า บางครั้งสามารถเขียนคำตอบที่ฟังดูน่าเชื่อถือแต่ไม่ถูกต้องหรือไร้สาระ
นอกจากให้ข้อมูลผิดแล้ว Bard ยังเปิดให้คนเฉพาะกลุ่มได้ทดลองใช้งาน ซึ่งต่างจาก new Bing และ ChatGPT ที่เปิดให้ใช้งานเป็นวงกว้างมากกว่า มากไปกว่านั้นยังทำโทรศัพท์ที่จะใช้ทดสอบฟังก์ชั่น multisearch หายระหว่างการบรรยายอีกด้วย
ทั้งหมดนี้จึงเป็นบทสรุปของเหตุการณ์หุ้นที่ร่วงไปถึง 9% นับเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่คู่แข่งอย่าง Microsoft กลับหุ้นพุ่งขึ้น 3% และมูลค่าตลาดยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นาทีนี้เราก็ต้องมาจับตาดูกันต่อไปว่า สมรภูมิเดือดนี้บทสรุปจะเป็นเช่นไร และ Google จะออกมาพลิกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับทำให้หุ้นกลับมาสดใสดังเดิมได้อย่างไร ? และต่อไปจะมีอะไรใหม่ ๆ ออกมาให้เราตื่นตาตื่นใจกันอีกบ้าง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด