Grab สร้างสรรค์และพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดประสงค์เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการเมื่อพวกเขาค้นหา สั่งซื้อและรอให้อาหารมาถึง โดยสิ่งที่เราคำนึงถึง เมื่อพัฒนาเทคโนโลยีในการจัดส่งอาหาร ได้แก่
- ออกแบบระบบที่สามารถปรับให้เข้ากับแต่ละท้องถิ่นได้ง่าย (Enable localisation at scale)
- สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภคและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ธุรกิจของพาร์ทเนอร์ (Delight eaters and drive sustainable demand for our merchant-partners)
- รักษามาตรฐานของประสบการณ์ของผู้บริโภค ในช่วงเวลาที่มีคนขับไม่เพียงพอ และมีจำนวนสั่งอาหารที่มาก (Protect eater experiences in crunch time)
การปรับโฮมเพจ Grab Food ให้เข้ากับแต่ละประเทศ
- ทีมในแต่ละประเทศมีความสามารถในการปรับแต่งส่วนต่างๆในโฮมเพจของ Grab Food เพื่อเน้นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้บริการในแต่ละตลาด โดยพิจารณาจากรูปแบบการบริโภคที่มาจากพฤติกรรมการสั่งซื้อ
- การแสดงผลบนโฮมเพจที่แต่ละประเทศสามารถปรับแต่งได้ ได้แก่ การปรับคอนเทนต์บนแบนเนอร์ การจัดหมวดหมู่ และตัวเลือกแบบ Carousel
การนำเสนอตัวเลือกในการสั่งอาหารที่เหมาะสม
ในกรณีที่ร้านอาหาร หรือเมนูอาหารที่ผู้ใช้งานค้นหามีน้อยกว่า 4 ตัวเลือก แอปพลิเคชันจะค้นหาตัวเลือกเพิ่มเติมจาก คีย์เวิร์ด ที่คล้ายคลึงกันในหมวดเดียวกัน ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับการพัฒนามาแมชชีนเลิร์นนิ่ง
หลักเกณฑ์ในการจัดอันดับตัวเลือกอาหาร
- แอปพลิเคชัน Grab Food สามารถให้คำแนะนำอาหารที่เหมาะสม โดยอ้างอิงจากความชอบส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
- หลักเกณฑ์ในการจัดอันดับตัวเลือกอาหารที่แนะนำให้แก่ผู้ใช้บริการประกอบไปด้วยปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ 1.ปัจจัยทั่วไป เช่น ความนิยมของร้านอาหาร, การคำนวณเวลาที่ออเดอร์จะมาถึงมือ (Estimated Time of Arrival: ETA), ปริมาณคนขับที่พร้อมรับงาน ณ เวลาที่กดสั่งอาหาร ฯลฯ , 2. ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น ประวัติการสั่งและค้นหาเมนูอาหาร (เช่น ชนิดอาหาร / งบประมาณ / ตัวเลือกอาหารที่ชอบ)
- ร้านค้าที่ตรงกับโปรไฟล์ของคุณมากที่สุดจะปรากฏเป็นอันดับแรก
การนำเสนอตัวเลือกอาหารแบบเรียลไทม์
- ตัวเลือก ‘แนะนำสำหรับคุณ’ ในหน้าแรกของแอปพลิเคชัน Grab Food สามารถนำเสนอตัวเลือกอาหารให้แก่ผู้ใช้บริการได้แบบเรียลไทม์ จากรูปแบบการค้นหา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้บริการค้นหาร้านอาหาร Fast-Food ระบบจะทำการอัพเดทตัวเลือกร้านอาหาร/เมนูอาหารให้แสดงผล เป็นตัวเลือกร้านอาหาร Fast Food ที่ใกล้เคียงกันแทบจะในทันที
- การสั่งอาหาร: ตัวเลือกการสั่งซื้อหลายรายการ ด้วยเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร้านค้า สำหรับลูกค้า ปัจจุบันเรามีรูปแบบการสั่งอาหารทั้งหมด 5 รูปแบบในแอปพลิเคชัน:
- สำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้า เราพัฒนาระบบเทคโนโลยีหลังบ้าน เพื่อทำให้ประสิทธิภาพการรับงานดียิ่งขึ้น:
แพลตฟอร์มการรับออเดอร์
เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับคำสั่งอาหาร ทีมงานได้พัฒนาแพลตฟอร์มการรับออเดอร์ ซึ่งเชื่อมต่อระบบมากกว่า 10 ระบบ
สิ่งที่แพลตฟอร์มนี้ทำได้คือ
- ร้านอาหารจะสามารถเห็นรูปแบบของการสั่งอาหารของลูกค้าทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของออนดีมานด์ การรับอาหารด้วยตัวเอง การสั่งอาหารล่วงหน้า การสั่งอาหารแบบกลุ่ม และมิกซ์แอนด์แมตช์
- ร้านค้าสามารถอัปเดตข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง เช่น สินค้าหมด หรือมีการเปลี่ยนแปลงของเวลาทำการของร้านค้า
- เสริมเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ไว้ในแอปพลิเคชั่น GrabMarchant สำหรับร้านค้า เพื่อให้สามารถเข้าใจพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้า และจัดแคมเปญที่เหมาะสม
- เสริมเครื่องมือแบบ Open Platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และทำให้กระบวนการเชื่อมต่อให้ราบรื่นมากที่สุด
การเชื่อมต่อระบบ ณ จุดขาย (POS)
ตัวอย่างของเครื่องมือแบบ Open Platform ที่ Grab พัฒนาขึ้นมา ได้แก่ การเชื่อมต่อระบบ ณ จุดขายของพาร์ทเนอร์ร้านค้า ให้เข้ากับระบบของ GrabMerchant อย่างไร้รอยต่อ
- ก่อนหน้าการเชื่อมต่อระบบ ณ จุดขาย พนักงานร้านอาหาร จะทำการใส่ข้อมูลออเดอร์ Grab Food จากแอปพลิเคชัน GrabMerchant เข้าไปยังระบบ ณ จุดขายที่ร้านอาหารด้วยตนเอง
- ด้วยการเชื่อมต่อระบบ ออเดอร์อาหารจาก Grab Food จะถูกส่งตรงไปยังระบบ ณ จุดขายของร้านอาหาร และส่งต่อเข้าไปในครัว และเมื่อใดก็ตามที่ร้านค้าอัปเดตสถานะเมนูในระบบ ณ จุดขาย จะมีการแสดงผลบนแอปพลิเคชัน Grab Food ในทันที
- ฟีเจอร์นี้ทำให้ร้านอาหาร สามารถจัดการออเดอร์ได้ภายในระบบเดียว อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความแม่นยำในการทำงานได้อีกด้วย
- เพื่อส่งเสริมและเปิดให้พาร์ทเนอร์ร้านอาหรสามารถรวมระบบ ณ จุดขาย เข้ากับ GrabMerchant ทีมงานยังได้มีการพัฒนาระบบแบบ Self-Serve ที่ให้คำแนะนำการใช้งานระบบทีละขั้นตอน การทดสอบและแก้ไขจุดบกพร่อง เพื่อช่วยให้ร้านค้าสามารถตั้งค่าการเชื่อมต่อระบบ ณ จุดขายได้ด้วยตนอง
- ทีมงานพร้อมให้การช่วยเหลือพาร์ทเนอร์ร้านค้า เมื่อประสบปัญหาทางเทคนิค
การรอ: เวลาการเตรียมอาหารและปริมาณคนขับ
เวลาการเตรียมอาหาร (On-Time Preparation)
- การประเมินเวลาในการเตรียมอาหารที่แม่นยำมีความสำคัญต่อการคำนวณเวลาที่ออเดอร์จะมาถึงมือผู้สั่ง (ETA: estimated time of arrival)
- โดยเฉลี่ยแล้ว คนขับมักใช้เวลารออาหารที่ร้านประมาณ 6-11 นาที เพื่อให้ร้านอาหารเตรียมอาหารเสร็จ
- เนื่องจากพฤติกรรมการเตรียมอาหารของร้านมักแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด Grab จึงได้ทดสอบฟีเจอร์หลากหลายรูปแบบเพื่อกระตุ้นให้ร้านจัดเตรียมอาหารให้ทันเวลา และเพื่อลดเวลาที่คนขับต้องรอที่ร้านอาหาร
เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของคนขับ
- ระบบงานแบบหลายคำสั่งซื้อ (Batching)
- ระบบ batching จะทำการจ่ายออเดอร์ 2 คำสั่งซื้อหรือมากกว่าให้แก่คนขับ 1 คน โดยมีเงื่อนไขว่า คำสั่งซื้อสั่งนั้นๆ ต้องมีจุดรับ (pick-up) ใกล้เคียงกัน หรือมีจุดส่ง (drop-off) ใกล้เคียงกัน With
- ระบบ batching พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของคนขับ โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนและในช่วงเวลาที่มีปริมาณคนขับไม่เพียงพอ เช่น เมื่อมีฝนตกหนักในช่วงมื้อเย็น
– การลดรัศมีการส่ง
- ในช่วงเวลา crunch time หรือเวลาที่มียอดออเดอร์จำนวนมาก หรือมีจำนวนคนขับในพื้นที่ไม่เพียงพอ ผู้ใช้บริการอาจต้องรออาหารเป็นระยะเวลานาน รวมถึงยังมีโอกาสสูงขึ้นที่ร้านอาหารจะกดยกเลิกออเดอร์ เนื่องจากมีปริมาณงานล้นมือแล้ว
- เมื่ออัตราการจ่ายงานแก่คนขับ (driver allocation rate) และอัตราการจบงานของคนขับ (order completion rate) ลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ ระบบจะค่อยๆ ปรับลดรัศมีการส่งงานโดยอัตโนมัติ
- ระบบนี้จะรวมคนขับให้มาอยู่ในรัศมีพื้นที่ที่แคบลง เพื่อเพิ่มอัตราการจบงาน
- ระบบจะเปิดอยู่จนกว่าอัตราการจบงานจะกลับมาอยู่ในระดับปกติ และเมื่อมีจำนวนคนขับเพิ่มขึ้นในพื้นที่นั้นๆ