สำนักข่าว Bloomberg รายงาน Grab Holdings Ltd. กำลังเตรียมการปลดพนักงานรอบใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่โควิดระบาด หลังเจอการแข่งขันสูงทั้งในตลาดเดลิเวอรี่และบริการเรียกรถ โดยการประกาศอย่างเป็นทางการจะมีในสัปดาห์นี้
คาดว่าพนักงานที่โดนปลดจะเยอะกว่าในปี 2020 ซึ่งตอนนั้นบริษัทปลดพนักงานไป 360 คน คิดเป็น 5% ของพนักงานทั้งหมด
แม้ Grab จะเป็นผู้นำในตลาดแอปเรียกรถรับและจัดส่งของในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็ยังไม่สามารถทำกำไรได้ เพราะต้องใช้ทุนที่มีไปกับการอัดฉีดให้ธุรกิจเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชัน การเพิ่มไรเดอร์ เป็นต้น
เมื่อเดือนที่ผ่านมาบริษัทรายงานผลประกอบการที่ชี้ให้เห็นว่าขาดทุนน้อยลง แต่ยอดขายทั้งหมด (gross merchandise value) กลับเพิ่มขึ้นเพียง 3% ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมาทั้งปี 24% และนักลงทุนคาดว่าจะขาดทุนต่อเนื่อง นอกจากนั้นเมื่อพิจารณาจากรายได้สุทธิทั้งหมด ก็ยังห่างไกลที่จะทำกำไรได้
นอกจากนั้นยังเจอแรงกดดันจากการแข่งขันจากผู้เล่นเจ้าอื่นในตลาดเดียวกัน เช่น GoTo ของอินโดนีเซีย ไม่ว่าจะเป็นการทำราคา การทำโปรโมชันมาแข่งกัน
การตัดสินใจปลดพนักงานครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า Grab ยอมจำนนต่อแรงกดดันของนักลงทุน ที่ต้องการให้บริษัทเร่งลดต้นทุนให้เร็วขึ้น เพราะที่ผ่านมา Grab ลดต้นทุนได้ไม่เร็วเท่าคู่แข่งเจ้าอื่นๆ เช่น GoTo หรือ Sea Ltd. ของสิงคโปร์ บริษัทแม่ Shopee ที่เลิกจ้างงานหลายพันคนในปีที่แล้ว
ในทางกลับกันปีที่ผ่านมา Grab เพิ่มจำนวนพนักงานถึง 3,000 คน หลังเข้าซื้อเชนกิจการซุปเปอร์มาร์เก็ตของมาเลเซีย Jaya Grocer ทำให้เมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทมีพนักงานอยู่ที่ประมาณ 11,000 คน
และปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาคก็ส่งผลกระทบต่อบริษัทเช่นเดียวกัน เพราะผู้บริโภคไม่มีเงินใช้จ่าย ด้วยอัตราเงินเฟ้อสูง
อ้างอิง : Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด