ข่าวที่สหรัฐฯ เปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Self-Driving) กันไปโครมๆ ทั้งค่ายผู้ผลิตรถเอง หรือผู้ให้บริการรถสาธารณะอย่าง Uber ล่าสุดไม่ต้องบินไปไกล เพราะที่สิงคโปร์ทั้ง Uber และ Grab ก็พากันทดสอบในสิงคโปร์แล้ว

ภาพจาก Reuters

หลังจากที่มีข่าวระดมทุนไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ Grab ก็มาพร้อมการประกาศว่าได้จับมือกับ NuTonomy ส่วนงานที่แยกมาจาก MIT ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และแย่งชิงการเป็นผู้นำด้านรถยนตร์สาธารณะที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติรายแรกแข่งกับ Uber ให้ได้

การทดสอบครั้งนี้ยังจำกัดเพียงแค่ในระยะ 2.5 ตารางกิโลเมตร ในย่านธุรกิจที่เรียกว่า "One North" แต่ลูกค้าเรียกออกไปเกินขอบเขตที่กำหนดให้ทดสอบด้วย สำหรับกรณีนี้จะมีผู้ตรวจสอบเข้ามาขับต่อเมื่อออกไปเกินนอกสถานที่ Grab ออกมากล่าวว่าเงินทุนที่ได้รับมานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ไม่ว่าจะ Grab เองหรือสำหรับฟากของ NuTonomy เองที่พึ่งระดมทุนไป 18 ล้านเหรียญในช่วงต้นปี ดีลดังกล่าวเป็นแค่การจับมือร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย

โดยทักษะของทั้ง 2 รายประกอบด้วย

1. NuTonomy เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟแวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่ Grab สามารถนำไปใช้กับรถทดสอบได้ และเป็นการเพิ่มมูลค่าทั้งในภาพลักษณ์องค์กรเอง และเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ ที่กำลังเป็นกระแสในเวลานี้
2. Grab มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการนำทาง และแผนที่โดยตรง ซึ่งทำให้ NuTonomy ก็จะได้ประโยชน์จากข้อมูลต่างๆ ของ Grab ทั้งเรื่อง เส้นทาง แผนที่ และการจัดการ supply/demand

Grab ยังกล่าวอีกว่ามีแผนการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในประเทศเพื่อนบ้านในอนาคตข้างหน้า แต่ตอนนี้ก็เริ่มกับสิงคโปร์ก่อน ซึ่งเป็นประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม, แผนที่ที่แม่นยำ และทาง Grab เองก็อัพเดตอย่างต่อเนื่อง มีรัฐบาลที่สนับสนุนเต็มที่ (NuTonomy ได้เงินทุนจากSingapore Economic Development Board อีกด้วย)  กองบรรณาธิการก็แอบคิดเหมือนกันว่าถ้ามาไทยด้วยสภาพจราจร และถนนหนทางแบบนี้จะรอดไหมนะ

ที่มา: WSJ