โดยจะเป็นการมอบโซลูชันล้ำสมัย ทั้งการสัญจรที่สะอาดและอัจฉริยะ (Smart Mobility) ในย่าน BSD (เมือง Bumi Serpong Damai) ทางตอนใต้ของจาการ์ต้า, สนับสนุนการเติบโตของ SME รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนของชีวิตในเมือง
"Smart City นั้น จำเป็นที่จะต้องมีบริการที่ช่วยเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต มอบความสะดวกสะบาย ในชีวิตประจำวัน โดยเมืองอัจฉริยะจะเป็นต้นแบบ สำหรับ Grab ในการ pilot และนำเสนอบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า" Ridzki Kramadibrata ผู้ดำรงตำแหน่งประธาน Grab อินโดนีเซีย กล่าว
โดย Grab จะทำการจัดตั้งศูนย์วิจัยและสถาบันพัฒนาหรือ Grab Innovation and Engineering Lab ซึ่งพัฒนานวัตกรรม นำเทคโนโลยี AI สร้างระบบการขนส่งที่ชาญฉลาด ผ่าน 3 แผนความร่วมมือ ได้แก่ การทำแผนที่เมือง, การทดลองใช้อุปกรณ์พกพาส่วนบุคคลเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งระยะใกล้ในราคาที่เหมาะสม และโซลูชั่นการสื่อสารเคลื่อนที่
การเดินหน้าในครั้งนี้ ดำเนินตามแบบแผนของ Apple ที่ได้มีการเปิดศูนย์วิจัยและสถาบันพัฒนาในย่าน BSD ซึ่งอันที่จริงศูนย์วิจัยของ Grab นี้ก็ได้เปิดทำการภายในตึกเดียวกับ Apple
นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวยังสนับสนุนธุรกิจด้านอาหารโดยการติดตั้ง Kitchen ซึ่งเป็น Satellite kitchen โดย GrabFood และในขณะเดียวกันก็ขยายบริการอื่น ๆ อย่าง Grab for Business และ GrabAds ในย่าน BSD City ด้วยเช่นกัน ตั้งเป้าให้ย่านนี้เป็น Silicon Valley ของอินโดนีเซีย และจะเป็น Head Quarter ของ Grab Ventures Velocity (Accelerator Program ของ Grab) มีเม็ดเงินลงทุนบ่มเพาะ Startup กว่า 250 ล้านเหรียญ
Sinar Mas Land เป็นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัท Sinar Mas ทำการพัฒนาโครงการในอินโดนีเซียมากกว่า 50 มากว่า 40 ปี โดยการลงนามในข้อตกลงร่วมกัน คาดว่าเป็นครั้งแรกของความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างสองฝ่าย โดยตอนนี้จะเป็นการโฟกัสไปที่พาร์ทเนอร์ชิพเท่านั้น ขณะนี้ Grab กำลังระดมทุนรอบ Series H ระดมเงินกว่า 3 พันล้านเหรียญ จากบรรดานักลงทุนต่างประเทศ ทั้งจาก Toyota, Hyundai, Yamaha, Microsoft, ธนาคารกสิกร, Booking Holdings, OppenheimerFunds, Ping An Capital และ Tokyo Century
ภาพหน้าปกและที่มาจาก: Indonesia: Grab seals partnership with Sinar Mas Land, launches innovation lab
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด