Grab เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ในไทย ยกระดับความปลอดภัยให้ทั้งผู้ใช้และคนขับ | Techsauce

Grab เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ในไทย ยกระดับความปลอดภัยให้ทั้งผู้ใช้และคนขับ

  • Grab เตรียมทุ่มเงินลงทุนในระบบความปลอดภัยเพิ่มขึ้นสองเท่า ในปี 2562
  • Safer Everyday เทคโนโลยีที่ยกระดับความปลอดภัยในการเดินทาง ฟีเจอร์ที่โดดเด่นได้แก่ ระบบเทเลมาติกส์ ติดตามจีพีเอสเพื่อเก็บรายงานพฤติกรรมคนขับ, ระบบ Share My Ride เพื่อให้ทั้งผู้โดยสารและคนขับสามารถแชร์การเดินทางของตัวเองให้คนใกล้ตัวรู้ได้แบบเรียลไทม์ และระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้าในการขับขี่
  • ร่วมสนับสนุนโครงการ UNiTE to End Violence against Women แคมเปญเพื่อต่อต้านความรุนแรงต่อเด็กและผู้หญิงของเลขาธิการสหประชาชาติ

Grab ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแบบ Online to Offline ซึ่งมีบริการหลักอย่าง Ride-Hailing เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday เพื่อมุ่งเน้นยกระดับความปลอดภัยทั้งแก่ผู้ใช้และผู้ให้บริการในแพลตฟอร์ม หลังจากการเติบโตและขยายตัวครอบคลุมบริการกว่า 235 เมือง ใน 8 ประเทศ และให้บริการการเดินทางไปแล้วกว่า 2,500 ล้านเที่ยว ในประเทศไทยเองปัจจุบัน Grab ก็ให้บริการอยู่ 16 จังหวัด

นายธรินทร์  ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ Grab ประเทศไทย กล่าวว่า “เราเชื่อว่าความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงสุดเป็นอันดับสองของโลก และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 24,000 คนในแต่ละปี ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนนจึงเป็นสิ่งที่ Grab ให้ความใส่ใจ และต้องการเข้ามาช่วยเหลือในการแก้ไข”

จากการมีบริการในส่วนของศูนย์คอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมง ฟีเจอร์ปกปิดเบอร์มือถือผู้ใช้ และการตรวจสอบประวัติผู้ขับขี่ไปจนถึงระบบการยืนยันแอคเคาท์ผู้ใช้ เหล่านี้คือส่วนของการบริการด้านความปลอดภัยที่ทำให้ Grab สามารถลดจำนวนเหตุไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มได้ 40% นับจากไตรมาสสามในปี 2560

"ธุรกิจของเราเริ่มต้นจากความพยายามที่จะมอบการเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน"

Safer Everyday กับฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัย

เทคโนโลยี Safer Everyday คือเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะมาช่วยพัฒนาระบบความปลอดภัยในแพลตฟอร์มของ Grab โดยที่จะคำนึงทั้งความปลอดภัยของผู้ใช้ซึ่งเป็นลูกค้า และพาร์ทเนอร์ของ Grab ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับในบริการเรียกรถ พาร์ทเนอร์ในบริการอื่นๆ ไปจนถึงทุกการทำธุรกรรมจับจ่ายบน Grab ซึ่งฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะเข้ามาเสริมมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ของ Grab ได้แก่

  1. การยืนยันตัวตนทั้งคนขับและผู้โดยสาร เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบประวัติพาร์ทเนอร์คนขับที่ละเอียดเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจประวัติอาชญากรรมที่ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ใช้ยังมั่นใจได้มากขึ้นว่าคนขับและเจ้าของใบอนุญาตขับขี่เป็นคนเดียวกันด้วยการเพิ่มขั้นตอนให้คนขับ Selfie ถ่ายรูปตัวเองเพื่อแสดงในระบบ
  1. ขอความช่วยเหลือทันท่วงที ฟีเจอร์ Share My Ride เพื่อแชร์การเดินทางให้คนอื่นทราบแบบเรียลไทม์ได้อย่างสะดวกสบาย และ Emergency SOS ปุ่มโทรฉุกเฉินเบอร์ 191 หรือคนใกล้ตัวที่รองรับทั้งหมดสามรายชื่อ ซึ่งปัจจุบันบริการนี้มีในส่วนของผู้ใช้เท่านั้น จะถูกเพิ่มให้ในส่วนของพาร์ทเนอร์คนขับด้วย
  1. ระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้า และระบบเทเลมาติกส์เพื่อรายงานพฤติกรรมการขับ Grab ได้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการวิเคราะห์เพื่อให้พาร์ทเนอร์คนขับปรับปรุงพฤติกรรมการขับรถของตัวเองให้ปลอดภัยมากขึ้น ด้วยระบบ Driver Fatigue Monitoring System ระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้าในการขับขี่ เพื่อป้องกันการขับรถติดต่อกันนานเกินระยะเวลาที่กำหนด และระบบ เทเลมาติกส์ เก็บรายงานพฤติกรรมการขับ การเร่งความเร็ว การเบรก และการวิเคราะห์อื่นๆ เทคโนโลยีทั้งสองมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนขับเพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ
  2. ความปลอดภัยในทุกขั้นตอน ไม่เพียงแต่ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุจากการเดินทาง ขั้นตอนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการก็เป็นสิ่งที่ Grab จะพัฒนาระบบความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้จะสามารถกำหนดและควบคุมข้อมูลความเป็นส่วนตัวที่เก็บไว้บนแอปได้ ไปจนถึงทุกธุรกรรมการจับจ่ายที่เกิดขึ้นบนแอปที่จะมีการสร้างกำแพงป้องกันให้ยากต่อการรั่วไหลของข้อมูล

นอกจากนี้ก็ยังมีระบบเพื่อความปลอดภัยอีกหลายอย่างที่ Grab ได้ทำมาก่อนหน้านี้แล้วและจะพัฒนาต่อไป ระบบความปลอดภัยเหล่านี้จะทำงานอยู่ทั้งในส่วนของ IN-APP และในส่วนของหลังบ้าน เช่นประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลแก่ผู้โดยสารและคนขับ การอบรมการขับขี่เชิงป้องกันอุบัติเหตุแก่คนขับ หรือระบบปกปิดเบอร์มือถือเพื่อปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

สนับสนุนโครงการ UNiTE to End Violence against Women แคมเปญเพื่อต่อต้านความรุนแรงต่อเด็กและผู้หญิงของเลขาธิการสหประชาชาติ

โครงการ UNiTE โดยเลขาธิการสหประชาชาติ คือโครงการที่มีเป้าหมายเรียกร้องให้รัฐบาล ประชาสังคม องค์กรเพื่อสตรี เยาวชน เอกชน สื่อมวลชน และเครือข่ายสหประชาชาติ ร่วมมือกันป้องกันและต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กทั่วโลก โดยในประเทศไทย Grab จะร่วมสนับสนุนโครงการด้วยการดำเนินการรณรงค์ความปลอดภัยผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้เกี่ยวกับความปลอดภัย การจัดทำป้ายข้อมูลรณรงค์ความปลอดภัยในรถ การทำคอนเทนท์ให้ความรู้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ และช่องทางอื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างความรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญของความปลอดภัยของผู้หญิงและผู้เดินทางทั่วไป

โดยนายธรินทร์ ยังพูดถึงถึงวิสัยทัศน์ของ Grab ที่ตั้งใจจะลดจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในแพลตฟอร์มของ Grab ให้เหลือเป็นศูนย์ให้ได้ ซึ่งในการของพัฒนาระบบความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่ทาง Grab ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกควบคู่ไปกับการเติบโตและการขยายธุรกิจ และยังกล่าวสรุปทิ้งท้ายไว้อีกว่า

“ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผู้คนยังต้องต่อรองค่าโดยสารเวลาใช้บริการแท็กซี่หรือบริการมอเตอร์ไซค์ แล้วก็ไม่รู้ว่าคนขับเป็นใคร แต่ก็จำเป็นต้องฝากชีวิตไว้กับคนแปลกหน้า แต่วันนี้ พวกเขารู้ได้ทันทีว่าผู้ขับขี่ที่มารับเป็นใคร ใครมาส่งเอกสารและนำอาหารมาให้ แถมรู้ค่าโดยสารก่อนที่จะขึ้นรถเสียอีก ที่สำคัญ คนที่ห่วงใยของพวกเขาก็สามารถติดตามเส้นทางที่พวกเขาไปได้ตลอดการเดินทาง จวบจนวันนี้ Grab จะยังคงก้าวต่อไปไม่หยุดยั้ง เราตระหนักดีว่ายิ่งธุรกิจของเราขยายและเติบโตเท่าไหร่ ภาระและหน้าที่ของเราในการมอบความปลอดภัยในทุการเดินทางของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และทุกคนที่พวกเขารัก ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

IMD จัดอันดับ Digital Competitiveness ปีนี้ ไทยร่วงจาก 35 เป็น 37 ถ้าอยากขยับขึ้น...ต้องแก้ไขตรงไหนก่อน?

ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ประจำปี 2567 โดย IMD World Competitiveness Center ไทยได้อันดับ 37 ขยับลงจากปีก่อน 2 อันดับ (35) แล้วจะทำอย่างไรให้ไทยได้อยู่ในอัน...

Responsive image

สู่ Siri ยุคใหม่ ! เผย Apple เตรียมเปิดตัว LLM Siri ในปี 2026 ท้าแข่ง ChatGPT โดยเฉพาะ

OpenAI ถือเป็นหนึ่งในบิ๊กเทคฯ ยักษ์ใหญ่ที่มีความก้าวกระโดดด้านการพัฒนา AI หลังจากสร้างกระแสด้วยแชทบอท ChatGPT ไปเมื่อปลายปี 2022 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งมีดีลกับ Apple ในการนำ Cha...

Responsive image

American Airlines เปิดตัวระบบจัดการคิวอัจฉริยะ เทคโนโลยีเสียงเตือนสองระดับ ปิดเกมสายแซงคิวขึ้นเครื่อง

เคยเจอไหม? คนแซงคิวขึ้นเครื่องจนวุ่นวายที่ประตูทางขึ้น หลังจากนี้จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อ American Airlines แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเสียงเตือนอัจฉริยะ ที่จะจับทุกความพยายามแอบขึ้นเครื...