เจาะกลยุทธ์ T.R.A.V.E.L ของ Grab กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่นและมหภาค | Techsauce

เจาะกลยุทธ์ T.R.A.V.E.L ของ Grab กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่นและมหภาค

ภาคการท่องเที่ยว คือองค์ประกอบสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะหลังจากรัฐบาลประกาศวิสัยทัศน์ Ignite Thailand เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคตที่ยั่งยืน และตั้งเป้าผลักดันประเทศให้เป็น Tourism Hub และเป็น Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลได้ประกาศเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวที่ 3.5 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 20% ของ GDP ประเทศไทย โดยการที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อช่วยการสนับสนุน และผลักดันการท่องเที่ยวไทยให้มีประสิทธิภาพ

แกร็บ ประเทศไทย ได้จัดเสวนาเชิงนโยบายประจำปี “GrabNEXT 2024: Driving towards the Future of Tourism ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสู่อนาคตที่ดีกว่า” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาแนวทางในการส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศด้วยการยกระดับการท่องเที่ยวไทยผ่านกลยุทธ์ T.R.A.V.E.L 

วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า  Grab ดำเนินธุรกิจในไทยมามากกว่า 10 ปี ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยที่ถือเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล ผ่านบริการต่างๆ ของแกร็บ ไม่ว่าจะเป็นบริการเรียกรถ (GrabCar) ที่สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวตั้งแต่มาถึงสนามบิน การบริการที่ครอบคลุม 71 จังหวัดทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ไปจนถึงการชำระเงินที่ง่ายและสะดวกต่อนักท่องเที่ยว 

นอกจากนี้ วรฉัตรยังได้แชร์ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทย พบว่า ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยมีการใช้จ่ายผ่าน Grab มากกว่าคนไทย 2 เท่า เพราะมีความต้องการด้านบริการที่มากกว่า เช่น รถยนต์คันใหญ่ และในช่วง Low season การท่องเที่ยวของไทยนักท่องเที่ยวก็ยังใช้จ่ายผ่านบริการของแกร็บเพิ่มขึ้น 

จากแนวคิดที่ต้องการผลักดันการท่องเที่ยวไทย จึงนำมาสู่กลยุทธ์ T.R.A.V.E.L ประกอบด้วย

Technological Integration การนำเทคโนโลยีดิจิทัลอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวในกลุ่ม F.I.T. (Free Independent Travelers) หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเองมีจำนวนมากถึง 87% ของนักท่องเที่ยวที่มาไทยทั้งหมด และ 53% มีการวางแผนท่องเที่ยว และจองที่พักล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ ดังนั้น แกร็บ จึงได้ออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีมาเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่การวางแผนการเดินทางไปจนถึงการอำนวยความสะดวกระหว่างการท่องเที่ยว อาทิ การพัฒนา App ให้มีหลายภาษา รองรับการชำระเงินผ่าน Alipay และ Kakao Pay

Reliability & Safety การสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว

เรื่องความปลอดภัยเป็นปัจจัยหลักที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่ หรือใช้บริการขนส่งสาธารณะต่างๆ แกร็บจึงได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยผ่าน 3 ส่วนสำคัญ คือ ฟีเจอร์ Safety Centre สำหรับแจ้งขอความช่วยเหลือ การคัดกรองและอบรมพาร์ทเนอร์คนขับ และการจัดแคมเปญรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัย 

Accessibility การส่งเสริมการเดินทางเพื่อเข้าถึงเมืองหลัก และเมืองรอง

ปัจจุบันรายได้จากการท่องเที่ยวในเมืองรองเติบโตขึ้นถึง 38% สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสำคัญกับเมืองรองมากขึ้น แกร็บจึงสร้างประสบการณ์การเดินทางแบบไร้รอยต่อด้วยบริการเรียกรถผ่านแอปฯ ครอบคลุม 71 จังหวัดทั่วประเทศทั้งเมืองหลักและเมืองรอง นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดจุดรับ-ส่งผู้โดยสารเพื่อให้บริการในสนามบินหลัก ทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ

Valuable Experiences การสร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ

ประสบการณ์แรกที่นักท่องเที่ยวจะได้รับเมื่อมาเยือนไทยคือ การต้อนรับจากสนามบิน ผู้คนยิ้มแย้ม คือเสน่ห์ความเป็นไทยที่หาไม่ได้จากประเทศอื่นๆ แกร็บจึงได้พัฒนาหลักสูตรการเป็นคนขัดที่ดีผ่านคอร์สอบรมออนไลน์ภายใต้โครงการ GrabAcademy ครอบคลุมทั้งในด้านมาตรฐานการให้บริการ การสื่อสารภาษาจีนและอังกฤษเบื้องต้น และการขับขี่อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังได้ยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้พิเศษยิ่งขึ้นผ่านบริการ GrabCar Premium ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 

Environmentally Friendly การส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลก

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลานี้การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ มีผลสำรวจพบว่า กว่า 90% ของนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ดังนั้น แกร็บจึงนำเสนอวิธีการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ Grab EV เพื่อส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์เปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2026 จำนวนรถ EV ที่ให้บริการผ่าน Grab จะมี 10% นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ชดเชยการปล่อยคาร์บอน (Carbon Offset) ที่ผู้ใช้บริการสามารถร่วมบริจาคเงิน 2 บาทต่อการเดินทาง หรือ 1 บาทจากการสั่งอาหาร เพื่อนำไปปลูกต้นไม้เพื่อชดเชยคาร์บอน ซึ่งจากการบริจาคเงินของผู้ใช้บริการในปี 2566 แกร็บสามารถนำไปปลูกต้นไม้ได้เป็นจำนวนกว่า 150,000 ต้น 

Local Touch การผลักดันให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่น

ทุกวันนี้ Soft Power ได้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยจากการสำรวจพบว่า 65% ของนักท่องเที่ยวให้ความสนใจกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวเทศกาลประจำจังหวัด การลิ้มลองอาหารพื้นบ้าน หรือการซื้อสินค้าจากชุมชน

แกร็บ ยังได้เผยอินไซต์ที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวอีกว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสั่งอาหารไทยผ่านแอปฯ เพิ่มขึ้น 130%, สั่งสินค้าจากร้านค้าชุมชนเพิ่มขึ้น 100% และนักท่องเที่ยวเรียกรถไปสนามมวยเพิ่มขึ้น 150% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

มุมมองจากบุคคลในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ในงานเดียวกันยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของบุคคลในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในมิติต่างๆ 

นิธิ สีแพร รองผู้ว่าการด้านการสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มองว่า เป้าหมายการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไทยต้องทำให้เป็น High-Value Destination และ Sustainable เป็น 2 แกนสำคัญที่ต้องทำควบคู่กัน เพื่อส่งมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่ดี รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อดูแลนักท่องเที่ยว อาจทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากกว่า 35 ล้านคน 

ด้าน ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรติ เผยว่า การท่องเที่ยวถือเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทยหากย้อนไปในช่วงก่อนเกิดโควิดประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่อปีประมาณ 40 ล้านคน ปัญหาที่ตามมาคือทรัพยากรธรรมชาติไม่เพียงพอหรือถูกทำลาย ทว่า ในปีนี้ความท้าทายไม่ใช่แค่จำนวนนักท่องเที่ยว แต่จะทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวยั่งยืน และผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวกระจายไปสู่เมืองรอง ไม่กระจุกตัวอยู่แค่กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ นักท่องเที่ยวจีนที่ไม่กลับมาเท่าเดิม ดังนั้น ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจึงต้องขยายฐานนักท่องเที่ยว ซึ่งไทยก็มีจุดเด่นในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม วัฒนธรรมน่าสนใจ มีเอกลักษณ์ท้องถิ่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้

และ เพลินพิศ โกศลยุทธสาร ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการตลาด ด้านการท่องเที่ยวและพันธมิตร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันการบินเป็นวิธีการเดินทางที่สำคัญมากของการท่องเที่ยว ตอนนี้ภาพรวมการบินในประเทศฟื้นตัวแล้วกว่า 70 ถึง 80% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิดถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ดังนั้น ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวในทุกรูปแบบมากขึ้นไปอีก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้การท่องเที่ยวของไทย 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

Signature Prestige
Signature Prestige
1 m. ago

Indulge in the epitome of luxury with Signature Prestige, your premier limousine service. Elevate your travel experience with our opulent fleet of exquisite vehicles, ensuring a seamless journey for any occasion, including sightseeing near me excursions. Our professional chauffeurs are dedicated to prioritizing your comfort and style, whether it's a corporate event, special celebration, airport transfer, or a leisurely tour of the best sightseeing spots near you. At Signature Prestige, we redefine sophistication and reliability, ensuring that every ride with us is a statement of elegance. Experience unparalleled limousine service with Signature Prestige. 

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำไมสิงคโปร์ ถึงกลายเป็นที่ลงทุนด้าน Deep Tech จากทั่วโลก ?

แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่การลงทุนเกิดการชะลอตัว แต่ไม่ใช่สำหรับ ‘สิงคโปร์’ ที่กำลังผงาดขึ้นอย่างเงียบๆ ในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “Deep Tech” ซึ่งเป็...

Responsive image

ครั้งแรกในไทยกับ ICIS 2024 งานประชุมระดับโลกด้าน Information Systems เปิดประตูสู่โอกาสใหม่สำหรับนักวิจัยไทย

การประชุม International Conference on Information Systems (ICIS) ประจำปี 2024 จะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในวันที่ 15-18 ธันวาคม 2567 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่งานประชุมระดับโลกด้าน Informati...

Responsive image

ปีหน้ามาแน่ Hyundai Initium รถไฮโดรเจนแห่งอนาคต วิ่งไกล 650 กม.

Hyundai เปิดตัว Initium รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนรุ่นใหม่ สู่อนาคตพลังงานสะอาดและยั่งยืน...