Grab ผู้นำด้านซูเปอร์แอพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศแผนการขยายธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาค และคาดว่าจะระดมเงินทุนได้รวมถึง 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ Grab จะดำเนินการลงทุนในเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยลงทุนหรือซื้อกิจการอย่างน้อย 6 ครั้งทั่วภูมิภาคภายในปีนี้ ตอกย้ำการเติบโตภายใต้การสนับสนุนของซอฟต์แบงก์และผู้ลงทุนเชิงกลยุทธ์รายสำคัญอื่นๆ ที่ได้ลงทุนไปกว่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในการระดมทุนรอบซีรีส์เอช โดยในเดือนที่ผ่านมา Grab ได้รับเงินลงทุนมูลค่า 1.46 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากกองทุนซอฟต์แบงก์ วิชัน ฟันด์ ที่เป็นพันธมิตรและร่วมมือทางธุรกิจกับ Grab อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557
นายแอนโธนี ตัน ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Grab กล่าวว่า “ผมได้พบกับมาซาโยชิ ซัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเขารับปากพร้อมสนับสนุนการขยายธุรกิจของเราอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ การสนับสนุนจากผู้ลงทุนเชิงกลยุทธ์อย่างซอฟต์แบงก์ จะช่วยให้บริการต่างๆ ของเราในปีนี้ เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งบริการทางการเงิน การเดินทาง และการจัดส่งอาหาร หากพิจารณาจากอัตราการเติบโตของเราในปัจจุบัน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ธุรกิจเราจะเติบโตกว่าคู่แข่งในอินโดนีเซียและในภูมิภาคถึง 4 เท่า โดยในขณะที่เราพัฒนาธุรกิจไปสู่การเป็นผู้นำด้านซูเปอร์แอพสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรายังเล็งเห็นโอกาสที่สำคัญๆ อีกมากมายในการขยายธุรกิจและนำเสนอบริการสำหรับลูกค้า พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ และคู่ค้าของเราทั่วทั้งภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง”
นาย หมิง มา ประธานบริษัท Grab ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจว่า “ขณะนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับโอกาสของเราในการขยายบริการด้านต่าง ๆ เช่น บริการดูแลสุขภาพและบริการทางการเงิน ทั้งนี้ เราได้เตรียมความพร้อมที่จะลงทุนหรือซื้อกิจการอย่างน้อย 6 ครั้ง และระดมเงินทุนให้ได้รวมทั้งสิ้น 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในสิ้นปีนี้ นอกเหนือจากตลาดอื่นๆ ที่มีความสำคัญในภูมิภาคแล้ว Grab ยังเตรียมนำเงินทุนที่ได้รับมาลงทุนในอินโดนีเซียเป็นหลัก เพื่อคงความเป็นผู้นำด้านบริการรถโดยสารแบบออนดีมานด์ และเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตมากกว่าคู่แข่งหลักถึง 4 เท่า”
ธุรกิจของ Grab ในอินโดนีเซียมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในปี พ.ศ. 2561 โดย Grab สามารถครองตลาดบริการเรียกรถโดยสารในอินโดนีเซียได้สูงถึงร้อยละ 62 จากผลสำรวจของ เอบีไอ รีเสิร์ช (ABI Research) สำหรับบริการแกร็บฟู้ดในอินโดนีเซียนั้น นับว่ามีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วมาก โดยมีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 178 เมืองจากเดิมที่มีอยู่เพียง 13 เมืองเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งปริมาณการจัดส่งอาหารได้เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าในปี พ.ศ. 2561
ในปีที่ผ่านมา Grab มีการขยายตัวทางธุรกิจที่สำคัญผ่านความร่วมมือกับบริษัทที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมระดับโลก เช่น โตโยต้า ฮุนได ไมโครซอฟท์ และมาสเตอร์การ์ด นอกจากนี้ Grab ยังได้ลงนามความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ในระดับประเทศและระดับภูมิภาค อาทิ เซ็นทรัลกรุ๊ปและธนาคารกสิกรไทยในประเทศไทย, โอโว่ ธนาคารบีทีเอ็น และธนาคารแมนดิริในประเทศอินโดนิเซีย, ธนาคารยูไนเต็ดโอเวอร์ซีส์ของสิงคโปร์ รวมถึงเอสเอ็มอินเวสเมนต์ของฟิลิปปินส์ โมคาของเวียดนาม และธนาคารเมย์แบงค์ของมาเลเซีย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด