Grab-Uber-Airbnb เริ่มปลดพนักงาน จากพิษ COVID-19

เมื่อการระบาดของไวรัส COVID-19 ยังไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดตรงไหน สถานการณ์เศรษฐกิจโลกก็ดูจะค่อย ๆ ย่ำแย่ลงไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าหลายบริษัทนั้นต้องเจอกับวิกฤติการเงินภายใน มีการลดต้นทุนต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะรุนแรงถึงการที่จะต้องลดพนักงาน เพื่อที่จะประคับประคองบริษัทให้คงอยู่ไว้ได้ในสถานการณ์ที่ไม่มีความแน่นอน ไม่แม้แต่บริษัทเล็ก ๆ บริษัทชื่อดังของโลกอย่าง Grab SG, Uber และ Airbnb ก็ยังได้รับผลกระทบจากพิษ COVID-19 และได้เริ่มมาตรการลดพนักงานเพื่อรักษาบริษัทให้คงอยู่ไว้ได้

โดยทาง Grab SG ได้เริ่มให้พนักงานนั้นหยุดโดยไม่จ่ายเงินเดือน (Leave without pay) และลดจำนวนชั่วโมงการทำงานลง เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการลดพนักงาน ซึ่งนี่เป็นสัญญาณที่เห็นได้ว่าสถานะบริษัท Startup ที่มีมูลค่ามากที่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้นั้นกำลังเริ่มมีปัญหาแล้ว 

ทางบริษัทได้เผยว่า “เราได้เริ่มดำเนินการที่จะพยายามรักษาและประหยัดเงินในบริษัท รวมถึงจัดการฐานพนักงาน ก่อนที่เราจะพิจารณาการปลดพนักงานออก” และยังได้กล่าวอีกว่า “มันมีความไม่แน่นอนหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงและระยะเวลาของการระบาด เราไม่สามารถรู้ได้ว่าการถดถอยของเศรษฐกิจครั้งนี้จะอยู่อีกนานแค่ไหน” โดยแอนโธนี่ ตัน CEO ของ Grab ยังบอกอีกว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากมาก

Uber นั้นก็ได้เริ่มที่จะปลดพนักงานจำนวน 14% ของบริษัท หรือเป็นจำนวนกว่า 3,700 คน หลังบริษัทนั้นได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนจากการระบาดในตอนนี้ โดยทางบริษัทนั้นยังได้ทำการหยุดการจ้างงานเพิ่มทั้งหมดอีกด้วย อย่างไรก็ตามแต่ ทาง Uber นั้นก็จะชดใช้ให้กับพนักงานที่ถูกปลดออก โดยทางบริษัทนั้นคาดการณ์ว่าจะใช้เงิน 20 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 650 ล้านบาท เพื่อชดเชยให้กับพนักงาน และทาง CEO นั้นก็จะไม่ขอรับเงินเดือนทั้งปีนี้

ซึ่งทาง Airbnb ก็ได้ปลดพนักงานจำนวน 1,900 คนทั่วโลก หรือนับเป็น 25% ของบริษัท จากการที่บริษัทนั้นยังได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากการระบาด COVID-19 ด้วยสัญญาณสถานการณ์ทางการเงินของ Airbnb นั้นเริ่มจะไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และก็เริ่มแย่ลงเมื่อมาเผชิญกับไวรัส COVID-19 

โดย ไบรอัน เชสกี้ CEO ของ Airbnb ได้ส่งอีเมลหาพนักงานทุกคนและอธิบายถึงสถานการณ์ในตอนนี้ และระบุว่าจะมีการช่วยเหลือพนักงานที่ถูกปลดออก โดยจะมีเงินชดเชยและบริการทางสุขภาพให้กับพนักงาน รวมถึงยังเข้าไปช่วยพนักงานหางานใหม่อีกด้วย 

ด้วยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของการระบาดว่าสุดท้ายแล้วมันจะจบลงเมื่อไหร่ วิกฤติที่ไม่มีใครอยากให้เกิดนั้นค่อย ๆ ทำลายเศรษฐกิจไปเรื่อย ๆ ซึ่งหลายบริษัทเริ่มที่จะวิตกกังวลและต้องรัดเข็มขัดให้แน่นที่สุดในตอนนี้ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าการระบาดจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหนจนกว่าเราจะสามารถที่จะคิดค้นวัคซีนออกมาได้


อ้างอิง: BusinessInsiderBloombergWashingtonPost


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ปฏิวัติวงการวัสดุศาสตร์! นักวิจัยสร้าง ‘Structural Color’ เปลี่ยนสีได้ดั่งใจ ไม่พึ่งสารเคมี

นักวิจัย University of Florida พัฒนาวัสดุอัจฉริยะเปลี่ยนสีได้ทันทีด้วย Vanadium Dioxide ไม่ง้อสีย้อมเคมี ใช้หลักการ Structural Color ประยุกต์ใช้ได้ทั้งสิ่งทอ แฟชั่น และชุดพรางตัวทห...

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...