HD สตาร์ทอัพเบื้องหลังมาร์เก็ตเพลซบริการสุขภาพและการผ่าตัดในประเทศไทยและในประเทศอินโดนีเซีย HDmall ได้ปิดรอบลงทุน Series A มูลค่า 200 ล้านบาท นำโดย SBI Ven Capital ซึ่งเป็นกองทุนที่บริษัทในเครือของ SBI Group บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ทางอินเทอร์เน็ตชื่อดังของญี่ปุ่น ร่วมกับบริษัท Kyobo Securities จากประเทศเกาหลีใต้ และบริษัท NTUitive ภายใต้มหาวิทยาลัย Nanyang Technology University จากประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ HD ยังได้รับการลงทุนต่อเนื่องจากนักลงทุนเดิมในรอบนี้อย่าง M Venture Partners, FEBE Ventures, Partech Partners, Ratio Ventures, และ Orvel Ventures อีกทั้งยังมีโอกาสต้อนรับนักลงทุนใหม่อย่าง TA Ventures
ธุรกิจของ HD เติบโตขึ้นถึง 3 เท่านับตั้งแต่การระดมทุนรอบล่าสุดในเดือนธันวาคม 2565 จากความสำเร็จของบริการผ่าตัดของ HDcare ซึ่งมักถูกเรียกว่าเป็น 'Airbnb ของการผ่าตัด' ที่เติบโตก้าวกระโดดถึง 160 เท่า ตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2565 จนถึงปัจจุบันแพทย์ของ HDcare ได้รักษาผู้ป่วยไปแล้วกว่า 2,000 คน โดยให้บริการผ่าตัดที่หลากหลาย เช่น ผ่าตัดไทรอยด์ ผ่าตัดริดสีดวงทวาร และการผ่าตัดตา ในราคาที่ต่ำกว่าตลาดประมาณ 15-20%
จากรายงาน Lancet ระบุว่า 91% ของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่สามารถเข้าถึงการผ่าตัดได้อย่างเพียงพอ เป้าหมายของ HDcare คือการทำให้ผู้ป่วยในภูมิภาคนี้เข้าถึงการผ่าตัดได้ง่ายขึ้น ทั้งในแง่ของค่าผ่าตัดที่ถูกกว่า และในแง่ของคุณภาพการบริการ โดย HDcare มีเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยตลอดกระบวนการ เช่น ให้ข้อมูล ทำนัดกับแพทย์ ประสานงานกับประกัน ไปจนถึงดูแลเหมือนญาติถึงที่โรงพยาบาลในวันผ่าตัด จนทำให้บริการ HDcare ได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้ป่วยที่รับการรักษา
นอกจากประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับแล้ว บริการ HDcare ยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับทีมแพทย์และโรงพยาบาลที่ให้เช่าห้องผ่าตัดอีกด้วย โดยแพทย์บางท่านมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าและยังสามารถทำงานได้อย่างอิสระ ดูแลผ่าตัดและรักษาผู้ป่วยได้ในโรงพยาบาลเครือข่ายของ HDcare ทุกโรง ไม่ถูกผูกมัดกับโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง ในขณะที่โรงพยาบาลก็สามารถหารายได้เสริมจากห้องผ่าตัดที่ไม่ได้ใช้งานอีกด้วย
ที่ผ่านมา HD ได้ช่วยผู้ป่วยมากกว่า 300,000 รายดูแลสุขภาพในราคาที่เข้าถึงได้ และด้วยเงินทุนล่าสุด HD ตั้งเป้าขยายเครือข่ายโรงพยาบาลและคลินิกบนแพลตฟอร์มให้ครอบคลุมมากกว่า 5,000 แห่ง และห้องผ่าตัด 300 ห้องภายในปี 2568 ซึ่งจะช่วยขยายผลให้ HD สามารถช่วยผู้ป่วยดูแลรักษาสุขภาพได้มากขึ้น
ส่วนหนึ่งของเงินระดมทุนจะใช้ลงทุนกับการทำให้ผู้ป่วยมีผลการรักษาที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นส่วนที่ HD ให้ความสำคัญ ทั้งการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อเนื่องมาจากความร่วมมือกับ Johnson & Johnson MedTech ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ทั้งการแต่งตั้ง นายแพทย์กุลเทพ รัตนโกวิท เป็นประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์ หรือ Chief Medical Officer และการสร้างปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ขึ้นมาสำหรับให้บริการสุขภาพโดยเฉพาะ
นพ. กุลเทพ รัตนโกวิท หรือ “หมอเดฟ” มีประสบการณ์ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ที่โรงพยาบาลวิมุต และตำแหน่งอื่นๆ อีก 7 ปีในเครือ BDMS ซึ่งเป็นเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอันดับ 5 ของโลก หมอเดฟเป็นแพทย์ระบบทางเดินอาหาร จบมาจากจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และได้รับทุนศึกษาต่อด้านระบบประสาทของระบบทางเดินอาหาร (Neurogastroenterology) จาก Medical College of Georgia ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนแพทย์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
จากรีวิวบน Google พบว่าลูกค้าประทับใจในบริการของแอดมินที่คอยตอบคำถามที่จะช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจเรื่องสุขภาพตลอดเวลา HD จึงพัฒนา AI ที่ชื่อ ‘MEhdIQ’ (เมดิค) ซึ่งเป็นแชทบอทที่ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ หรือ Large Language Model (LLM) ที่จะทำให้ HD สามารถให้ข้อมูลที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้นทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยทาง HD ยังมีแผนที่จะพัฒนา MEhdIQ ต่อไปเป็นเครื่องมือ Software-as-a-Service หรือ SaaS เพื่อช่วยให้สถานพยาบาลและบริษัทประกันให้บริการลูกค้าดีขึ้นอีกด้วย
“ผมเชื่อว่าโอกาสของ AI ด้านสุขภาพโดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือการสร้าง AI เพื่อลดงานบริหารจัดการในสถานพยาบาลและบริษัทประกัน และนำทรัพยากรนั้นไปให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยให้ดีขึ้น” Sheji Ho ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง HD กล่าว "และผมยังเชื่ออีกว่าข้อมูลสุขภาพที่เรามีมีมูลค่ามาก เราจึงสร้าง MEhdIQ LLM ขึ้นมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้บริษัทของเราและของพาร์ตเนอร์ของเราด้วย”
เมื่อเร็วๆ นี้ HD ยังได้รับการคัดเลือกจาก Fast Company ให้เป็นหนึ่งใน “The World’s Most Innovative Companies” หรือ “บริษัทนวัตกรรมยอดเยี่ยม” ปี 2024 ร่วมกับบริษัทรุ่นใหญ่อย่าง Nvidia และ OpenAI โดย HD เป็นบริษัทจากประเทศไทยบริษัทแรกที่ได้รับเลือกนับตั้งแต่มีรางวัลนี้มา
"ทีมของ HD สามารถนำประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซและด้านสุขภาพมาสร้างโมเดลธุรกิจที่แตกต่าง แต่พิสูจน์แล้วว่าสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลก” Ryosuke Hayashi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SBI Ven Capital ผู้นำการลงทุนครั้งนี้ กล่าว “ผมจึงตัดสินใจลงทุนเพื่อที่จะสนับสนุนภารกิจของทีม HD ที่จะเป็นมาร์เกตเพลซ ศูนย์รวมบริการสุขภาพและการผ่าตัดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทำให้คนในภูมิภาคนี้ดูแลสุขภาพของตัวเองและคนที่เขารักได้ง่ายขึ้นครับ”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด