Homepro เผย Q2/65 ฟันกำไร 1,520 ล้านบาท โต 6.11% ดันรายได้รวมทะลุ 17,300 ลบ. | Techsauce

Homepro เผย Q2/65 ฟันกำไร 1,520 ล้านบาท โต 6.11% ดันรายได้รวมทะลุ 17,300 ลบ.

โฮมโปร หรือ HMPRO เผยกำไร Q2/65 ที่ 1,520 ล้านบาท โต 6.11% จากงวดเดียวกันปี 64 หลังรายได้รวมโตจากสาขาใหม่  ค่าเช่า และแผนกระตุ้นยอดขาย ดันรายได้รวมไตรมาส 2 โตทะลุ 17,300  ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการฟื้นตัวของการบริโภคในภูมิภาคที่มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลัก รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในงาน Homepro Super Expo ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 

Homepro_Growth

คุณ คุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯว่า ไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้รวม 17,307.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 353.26 ล้านบาท หรือ 2.08 % เทียบกับ ช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า เพิ่มขึ้น 1.02% จากการเปิดสาขาใหม่ที่โฮมโปรบางนา กม.1 ในไตรมาส 4 ปี 64 และการฟื้นตัวของการบริโภคในภูมิภาคที่มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวบางส่วน และการผลักดันยอดขายโดยการจัดงาน Homepro Super Expo และทางออนไลน์

ด้านต้นทุนค่าเช่า 175.90 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 19.61 ล้านบาท หรือ12.55 % โดยมาจากต้นทุนค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นจากการกลับมาดำเนินงานได้เป็นปกติมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 3,029.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163.41 ล้านบาท หรือ 5.70 % เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายมีการปรับเพิ่มขึ้นจาก 17.74 % ในปีก่อน มาอยู่ที่ 18.57 %  จากค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดและการส่งเสริมการขาย ค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน ค่าสาธารณูปโภคค่าขนส่งที่จัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ค่าซ่อมแซม และการปรับสู่อัตราปกติของค่าภาษีโรงเรือน

กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 4,195.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.83 ล้านบาท หรือ 3.19% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 25.17% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.71% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง รวมถึงรายได้จากการบริการที่เพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนค่าขนส่งในการกระจายสินค้าสู่สาขาจะปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันก็ตาม 

ในไตรมาส 2/2565 ประเทศไทยเผชิญกับแรงกดดันทางด้านเศรษฐกิจจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 7% ซึ่งนับได้ว่าเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 14 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้จากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย ทั้งในด้านต้นทุนของสินค้าและ ต้นทุนในการบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้น 

โดยเฉพาะจากน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อต้นทุนค่าขนส่งในภาคธุรกิจ ที่เริ่มมีการปล่อยราคาลอยตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม แต่บริษัทฯ ยังพยายามบริหารจัดการต้นทุน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีการควบคุม และปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ทั้งทางการบริหารในสาขาของบริษัท รวมถึงการบริหารในระบบห่วงโซ่ อุปทาน ควบคู่ไปด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงผลักดันยอดขายอย่างต่อเนื่องโดยในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้มีการจัดงาน Homepro Super Expo ช่วงวันที่ 2-6 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่โฮมโปทุกสาขาทั่วประเทศ และทางออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับลูกค้าในการซื้อสินค้าและบริการ เพื่อสร้างความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าให้กับลูกค้า 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

โตโยต้า เปิดแผนการลงทุน พร้อมทุ่มงบ 4.7 แสนล้านบาทพัฒนารถ EV และ AI

โตโยต้า ประกาศแผนการลงทุนเพื่อส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีไฮโดรเจน เผยผลประกอบการอยู่ที่ 5.3 ล้านล้านเยน (1.2 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 96.4% จากปีที่ผ่าน รายได้รวมอยู่ที่ ...

Responsive image

LINE MAN Wongnai เตรียม IPO ไทย-สหรัฐฯ ปี 2025 มุ่งสู่การเป็นมากกว่าแอปฯ สั่งอาหาร

LINE MAN Wongai แพลตฟอร์มบริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ยอดนิยมของไทย กำลังพิจารณาการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์ไทยหรือสหรัฐฯ ภายในปี 2025 ตามข้อมูลจากคุณยอด ชิน...

Responsive image

Techsauce Global Summit 2024 พร้อมเดิมหน้าจัดงานใน 3 ประเทศ “ไทย-อินโด-เวียดนาม”

Techsauce Global Summit 2024 พร้อมเดิมหน้าจัดงานใน 3 ประเทศ “ไทย-อินโด-เวียดนาม” สู่เป้าหมายการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็น Tech Gateway ของภูมิภาค...