จากมาตรการ “อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ” ของรัฐบาล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายจำเป็นต้องตัดสินใจหยุดกิจกรรม และถึงแม้สถานการณ์ได้เริ่มที่จะกลับมาดีขึ้น ผู้ประกอบการหลายรายได้เล็งเห็นถึงการเดินตามโมเดล ‘อยู่บ้านให้เกิดยอดขาย’ ทั้งการคิดแผนการตลาด กลยุทธ์ใหม่ในการฟื้นฟูธุรกิจ การเชื่อมต่อกับช่องทางออนไลน์ การหาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอนสูงและยังมีความเสี่ยงจากการออกไปนอกบ้านอยู่ 

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จึงอยากจะนำเสนอแพลตฟอร์มที่จะมาเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นยอดขายและเสริมความรู้ให้กับผู้ประกอบการด้วย 4 ไอเดีย จาก 4 Startup ไทยเหล่านี้

4 ไอเดียอยู่บ้านให้เกิดยอดขาย พร้อมเสริมความรู้ จาก 4 Startup ไทย

1. Cloudero

Cloudero เป็นแพลตฟอร์ม Influencer Marketing ที่วัดผลได้และจ่ายตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยจะเป็นตัวกลางที่เชื่อมแบรนด์กับ Influencer เข้าด้วยกัน พร้อมยังเปิดโอกาสให้บรรดานิสิตและนักศึกษาทั่วประเทศสามารถหารายได้เสริมระหว่างเรียน ผ่านการรีวิวสินค้าและบริการต่าง ๆ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นสมัยใหม่ที่สนใจสร้างสรรค์คอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดีย ในขณะเดียวกันก็ช่วยเหลือแบรนด์โดยเฉพาะแบรนด์ขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ที่มีความสามารถแต่ขาดช่องทางการขยายตลาดและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยระบบการให้คะแนน (Datascoring) และเทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการปิดการขายให้กับ Influencer โดยบริการจาก Cloudero นั้นจะมีอยู่ 3 บริการหลัก ดังนี้

1. Zero to One Marketing Service: บริการที่จะช่วยแบรนด์ทำการตลาดตั้งแต่เริ่มต้นวางแผน เลือก Influencer ที่เหมาะสม และบริหารจัดการแคมเปญการตลาดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเน้นไปที่การขยายตลาดไปยังกลุ่มรุ่นใหม่ในต่างจังหวัด
2. Performance Influencer Marketing Tools: เครื่องมือการทำการตลาดสำหรับ SME ที่สามารถเข้ามาสร้าง Influencer Marketing Campaign ด้วยตัวเองได้ผ่านระบบ AI  โดยแบรนด์สามารถเข้ามาเลือก Influencer คำนวณผลลัพธ์และค่าใช้จ่ายและสามารถวัดผลการทำการตลาดได้เอง
3. Cloudero Sales Commerce: บริการที่ช่วย SME เพิ่มยอดขายสินค้าแบบ Revenue Sharing Model หรือการจ่ายค่าทำการตลาดก็ต่อเมื่อเกิดยอดขายจริงผ่าน Influencer เท่านั้น โดยที่แบรนด์ทำหน้าที่เพียงผลิตสินค้า หลังจากนั้น Cloudero จะช่วยเข้ามาจัดการในส่วนของการทำการตลาด การขาย และรวมถึงระบบการส่งสินค้าให้

Cloudero จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

สำหรับธุรกิจต่าง ๆ ทาง Cloudero จะเป็นตัวกลางที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดที่วัดผลไม่ได้และการจ่ายค่าการตลาดเกินจริง จากการจ่ายเงินล่วงหน้าที่ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร Cloudero นั้นจะช่วยทำให้การทำ Influencer Marketing คุ้มค่ายิ่งขึ้นโดยแบรนด์สามารถรู้ถึงความสามารถของ Influencer แต่ละคนในการสร้างคอนเทนต์และสร้าง Awareness, Engagement และ Conversion ทำให้แบรนด์สามารถจ่ายค่าตอบแทนได้ตามผลลัพธ์ อีกทั้งเรายังช่วยลดระยะเวลาในการเลือกและการติดต่อ Influencer ส่วนสำหรับ Influencer เราจะช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากในการสมัครงาน ติดต่อประสานงาน เลือกงานที่สนใจและส่งงานให้กับแบรนด์ ทำให้พวกเขาได้รับงานตรงตามความต้องการและได้รับค่าตอบแทนตรงตามความสามารถที่แท้จริง

2. MinutevideosThailand 

MinutevideosThailand ช่องวิดีโอแห่งการเรียนรู้ที่ถ่ายทอดสาระและความรู้อย่างสร้างสรรค์ผ่านการเล่าเรื่องราวให้แก่เยาวชนและบุคคลทั่วไป ช่วยให้คุณสามารถเข้าใจเรื่องยากได้ง่ายมากขึ้นในเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่นาทีด้วยวิดีโอวาดมือที่ผลิตโดยทีมศิลปินอาชีพมากมายจากทั่วโลก เพื่อสร้างความรู้ แก้ไขความเข้าใจผิด และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ชมให้ดียิ่งขึ้น

โดยวิดีโอ Edutainment จาก MinutevideosThailand นั้นพร้อมการันตีคุณภาพด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 6 ปีในการผลิตเนื้อหา และวิดีโอวาดมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร โดยมุ่งหวังที่จะมอบวิดีโอที่ดีที่สุดให้กับผู้รับชม

MinutevideosThailand จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

ในปัจจุบันที่เป็นยุคแห่งดิจิทัล ผู้คนนั้นสามารถรับสื่อได้จากหลากหลายช่องทางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Social Media หรือตามคำบอกเล่า แต่ภายใต้สื่อเหล่านั้นก็อาจจะมีเรื่องของ Fake News หรือความเข้าใจผิด ๆ ปนอยู่ด้วย ทำให้ผู้รับสารหลาย ๆ รายนั้นได้รับข้อมูลที่ผิด ๆ ไป ดังนั้นวิดีโอของ MinutevideosThailand นั้นจะช่วยเข้ามาแก้ไขความเข้าใจผิด ๆ และย่อยสารที่ยาวหรือซับซ้อนเกินไปให้เกิดความเข้าใจที่ง่ายมากขึ้นต่อผู้รับชม

3. TrustboxFulfillment

TrustboxFulfillment เป็นผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์แบบครบวงจร คลังสินค้าของ TrustboxFulfillment นั้นสามารถรองรับสินค้าได้หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้บริการไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มธุรกิจ ธุรกิจขนาดย่อม รวมทั้งอุตสาหกรรม e-Commerce โดยลูกค้าสามารถบริหารคลังสินค้าผ่านระบบหลังร้านแบบ Realtime รวมถึงการแพ็คสินค้าตามมาตรฐานและจัดส่งไปยังผู้รับปลายทางผ่านบริษัทขนส่งพันธมิตรที่หลากหลาย ทำให้สินค้าถึงมือผู้รับปลายทางได้อย่างรวดเร็ว โดยทาง TrustboxFulfillment นั้นจะมีอยู่ 4 บริการหลักด้วยกัน

1. เก็บสินค้า (Store) 
2. หยิบสินค้า (Pick)
3. แพ็คสินค้า (Pack)
4. ส่งสินค้า (Send)

TrustboxFulfillment จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

บริการของ TrustboxFulfillment จะช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการขายสินค้าออนไลน์ ช่วยให้ผู้ใช้บริการนั้นประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุน และประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้ารวมถึงมีเวลาทำการตลาด สร้างแบรนด์ และเพิ่มยอดขายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการแพ็คส่งสินค้า นอกจากนี้บริการของ TrustboxFulfillment นั้นยังจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่ธุรกิจต่าง ๆ มักจะพบเจอในปัจจุบัน เช่น การสต๊อกสินค้าที่มีปัญหาของลูกค้า, การเขียนจ่าหน้ากล่องผิดทำให้มีออร์เดอร์ผิดในการส่งสินค้า, ออร์เดอร์เยอะไม่สามารถส่งสินค้าได้ทันเวลา หรือเสียเวลาในการออกไปส่งหลายขนส่งเอง

4. VRTwinS

VRTwins เป็นแพลตฟอร์มร้านค้าคู่แฝดเสมือนจริง (Virtual Reality Twin Shop) เจ้าแรกของไทย ในรูปแบบ VR E-Commerce 360 องศา สร้างประสบการณ์ใหม่ให้การช้อปปิ้ง โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการถ่ายภาพ 360 องศา ส่งเสริมให้ผู้ค้ามีรายได้มากขึ้นจากการมีร้านคู่ขนานที่สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้เริ่มเฟสแรกที่ตลาดนัดจตุจักรและจตุจักรพลาซ่าและห้าง Virtual Mall ห้างจำลองเสมือนจริง ที่ได้รวบรวมแบรนด์ไทยคุณภาพดีไว้ในที่เดียว ตอบโจทย์นักช้อป นักท่องเที่ยวที่ไม่มีเวลามาก และคนต่างชาติ

ไม่เพียงแต่ด้านช้อปปิ้งเท่านั้น ทาง VRTwins นั้นยังมี Platform Virtual Exhibition ที่สามารถเข้าไปถ่ายทำงานแสดงสินค้าได้ เสร็จทันภายใน 72 ชั่วโมง ทำให้ Exhibitor ที่ไปออกบูธนั้นสามารถเปิดบูธได้ 2 ที่ คือที่สถานที่จริงและบนโลกออนไลน์ ทำให้การลงทุนจัดบูธในแต่ละครั้งนั้นคุ้มค่าและอยู่ได้นานขึ้น ไม่จำกัดว่าผู้เข้าร่วมงานจะต้องเดินทางมาเท่านั้น แต่ยังสามารถเดินชมบูธได้จากที่บ้านด้วย

VRTwins จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

ในส่วนของ Pain Point ของร้านค้าจำนวนมากในปัจจุบันนั้นต้องเผชิญกับปัญหาลูกค้าน้อยลง พร้อมกับค่าใช้จ่าย Fixed Cost ที่ต้องเสียทุกเดือน เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าจ้างพนักงาน รวมถึงปัญหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่น้อยลง และร้านไม่มีช่องทางโปรโมทไปยังลูกค้าต่างชาติ ทำให้บริการของ VRTwins นั้นจะเหมาะกับร้านค้าที่ต้องการหาอีกช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าต่างชาติที่ไม่สามารถเข้ามาในประเทศได้

สำหรับ Exhibitor ที่โดยปกติแล้วจะมีระยะเวลาในการออกบูธน้อย แต่ค่าลงทุนตกแต่งบูธนั้นค่อนข้างสูง ทำให้การออกบูธอาจจะไม่คุ้มค่า ดังนั้นบริการของ VRTwins นั้นจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ โดยเปิดให้ Exhibitor นั้นสามารถออกบูธผ่านแพลตฟอร์มได้ในระยะเวลาที่นานขึ้น รวมถึงประหยัดเวลาในการเดินทางอีกด้วย

และในส่วนของ Pain Point ของลูกค้านั้นจะอยู่ในเรื่องของการเดินทางและความเสี่ยงจากโรคระบาด ทำให้บริการของ VRTwins นั้นเข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องของการประหยัดเวลาจากการเดินทาง โดยลูกค้าสามารถรับชม Virtual Mall จากที่บ้านได้ทันที

ทุกท่านสามารถติดตามสตาร์ทอัพไทยที่มีโซลูชันและบริการดี ๆ ได้ใน “Startup Marketplace is Live Now” รายการที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดให้กับสตาร์ทอัพไทยในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA 

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่:

FB Page: Startup Thailand

FB Group: Startup Thailand Marketplace

บทความนี้เป็น Advertorial