ท่ามกลางกระแสของ Gemini ที่งาน Google I/O เมื่อเดือนที่แล้ว Google ก็ได้นำหนึ่งในโปรเจกต์ทดลองของตัวเองมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์จริงในระดับหนึ่ง โดย Project Starline ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Google Beam ซึ่งเป็นระบบวิดีโอคอล 3 มิติที่ทำให้ดูเหมือนคุณนั่งอยู่ในห้องเดียวกับอีกฝ่าย
ก่อนหน้านี้ Google เคยบอกไว้ว่า HP จะเป็นเจ้าแรกที่เปิดตัวชุดอุปกรณ์ Beam และตอนนี้ก็เปิดตัวแล้วในชื่อว่า HP Dimension โดยมีกำหนดวางจำหน่ายภายในปีนี้ ซึ่งมาพร้อมราคาสูงถึง $24,999 หรือราว 920,000 บาท
Google Beam คือเทคโนโลยีการประชุมเสมือนจริง ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ขั้นสูงจำนวนมาก ใช้ กล้องความเร็วสูง 6 ตัว ติดตั้งรอบหน้าจอขนาด 65 นิ้ว ที่ติดตั้งไว้รอบจอภาพเพื่อจับภาพลำโพงจากหลายมุม จากนั้นจะนำภาพเหล่านั้นเข้าสู่โมเดลวิดีโอแบบปริมาตร (Volumetric Video Model) หรือทคโนโลยีที่ใช้ในการจับภาพและแสดงผลวิดีโอในรูปแบบ 3 มิติเต็มรูปแบบ ของ Google เพื่อสร้างภาพ 3 มิติแบบสมจริง ทำให้รู้สึกเหมือนคู่สนทนาอยู่ตรงหน้าจริง ๆ
หน้าจอของ Beam ใช้ เทคโนโลยี light field display ที่สามารถแสดงภาพ 3 มิติแบบไม่ต้องสวมชุดหูฟังหรือแว่นตา พร้อมแสดงผลที่ 60 เฟรมต่อวินาที และความละเอียดระดับมิลลิเมตร
Google และ HP ระบุว่า Google Beam ช่วยให้การประชุมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะใน
แม้จะออกแบบมาสำหรับการประชุม 3 มิติ แต่ HP Dimension ยังสามารถใช้งานในรูปแบบวิดีโอ 2 มิติ ได้เช่นกัน ในกรณีที่คู่สนทนาไม่มีอุปกรณ์ Beam อีกฝั่ง อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้ฟีเจอร์ 3 มิติแบบเต็มรูปแบบ ทั้งสองฝั่งของสายประชุมต้องมีอุปกรณ์ Beam ติดตั้งอยู่
เพื่อให้สามารถประมวลผลภาพ 3 มิติได้แบบ real-time โดยไม่มีความล่าช้า (latency) Google Beam ต้องพึ่งการประมวลผลผ่านคลาวด์ขั้นสูง ซึ่งจะมี ค่าใช้บริการรายเดือนหรือรายปี (Beam license) เพิ่มเติมจากราคาฮาร์ดแวร์ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยราคา ณ ตอนนี้
HP Dimension จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2025 โดยเปิดให้เฉพาะลูกค้าที่ได้รับการคัดเลือก (select customers) ใช้งานในระยะแรก
Google Beam เป็นก้าวสำคัญของการประชุมออนไลน์ในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีที่รวมความสมจริงและความสะดวกเข้าด้วยกัน แม้ราคาจะสูง แต่สำหรับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการสื่อสารและการประชุมที่เหนือกว่า นี่อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
อ้างอิง: Ars Technica
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด