Hyundai Mobility ประเทศไทย พร้อมออกสตาร์ทขับเคลื่อนธุรกิจในไทยเต็มรูปแบบ เดือนเมษานี้ | Techsauce

Hyundai Mobility ประเทศไทย พร้อมออกสตาร์ทขับเคลื่อนธุรกิจในไทยเต็มรูปแบบ เดือนเมษานี้

ฮุนได (Hyundai) บริษัทแม่จากสาธารณรัฐเกาหลี ประกาศเดินหน้าธุรกิจในไทยเต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อ "บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด" (Hyundai Mobility) พร้อมตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนธุรกิจก้าวสู่ผู้นำยานยนต์และนวัตกรรม ด้านโมบิลิตี้ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ยกขบวนยานยนต์สุดล้ำมาให้ยลโฉมพร้อมกันครั้งแรกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ 2023 

Hyundai Mobilityนับว่าเป็นการเอาจริงเอาจังกับการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยของ ฮุนได (Hyundai) บริษัทแม่จากสาธารณรัฐเกาหลี  ที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ "Hyundai Mobility" ในงาน Moter Show 2023 นำโดยดาวเด่น "สตาร์เกเซอร์" เริ่มต้นที่ 7.69 แสนบาท ที่จะเปิดขายครั้งแรกในไทย พร้อมกับ "สตาร์เรีย" "ไอออนิค 5" และ "ไอออนิค 6" 

รวมทั้งแพลตฟอร์ม E-GMP และหุ่นยนต์ Boston Dynamic ที่จะมาสร้างสีสันให้กับตลาดยานยนต์ โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าทุกผลิตภัณฑ์ที่เตรียมบุกตลาดปีนี้ จะสามารถตอบโจทย์โซลูชันด้านโมบิลิตี้ให้กับผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน  โดยบริษัทฯ วางแผนที่จะเริ่มทำตลาดอย่างเป็นทางการ 1 เม.ย. 66 นี้

ยกขบวนยานยนต์ 4 รุ่น อวดโฉมในงาน Motor Show 2023

ทั้งนี้ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 (มอเตอร์ โชว์ 2023) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 มีนาคม จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี  ได้ยกขบวนมาทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ สตาร์เกเซอร์ สตาร์เรีย ไอออนิค 5 และ ไอออนิค 6 พร้อมทั้งแพลตฟอร์ม E-GMP และหุ่นยนต์จาก Boston Dynamic 

Hyundai Mobility

สตาร์เกเซอร์ (STARGAZER)

รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก (มินิเอ็มพีวี) ที่นำมาทำตลาดครั้งแรกในประเทศไทย หลังจากนำมาให้ยลโฉมตัวจริงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และสร้างความคึกคักให้ตลาดมินิเอ็มพีวี ด้วยรูปทรงที่ปราดเปรียวแต่เต็มไปด้วยความสบายในพื้นที่ห้องโดยสาร 

ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยจำนวนที่นั่ง 7 ที่นั่ง และความพิเศษสุด มาในรุ่น ท็อป เป็นเบาะที่นั่ง 3 แถว 6 ที่ โดยเบาะแถวที่ 2 มาแบบ Captain Seat ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เกียร์ CVT ระบบส่งกำลัง IVT ให้กำลังสูงสุด115 แรงม้า แรงต้านอากาศเพียง 0.32 Cd ประหยัดน้ำมัน ขับขี่สนุกได้ดั่งใจถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Eco, Sport และ Smart 

พร้อมโปรโมชัน ได้แก่ ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม., บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนาน 5 ปี, ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 2 ปี หรือ 40,000 กม., ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% เมื่อดาวน์ 25% หรือ 30% และผ่อนชำระ 48 เดือน, ผ่อนชำระเงินดาวน์นาน 6 เดือน โดยไม่มีดอกเบี้ย

สตาร์เรีย (Staria)

รถอเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) 11 ที่นั่ง มาพร้อมกับความสบายและปลอดภัยที่พร้อมสรรพ ชูจุดเด่นด้วยการดีไซน์ห้องโดยสารให้มีบรรยากาศเสมือนห้องรับรองระดับเฟิร์สคลาส  ซึ่งเป็นขั้นตอนการออกแบบจากภายในสู่ภายนอก หรือ Inside-Out ที่เน้นการใช้งานและการปรับใช้พื้นที่ของห้องโดยสารเป็นหลัก ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปทรงที่โปร่งสบายและแข็งเกร่ง บานกระจกที่กว้างตัดขอบด้วยไฟท้ายแนวตั้ง  

พร้อมติดตั้งไฟแบบ Parametric Pixel ที่เป็นเอกลักษณ์ของฮุนได กันชนท้ายตั้งอยู่ในระดับต่ำช่วยให้ขนสัมภาระเข้า-ออก ได้ง่ายมากขึ้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มอบกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า พร้อมโปรโมชั่นภายในงาน  ได้แก่ ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี,  รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม., บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนาน 5 ปี

ไอออนิค 5 (IONIQ 5)

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%  รูปทรง Cross Utility Vehicle ที่ใช้ platform แบบ Electric-Global Modular Platform (E-GMP) มาทั้งในรุ่น Standard range และ Long range วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 480กิโลเมตรต่อหนึ่งรอบการชาร์จ การันตีความเป็นที่สุดของยานยนต์ด้วยรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมระดับโลก หรือ World Car of The Year 2022 และหลากหลายรางวัลอื่น ๆ ในเวทีระดับโลกจากนานาประเทศ ที่นำมาโชว์ภายในงานแต่ยังไม่มีตลาดในไทย โดยคาดว่าจะวางตลาดในปี 2024

ไอออนิค 6 (IONIQ 6) 

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%  แบบซีดาน  ใช้ platform แบบ E-GMP มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง โดดเด่นด้วยการออกแบบภายในให้โอบอุ้นเสมือนรังไหม วัสดุภายในรถผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รูปลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบให้มีค่าอากาศพลศาสตร์เพียง 0.21 และบริเวณกระจังหน้าที่ต่ำ การลดช่องว่างระหว่างซุ้มล้อ ช่วยให้ลู่ลมได้มาก และเสริมสมรรถนะให้ขับขี่ได้ไกลถึง 614 กิโลเมตรต่อหนึ่งรอบการชาร์จ

แพลตฟอร์ม E-GMP 

โครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนามาเพื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของฮุนไดโดยเฉพาะ มอบสมรรถนะการขับขี่ทีดีเยี่ยม ให้ระยะการขับขี่เพิ่มมากขึ้น ให้ความปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งยังเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารและในส่วนของห้องสัมภาระอีกด้วย เหมาะกับรถยนต์ทุกเซกเมนต์ไม่ว่าจะเป็นรถซีดาน เอสยูวี และซียูวีหรือครอสโอเวอร์ การออกแบบที่ใช้พื้นที่น้อย แต่เต็มสมรรถนะด้วยความจุของแบตเตอรี่ วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 480 กิโลเมตรต่อหนึ่งรอบการชาร์จ และด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของฮุนได แพลตฟอร์ม E-GMP สามารถชาร์จแบบด่วนได้เต็มความจุภายในเวลาเพียง 18 นาที 

Hyundai Mobility

ส่วนทางด้าน หุ่นยนต์จาก Boston Dynamic นั้น Hyundai ได้ทุ่มเงินกว่า 921 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อทำการเข้าซื้อ บริษัท Boston Dynamics ผู้พัฒนาและเป็นเจ้าของผลงานหุ่นยนต์สุนัขเพื่อการใช้งานในอุตสาหกรรม ซึ่งเคยเป็นข่าวและมีวีดีโอไวรัลในช่วงทดลองการทำงาน ก่อนจะเข้าสู่การผลิตจริง มาครั้งนี้จึงได้มีการเปิดตัวภายในงานด้วยเช่นกัน

คุณเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับในปี 2566 ฮุนได มอเตอร์ บริษัทแม่จากประเทศสาธารณรัฐเกาหลี เดินหน้ายกระดับความพร้อมนำทีมจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศไทยภายใต้ชื่อ “บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด” เป็นที่เรียบร้อย เตรียมขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบครอบคลุมทั้งในด้านการขาย การตลาด การบริการหลังการขายและเครือข่ายผู้จำหน่าย 

เนื่องจากฮุนไดมองเห็นโอกาสสำคัญของการเติบโตหลากหลายด้านในประเทศไทยแม้ว่าปัจจุบันจะมีการแข่งขันจากประเทศต่าง ๆ ที่เข้ามาทำตลาดอย่างดุเดือด โดยความโดดเด่นของฮุนได โมบิลิตี้ คือการมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับคุณภาพและพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนทุกประเภท ไม่เพียงแค่ด้านยานยนต์ แต่บริษัทฯ ยังตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพด้านผู้นำนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง  

โดยมั่นใจว่านวัตกรรมของฮุนไดซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับโลก จะสามารถช่วยยกระดับเศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์คนไทยไปสู่โลกแห่งอนาคต พร้อมสร้างประสบการณ์แก่ผู้ใช้งานด้วยโซลูชันด้านโมบิลิตี้ที่สอดรับกับความต้องการของผู้คนได้เหนือกว่าแบรนด์คู่แข่ง โดยเฉพาะจุดเด่นที่สำคัญทั้งเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกสบาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นอย่างยั่งยืนในระยะยาว

"วิสัยทัศน์ของบริษัทคือ การเป็นแบรนด์พารทเนอร์ในวิถีชีวิตของผู้คน โดยฉีกภาพจำเดิมๆ จากการเป็นแบรนด์จำหน่ายรถยนต์ สู่การเป็นผู้นำเทคโนโลยี และเป็นผู้เล่นสำคัญด้านการขับเคลื่อนนวัตกรรมเคลื่อนที่ด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ดีที่สุดระดับโลก สะท้อนถึงทิศทางของฮุนไดในฐานะแบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ความยั่งยืน"

ทั้งนี้การเข้ามาดำเนินงานภายใต้ ฮุนได โมบิลิตี้ ของบริษัทแม่  นับเป็นก้าวสำคัญของฮุนไดที่จะแสดงศักยภาพความพร้อมและตอกย้ำความเชื่อมั่นในการขยายธุรกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคชาวไทยอย่างแน่นอน โดยฮุนได โมบิลิตี้ พร้อมเติบโตไปกับลูกค้าทุกคนในฐานะผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนในรูปแบบโมบิลิตี้ครอบคลุมทุกมิติเพื่อลูกค้าคนไทยเสมือนเป็นเพื่อนที่รู้ใจในทุกเส้นทาง

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Soft Power และ Technology คือสิ่งที่ประเทศไทยจะเดินต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า สรุปแนวคิด ทักษิณ ชินวัตร

ดร.ทักษิณ ชินวัตรเผยวิสัยทัศน์ 5 ปีข้างหน้าของประเทศไทยในงาน Forbes Global CEO Conference เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ซอฟต์พาวเวอร์ และการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อเสริมสร้างความสามารถ...

Responsive image

เปิดบ้าน WHA สำรวจศักยภาพ นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ

WHA Open House 2024: Explore – Discover – Shape the Future เป็นการเปิดบ้านครั้งแรกของ WHA เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ WHA Group ในฐานะต้นแบบของธุรกิจที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช...

Responsive image

จีนบุกตลาด AI เปิดตัวโมเดล DeepSeek-R1 ให้เหตุผลเหมือนมนุษย์ ท้าชน o1 จาก Open AI

AI จีนขอท้าชิงพื้นที่ตลาด เมื่อบริษัทวิจัย AI เปิดตัวโมเดล DeepSeek-R1 โมเดล AI ให้เหตุผลใกล้เคียงกับมนุษย์ เปิดตัวมาท้าชิงความสามารถของโมเดล o1 จาก OpenAI...