ปัจจุบันอินโดนีเซียถือเป็นตลาด Generative AI ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยข้อมูลจาก Statista คาดว่าในปีนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 212.6 ล้านดอลลาร์ เติบโต 10 เท่าจากปี 2020 และจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราเกือบ 30% ต่อปี จนแตะมูลค่า 1.15 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 

และปัจจัยสำคัญของการพัฒนานี้มาจากความกล้าได้กล้าเสียของผู้ประกอบการและนวัตกรในประเทศ 

ความกล้าได้กล้าเสียคือกุญแจสำคัญ 

Nikkei Asia รายงานว่าคนญี่ปุ่นที่ไปทำงานอยู่ในอินโดนีเซีย มักพูดถึงการรับความเสี่ยงกับการเกิดขึ้นของ Startup จำนวนมากในอินโดนีเซีย การเปิดรับความรู้และเทคโนโลยีใหม่ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะล้มเหลว ได้ฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมของคนที่นี่ วัดได้จากตัวเลข GDP ของอินโดนีเซียที่มีขนาดเพียงหนึ่งในสี่ของญี่ปุ่น แต่มีจำนวน Startup มากกว่าเมืองปลาดิบสี่เท่า 

ตอบโจทย์ธุรกิจและภาครัฐ 

Kentaro Machii ผู้อำนวยการอาวุโสองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น ในจาการ์ตา กล่าวว่าในอินโดนีเซียมีการใช้ AI Chatbot กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะกับอุตสาหกรรมการเงินและ e-Commerce โดยมีการขยายบริการไปในกลุ่มธุรกิจที่เฉพาะด้านมากขึ้น เช่น การแพทย์ 

ยกตัวอย่างเช่น Kata.ai บริการ Chatbot ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 โดยมีจุดเด่นที่สามารถตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติ ตอนนี้มีลูกค้าสำคัญอย่าง Indosat Ooredoo Hutchison รายใหญ่ด้านโทรคมนาคมและ Bank Negara Indonesia (BNI) ธนาคารของรัฐใช้งานอยู่ 

อีกตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Mekari Startup ที่พัฒนาระบบบัญชีองค์กรและการจัดการลูกค้า ได้เปิดตัวธุรกิจ AI  อย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ โดยใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและบุคลากรของบริษัทลูกค้า และให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางธุรกิจ

เราจะเห็นว่าบ้านเราก็มีธุรกิจ Startup หลายเจ้าที่มีโซลูชันช่วยแก้ปัญหาให้องค์กรเหมือนที่อินโดนีเซียมี ถ้าไทยสามารถสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและธุรกิจ รวมถึงการสนับสนุนต่างๆ อาจจะช่วยให้เราก้าวไปเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของภูมิภาคด้าน AI ได้ 

อ้างอิง: Nikkei