อินโดนีเซียสั่งแบน Temu แพลตฟอร์ม E-Commerce ยักษ์ใหญ่จากจีน โดยสั่งให้ Google และ Apple ลบแอปพลิเคชันออกจาก Play Store และ App Store เพื่อปกป้องธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในประเทศจากสินค้าราคาถูกที่นำเข้าจากจีน แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่พบรายการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวในอินโดนีเซียก็ตาม
รัฐบาลอินโดนีเซียมีความกังวลเกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจของ Temu ที่เชื่อมโยงผู้บริโภคโดยตรงกับโรงงานในจีน ซึ่งทำให้สามารถเสนอสินค้าในราคาที่ต่ำมาก Budi Arie Setiadi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศของอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า รูปแบบธุรกิจดังกล่าวเป็นการ "แข่งขันที่ไม่เป็นธรรม" และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SME ในประเทศที่มีอยู่หลายล้านราย
นอกจาก Temu แล้ว อินโดนีเซียยังมีแผนที่จะแบน Shein แอปพลิเคชันช็อปปิ้งเสื้อผ้าจากจีนอีกด้วย โดยรัฐบาลอินโดนีเซียให้เหตุผลเดียวกันคือ เพื่อปกป้องธุรกิจ SME ในประเทศ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่อินโดนีเซียเข้าแทรกแซงแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่างชาติ ก่อนหน้านี้ในปี 2023 อินโดนีเซียได้สั่งปิดบริการ E-Commerce ของ TikTok แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจากจีนเช่นกัน โดยให้เหตุผลเรื่องการปกป้องผู้ค้าในประเทศและข้อมูลของผู้ใช้
อย่างไรก็ตาม หลายเดือนต่อมา TikTok ก็ได้เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ใน GOTO.JK ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีของอินโดนีเซีย เพื่อเปิดหน่วยงานที่ให้บริการด้าน E-Commerce โดยมีเป้าหมายที่จะคงอยู่ในตลาด E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป
อินโดนีเซียเป็นตลาด E-Commerce ที่มีศักยภาพสูง ด้วยจำนวนประชากรกว่า 270 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรม E-Commerce ของอินโดนีเซียจะขยายตัวจาก 62,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 เป็น 160,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2030 ตามรายงานของ Google, Temasek Holdings และ Bain & Co. ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่รัฐบาลอินโดนีเซียจะให้ความสำคัญกับการปกป้องธุรกิจ SME ในประเทศ และออกมาตรการควบคุมแพลตฟอร์ม E-Commerce จากต่างประเทศอย่างเข้มงวด
การสั่งแบน Temu ของอินโดนีเซีย สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการปกป้องธุรกิจ SME ในประเทศ จากการแข่งขันของแพลตฟอร์มออนไลน์จากต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามต่อไปว่ามาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาด E-Commerce ในอินโดนีเซียในระยะยาวอย่างไร
อ้างอิง Reuters
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด