อินโดนีเซียคือประเทศที่หลายๆ คนยกให้เป็นเมืองหลวงแห่งโลกโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook, Twitter และ Instagram ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากคนในประเทศ และในตอนนี้ Zeemi.tv สตาร์ทอัปวิดีโอแบบไลฟ์สตรีมมิ่งก็ได้รับเงินลงทุนรอบ seed จาก DeNA และ 500 Startups ราวๆ 30 ล้านบาท ถือเป็นอีกข้อพิสูจน์ความคลั่งไคล้ในโซเชียลมีเดียของประชากรเมืองนี้
Zeemi.tv เปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา โดย Thomas Damek ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Lazada อินโดนีเซีย คอนเทนต์หลักๆ ใน Zeemi.tv แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ตารางการแสดงของศิลปินและเซเลบ เพื่อให้แฟนๆ ได้ติดตาม กับคอนเทนต์ของคนทั่วไปที่ต้องการแชร์เรื่องราวของตัวเองในแพลทฟอร์ม
“คนอินโดนีเซียจะมีปฏิสัมพันธ์ในโลกโซเชียลค่อนข้างมาก จากตัวหนังสือสู่รูปภาพ จาก Twitter สู่ Instagram และจากรูปภาพ สู่วิดีโอ และก้าวต่อไปคือการแชร์คอนเทนต์ที่เข้มข้นขึ้น” Damek กล่าว
คอนเซปต์ของ Zeemi.tv จะคล้ายๆ กับ Periscope และ Meerkat ซึ่งทั้งสองอันนั้นเปิดตัวหลัง Zeemi.tv แต่ Zeemi.tv จะสร้างความแตกต่างด้วยการโฟกัสไปที่คอนเทนต์ภายในประเทศสำหรับกลุ่มผู้ชมชาวอินโดนีเซีย และทำให้เข้าถึงได้ง่ายๆ ด้วยเว็บไซต์แบบ responsive
การเข้าถึงได้ง่ายคือปัจจัยสำคัญ เพราะอัตราการถือครองสมาร์ทโฟนในอินโดนีเซียเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ในตอนนี้จะยังมีชาวอินโดนีเซียเพียงแค่ 23% เท่านั้นที่มีสมาร์ทโฟนใช้ โดยกลุ่มเป้าหมายของ Zeemi.tv คือวัยรุ่น หรือคนที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ต้นๆ ที่มีสมาร์ทโฟนใช้และเข้าถึง Zeemi.tv ผ่านแอปพลิเคชั่นในระบบแอนดรอยด์ได้
การลงทุนในรอบนี้ จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นในระบบ iOS การตลาด และพัฒนาเทคโนโลยีไลฟ์สตรีมมิ่ง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะขยายธุรกิจมาในแถบอาเซียนด้วย แต่นั่นก็เป็นแผนในระยะยาว และในตอนนี้ก็ยังโฟกัสไปที่การขยายฐานผู้ใช้งานเฉพาะในอินโดนีเซีย
ในแง่ของการแข่งขัน Zeemi.tv มีคู่แข่งรายสำคัญคือ CliponYu แพลทฟอร์มวิดีโอแบบไลฟ์สตรีมมิ่งอีกเจ้าหนึ่ง แต่ Damek บอกว่ามีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน คือเนื้อหาใน CliponYu จะมาจากผู้จัดหรือ Host แต่ Zeemi.tv จะมีผู้สร้างคอนเทนต์ที่หลากหลายกว่า
สำหรับการสร้างรายได้ Zeemi.tv จะเปิดขาย gift ที่ผู้ชมสามารถซื้อให้กับนักจัดรายการหรือผู้สร้างคอนเทนต์ที่ตนชื่นชอบ โดยเป็นการซื้อผ่านสมาร์ทโฟนหรือ e-wallets หลังจากนั้นจะมีส่วนแบ่งให้กับผู้สร้างคอนเทนต์
นอกจากนี้ การที่ Zeemi.tv ได้เป็นส่วนหนึ่งของ DeNA อาจจะส่วนช่วยในการขยายธุรกิจได้ เนื่องจาก DeNA คือเจ้าของ Showroom หนึ่งในแพลทฟอร์มไลฟ์สตรีมมิ่งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งตัวแทนจาก DeNA ได้แถลงเอาไว้ว่ามันคือพรมแดนใหม่ของวิดีโอและโซเชียล
ที่มา : Techcrunch
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด