Nikkei รายงานว่า ฮอนด้าและนิสสัน สองค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น กำลังเตรียมเจรจาควบรวมกิจการ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันในตลาดรถยนต์
รายงานระบุว่า ทั้งสองบริษัทกำลังพิจารณารวมตัวกันภายใต้บริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามข้อตกลงในเร็วๆ นี้ โดยมีแผนจะดึงมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่นิสสันถือหุ้น 24% เข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้ทั้งสามบริษัททำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น และแข่งขันกับบริษัทรถยนต์อื่นๆ ได้ดีขึ้น
หากการควบรวมสำเร็จ บริษัทใหม่ที่เกิดจากการรวมตัวของฮอนด้า นิสสัน และมิตซูบิชิ จะมียอดขายรถยนต์รวมกันกว่า 8 ล้านคันต่อปี ซึ่งจะทำให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก แต่ยังคงเป็นรองโตโยต้าที่มียอดขาย 11.2 ล้านคัน และโฟล์กสวาเกนที่ 9.2 ล้านคัน ในปี 2023
อย่างไรก็ตาม ทั้งฮอนด้าและนิสสันยังไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยฮอนด้าแถลงว่า "เนื้อหาที่รายงานไม่ใช่ข้อมูลจากบริษัท" และเสริมว่า "ฮอนด้าและนิสสันกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกัน โดยใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่าย และจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป"
ข่าวการควบรวมนี้เกิดขึ้นหลังจากทั้งสองค่ายได้ทำข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์และซอฟต์แวร์ร่วมกันก่อนหน้านี้ ซึ่งหากการควบรวมเกิดขึ้นจริง จะถือเป็นดีลควบรวมกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในวงการรถยนต์ นับตั้งแต่การรวมตัวของ Fiat Chrysler และ PSA Groupe จนเกิดเป็น Stellantis เมื่อเดือนมกราคม 2021
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการควบรวมและซื้อกิจการเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้บริษัทรถยนต์สามารถแบ่งปันต้นทุน และแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์จากจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึง Tesla ผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ ได้
หลังมีข่าวควบรวม หุ้นของฮอนด้าในตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 1% ขณะที่หุ้นของนิสสันในตลาด OTC ก็ปรับตัวขึ้นถึง 11% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนต่อดีลดังกล่าว
อ้างอิง: cnbc
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด