เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ในงาน 2018 Global Smart Supply ที่เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน เว็บไซต์ JD.com บริษัทผู้ให้บริการด้าน E-Commerce รายใหญ่ของประเทศจีน ประกาศใช้โครงสร้างการขนส่งสินค้า (Logistics) ที่มีอยู่ มาให้บริการรับส่งพัสดุผ่านแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า 'JD Delivery' ในประเทศจีน โดยนำร่องให้บริการในเมืองปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทดลองการให้บริการผ่าน WeChat Mini Program และแอคเคาท์ JD.com ที่ชื่อว่า 'Delivery Team' บน WeChat อีกด้วย
ทางบริษัทระบุว่าตอนนี้มีโครงข่ายการส่งสินค้าที่ครอบคลุมพื้นที่ 99 เปอร์เซ็นต์ในประเทศจีน รวมถึงในแต่ละวันสามารถส่งสินค้าให้ถึงที่หมายได้ภายใน 1 วันหรือใช้เวลาน้อยกว่านั้น ซึ่งถ้าหากต้องการให้ส่งพัสดุแบบรวดเร็วก็จะดำเนินการส่งผ่านทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงและเครื่องบินได้ทันที
Zhenhui Wang CEO ของ JD Logistics กล่าวในแถลงการณ์ว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับการเปิดตัวบริการ จุดหมายนับจากนี้ถือเป็นก้าวถัดไปในการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Logistics ที่ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศที่ JD สร้างมันขึ้นมาในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการให้ไปถึงผู้ใช้ของเรา"
ปัจจุบัน JD.com มีนักลงทุนที่เป็นบริษัทไอทียักษ์ใหญ่อยู่หลาย เช่น Tencent, Walmart, Google (บริษัทลูกของ Alphabet) เป็นต้น
ข้อมูลจาก Apex Insight ระบุว่าตลาดรับส่งพัสดุใน Asia-Pacific ถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงสุดในปีที่แล้ว โดยมีส่วนแบ่งเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของตลาดรับส่งพัสดุทั่วโลก คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ 350,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประเทศจีนถือเป็นตลาดสำคัญที่มีการเติบโตสูงที่สุด ซึ่งจีนถือเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาดใน Asia-Pacific โดยในปี 2016 มีมูลค่าสูงถึง 31,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2016 และแต่ละปีมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยปริมาณการรับส่งพัสดุในจีนแซงหน้าสหรัฐฯ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มูลค่าการรับส่งพัสดุในสหรัฐฯ ยังถือว่าสูงกว่าจีนอยู่
อย่างไรก็ตาม Apex Insight ระบุหมายเหตุว่ามูลค่าตลาดรับส่งพัสดุของจีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นกลายเป็นตลาดรับส่งพัสดุที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดภายในปี 2019 อันเนื่องจากการค้าปลีกผ่านออนไลน์ในประเทศจีนที่เป็นแรงผลักดันในตลาดนี้เติบโตมากขึ้น
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด