เทคโนโลยี “ฝนเทียม” โดยกษัตริย์ไทย จะช่วยขจัดภัยแล้งให้ประเทศจอร์แดน | Techsauce

เทคโนโลยี “ฝนเทียม” โดยกษัตริย์ไทย จะช่วยขจัดภัยแล้งให้ประเทศจอร์แดน

เมื่อได้ยินชื่อ ประเทศจอร์แดน ซี่งอยู่ในตะวันออกกลาง หลายๆ คนอาจจะนึกภาพออกว่าเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง มีปริมาณฝนตกน้อยมาก  แต่ภายในปีนี้ มีข่าวดีสำหรับชาวจอร์แดน เพราะประเทศจอร์แดนจะเริ่มใช้เทคโนโลยีของไทยเพื่อสร้าง “ฝนเทียม” โดยการกระตุ้นหรือเพิ่มอัตราการเกิดฝนทั่วทั้งประเทศ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากโครงการ “ฝนหลวง” ที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นโครงการที่ชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี  

royalrain

ประเทศไทยได้อนุญาตให้ประเทศจอร์แดนใช้เทคโนโลยีนี้ตั้งแต่ปี 2009 โดยมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือ MoU ในวันที่ 23 มีนาคม ปีเดียวกันนั้นเอง เพื่อนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านฝนเทียมนี้ไปสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในเอเชียตะวันออกด้วย โดยก่อนหน้านี้ประเทศจอร์แดนเคยพยายามแก้ปัญหาความแห้งแล้งมาแล้วโดยมีการทดลองทำฝนเทียมเองในปี 1989 และ 1995 แต่ไม่สำเร็จเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่มีจำกัด

เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเหลือเรื่องการขาดแคลนน้ำในจอร์แดน

นาย Mohammad Samawi อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาของประเทศจอร์แดนได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของโครงการฝนเทียมนี้ สาเหตุก็เพราะประเทศจอร์แดนนั้นเป็นประเทศที่ยากจนด้านทรัพยากรน้ำติดอันดับโลก อยู่ในสภาวะขาดแคลนน้ำที่มีสภาพพร้อมใช้งานได้

ทรัพยากรน้ำที่มีคุณภาพของจอร์แดนอยู่ที่ 800-900 ล้านคิวบิกต่อปี ซึ่งเพียงพอสำหรับความต้องการของคนเพียง 3 ล้านคน แต่ปัจจุบันมีผู้ใช้น้ำในจอร์แดนมากถึง 10 ล้านคนและมีแนวโน้มว่าประชากรจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีพัฒนาด้านน้ำถือเป็นเรื่องเร่งด่วนในการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขของประชาชน โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ของสหประชาชาติกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวและผลกระทบที่เกิดขึ้น ถือเป็นภัยระดับสูงต่อสุขภาพของประชาชนในประเทศจอร์แดน และยังทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจเป็นไปได้ยาก  นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก (Climate change) ซึ่งคาดว่าจะทำให้จอร์แดนต้องประสบปัญหาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ส่งผลต่อการเกิดฝนในประเทศ  

การดำเนินการผลิตฝนเทียม

ขั้นตอนในการผลิตฝนเทียมแบบคร่าวๆ จะเริ่มจากใช้เครื่องบินบรรจุสารเคมีขึ้นไปโปรยในท้องฟ้าเพื่อกระตุ้นให้เมฆก่อตัวมากขึ้น โดยเรียกขั้นตอนนี้ว่า การเพาะเมฆ หรือ Cloud Seeding ในเบื้องต้นจะต้องใช้เรดาร์เพื่อตรวจหาเมฆที่เหมาะสมก่อนที่จะทำปฏิบัติการฝนเทียม เมฆที่เกิดจากสารเคมีนี้จะเพิ่มความชื้น ก่อตัวทำให้เกิดเป็นฝนตกลงมา

กระบวนการสร้างฝนเทียมของประเทศจอร์แดนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ เป็นโครงการระดับชาติที่ได้รับการดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยการสนับสนุนจากกองทัพอากาศ กระทรวงน้ำ และกระทรวงเกษตร ประเทศจอร์แดน

ในส่วนของประเทศไทยนั้น เป็นประเทศที่ประสบปัญหาจากภัยแล้งและการเข้าถึงน้ำเช่นกัน จึงได้เกิดเป็นโครงการพระราชดำริ ซึ่งดำเนินงานโดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และได้มีการออกแบบโครงการทดลองต่างๆ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์จริง ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านทำฝนเทียมของประเทศเขตร้อนแถบตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

เป็นอีกหนึ่งพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่นำมาซึ่งความสุขแก่ราษฎรชาวไทย และเทคโนโลยีฝนเทียมอันมีที่มาจากพระปรีชาชาญของพระองค์ยังก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในประเทศอื่นอีกด้วย  ทางทีมงาน Techsauce ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ที่มา Incarabia

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน ChatGPT วิเคราะห์-โต้ตอบวิดีโอได้แบบเรียลไทม์

OpenAI อัปเดทความสามารถ ChatGPT บนโหมดสนทนาด้วยเสียงหรือ Advanced Voice Mode สามารถวิเคราะห์และโต้ตอบจากวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ นับเป็นการเปิดตัวฟีเจอร์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ในแคมเปญ...

Responsive image

Microsoft เปิดตัว Phi-4 โมเดล AI รุ่นใหม่ เน้นแก้โจทย์คณิตศาสตร์

Phi-4 ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Small Language Model (SLM) มีขนาด 14 พันล้านพารามิเตอร์ ซึ่งเล็กกว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง GPT-4 แต่ยังคงความรวดเร็วและต้นทุนการประมวลผลที่ต่ำกว่า และพร้...

Responsive image

เคอีเอ็กซ์ประกาศ การลาออกของซีอีโอ พร้อมตั้งผู้บริหารร่วม (Co-CEO) รับช่วงต่อ

บริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งประธ...