J&T Express บริการธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนทั่วประเทศ จัดงาน “J&T Express E-Commerce Launching 2019” ที่พร้อมสนับสนุนธุรกิจออนไลน์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย และสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในบริการขนส่งพัสดุด่วนที่คำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก อีกทั้งชูจุดแข็ง คือ เปิดบริการ 365 ไม่เว้นแม้วันหยุด จะอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน J&T Express พร้อมส่งพัสดุให้ถึงมือลูกค้า ด้วยหน้าร้านสาขาที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ 928 อำเภอ 77 จังหวัด และยังใช้กระบวนการขนส่งที่ให้รู้สึกถึงความปลอดภัย พร้อมด้วยระบบกล้อง CCTV รวมถึงการใช้สายพานในการลำเลียงพัสดุ ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า พัสดุจะถูกป้องกัน ไม่ให้เกิดความเสียหาย และสิ่งที่ยึดมั่นเป็นสำคัญ คือ การจัดส่งพัสดุอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ตรงเวลา ภายใต้สโลแกน “Express Your Online Business” สะดวกทันใจธุรกิจออนไลน์ และ J&T Express ยังขยายธุรกิจครอบคลุมทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ เป็นต้น
J&T Express ยังมีระบบติดตามพัสดุ ที่สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุและราคาค่าจัดส่งพัสดุได้ง่ายดาย สะดวกสบายแบบเรียลไทม์ ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ แอพพลิเคชั่น เว็บไซต์ ศูนย์บริการลูกค้า Call Center ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เช็คได้ทุกที่ทุกเวลา
นอกจากนี้ J&T Express ยังเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในยุคดิจิตัลด้วยความเข้าใจและเข้าถึงทุกความต้องการและเพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นหนึ่งในผู้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ในด้านการขนส่ง จึงได้จับมือร่วมกันกับ Shopee ผู้นำแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่าน Shopee เท่านั้น มุ่งหวังตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่มีการซื้อขายบนออนไลน์มากขึ้น โดยใช้ช่องทางออนไลน์ของ Shopee ทั้งแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ เพื่อเป็นการขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าให้ครอบคลุมและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิตัลมากยิ่งขึ้น โดยความร่วมมือ
ในครั้งนี้เป็นการต่อยอดธุรกิจของสองพันธมิตรเพื่อนำเสนอโซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรเพิ่มเติมให้กับกลุ่มลูกค้าของทั้งสองบริษัทให้มากที่สุด
บรูซ หลิว (BRUCE LIU) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย เปิดเผยว่า J&T express จดทะเบียนตั้งบริษัทในฮ่องกง เมื่อปี 2558 และเริ่มทำธุรกิจขนส่งในอินโดนีเซียจนกว่าขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของบริษัทขนส่งในอินโดนีเซีย ก่อนที่จะขยายไปให้บริการในเวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา และประเทศไทย โดยปัจจุบันมีสาขา 4,000 แห่ง ศูนย์กระจายสินค้ากว่า 200 แห่ง และมีพนักงานมากกว่า 50,000 คน ทั่วทั้งอาเซียน
โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เนื่องจากมีการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่สูง และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งหลังจากเข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10 ล้านบาท ล่าสุดได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 100 ล้านบาท และลงทุนในธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนในไทยแล้วเบื้องต้น 2,500 ล้านบาท วางเป้าหมายคืนทุนภายใน 5 ปีจากนี้ ซึ่งปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุม 928 อำเภอทั่วไทย โดยภายใน ปีนี้จะมี 1,000 สาขาทั่วไทย ศูนย์กระจายสินค้า 15 แห่งทั่วภูมิภาค มีพนักงานมากกว่า 10,000 คน รถขนส่งมากกว่า 1,000 คัน พร้อมทั้งวางเป้าหมายเป็นผู้นำธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนในธุรกิจอีคอมเมิร์ซเมืองไทยในระยะอันใกล้ด้วยจำนวนสาขาที่มากกว่าคู่แข่งรายอื่น
บรูซ หลิว กล่าวเพิ่มเติมว่า “วิสัยทัศน์ของบริษัทที่ใช้เป็นหลักคือ Express your online business ที่จะใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาบริการจัดส่งที่ดีให้กับลูกค้า ส่งง่ายนำจ่ายรวดเร็ว และได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของประเทศไทย มาริโอ้ เมาเร่อ เพื่อให้เห็นความตั้งใจที่บริษัทตั้งเป้าหมายจะเป็นบริษัทขนส่งสำหรับอีคอมเมิร์ซเบอร์หนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด