KBank เตรียมทุ่มงบเกือบแสนล้านบาท เน้นลงทุนในเทคและสตาร์ทอัพ ภายใน 3 ปี เพื่อเสริมแกร่งเครือข่ายบริการในภูมิภาค เพื่อส่งมอบบริการเข้าถึงผู้ใช้งานในท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยีแบบชาเลนเจอร์แบงก์ พร้อมประกาศความมุ่งมั่นรุกตลาดเวียดนามเต็มตัว เอาใจลูกค้าทุกเซกเมนต์ด้วยบริการดิจิทัล
คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้เตรียมงบประมาณกว่า 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 95,688 ล้านบาท (คิดที่ค่า 1 เหรียญ = 35.44 บาท) เน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เสริมทัพทีมงาน การลงทุนในสตาร์ทอัพ และเข้าซื้อกิจการ ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ภายใน 3 ปี เพื่อสร้างความรู้ความสามารถใหม่ ๆ รวมถึงสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ผสานด้วยดีเอ็นเอแห่งชาเลนเจอร์แบงก์ พร้อมส่งมอบบริการบนดิจิทัลสู่ผู้ใช้งานในท้องถิ่นได้อย่างคล่องตัวสูง ซึ่งจะทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3 โดยงบลงทุนดังกล่าวนั้นจะลงทุนในธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่ม EdTech HealthTech FinTech TravelTech และ ESGTech
สำหรับการขยายสู่ตลาดต่างประเทศอย่างภูมิภาค AEC+3 ธนาคารดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ Asset-Light Digital Banking Strategy ที่มุ่งเน้นรูปแบบการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ โดยลงทุนและร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพในท้องถิ่น ทำให้ธนาคารมีความรุดหน้าด้านเครือข่ายและเทคโนโลยีบริการที่ตรงใจผู้ใช้งานได้มากขึ้น
โดยมีกลยุทธ์การทำธุรกิจใน 3 แนวทาง ได้แก่
(1) รุกขยายสินเชื่อให้กับลูกค้าธุรกิจ (Aggressive Play) ทั้งลูกค้าที่เข้าไปลงทุนและลูกค้าท้องถิ่น
(2) ขยายฐานลูกค้าผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรของธนาคาร (Mass Acquisition Play) โดยเน้นการให้บริการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และต่อยอดไปสู่การเชื่อมต่อการทำธุรกรรมในระดับภูมิภาค ด้วยการเป็น Regional Payment Platform
(3) พัฒนาการให้บริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ (Disruptive Play) โดยเฉพาะการให้สินเชื่อดิจิทัล โดยใช้ Alternative Data ซึ่งทำให้ธนาคารเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Underbanked ซึ่งเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่ใน AEC+3 ได้มากขึ้นใน และสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจ Banking-as-a-Service (Baas) ได้
ด้านคุณพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายการให้บริการในต่างประเทศในกลุ่มประเทศ AEC+3 และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 16 แห่ง โดยมีสาขานครโฮจิมินห์เป็นสาขาล่าสุด มีสถาบันทางการเงินที่เป็นพันธมิตรกว่า 84 แห่งทั่วโลก เครือข่ายสตาร์ทอัพในภูมิภาคที่ธนาคารลงทุนและพันธมิตรรวมมากกว่า 20 ราย และมีฐานลูกค้าในภูมิภาคกว่า 1.85 ล้านคน
สำหรับเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตรวดเร็วที่สุดในอาเซียน เนื่องจากศักยภาพในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก ที่ผ่านมาแทบไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด19 มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่ำกว่า 60% ของ GDP และยังมีแนวโน้มเติบโตในระยะข้างหน้า คาดว่าภายในปี 2573 เวียดนามจะเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงและเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2588
โดยนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมเป้าหมายในการเป็น “ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี” แห่งใหม่ของเอเชีย ในขณะที่มีประชากรกว่า 100 ล้านคน มีอายุเฉลี่ยค่อนข้างน้อย ส่วนมากอยู่ในวัยทำงาน มีการเติบโตของชนชั้นกลางอย่างมีนัยสำคัญ โดยเห็นได้จากอัตราการเติบโตของการอุปโภคบริโภคที่ 7% ใน 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังเปิดกว้างต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายทางดิจิทัล โดยพบว่าประชากรเวียดนามมากกว่า 50% ซื้อสินค้าออนไลน์
ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยจะเป็นธนาคารต่างชาติแห่งแรกที่นำ “ดิจิทัล โปรดักส์ โซลูชัน” เต็มรูปแบบ ให้บริการลูกค้าทุกเซกเมนต์ ทั้งกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นและต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้ง ธุรกิจบริการ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจอุตสาหกรรม และลูกค้าบุคคลและธุรกิจขนาดเล็ก โดยผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อบุคคล และระบบการรับชำระเงิน โดยนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีของธนาคารในฐานะผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งและโมบายแบงกิ้งของไทย ไปต่อยอดการพัฒนาบริการให้แก่ลูกค้าในเวียดนาม
ทั้งการใช้ K PLUS Vietnam เป็นแกนหลักในการสร้าง Digital Lifestyle Ecosystem ให้แก่ลูกค้าบุคคล เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าได้ทั่วประเทศ และการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อดิจิทัล โดยเริ่มจาก KBank Biz Loan ที่ให้สินเชื่อแก่ร้านค้าขนาดเล็ก โดยเน้นการเข้าถึงลูกค้าผ่านทางพันธมิตรและแพลตฟอร์มท้องถิ่นผ่านการลงทุนของ KASIKORN VISION ซึ่งเป็นบริษัททำหน้าที่ด้านการลงทุนของธนาคาร และการตั้ง KBTG Vietnam เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการทั้งในเวียดนามและในภูมิภาค
และธนาคารเชื่อมั่นว่าจะสามารถเชื่อมต่อบริการธนาคารสู่ลูกค้าท้องถิ่นในเวียดนามได้ในวงกว้าง สะดวก รวดเร็ว และตรงความต้องการ ตั้งเป้าหมายลูกค้าบุคคลเวียดนาม 1.2 ล้านรายในปีหน้า พร้อมขยายผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
** ทาง KBank ขอแก้ไขข้อมูล จากเดิมที่ ธนาคารได้เตรียมงบประมาณกว่า 2,700 ล้านบาท เป็น 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ (update 17 Aug 2022)
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด