
ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก King's College London ประเทศอังกฤษ ได้ค้นพบความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยพบว่า "เคราติน" ซึ่งเป็นโปรตีนสกัดจากขนแกะ สามารถช่วยปกป้องและซ่อมแซมฟันของมนุษย์ได้ และอาจถูกนำมาใช้ในคลินิกทันตกรรมในอนาคตอันใกล้นี้
งานวิจัยชิ้นใหม่ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ในวารสาร Advanced Healthcare Materials ระบุว่า การรักษาทางทันตกรรมที่ใช้เคราตินจากขนแกะหรือเส้นผมอื่นๆ สามารถนำมาใช้เคลือบฟันเพื่อซ่อมแซมชั้นเคลือบฟัน (Enamel) และป้องกันฟันผุได้
นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสกัดเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่พบได้ในเส้นผม ผิวหนัง และเล็บ ออกจากขนแกะ จากนั้นนำไปเคลือบบนฟัน และพบว่าสารดังกล่าวสามารถสร้างชั้นเคลือบป้องกันที่มีลักษณะคล้ายคริสตัล ซึ่งเลียนแบบเคลือบฟันตามธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง
ทีมวิจัยเชื่อว่าการค้นพบนี้จะนำไปสู่การรักษาฟันผุในระยะเริ่มต้นที่ยั่งยืนและมีต้นทุนต่ำได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า "เคราตินถือเป็นทางเลือกใหม่ที่พลิกโฉมการรักษาทางทันตกรรมในปัจจุบัน" Sara Gamea นักวิจัยด้านทันตกรรมจาก King's College London หนึ่งในผู้ร่วมวิจัยกล่าว "ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งที่ยั่งยืนจากวัสดุชีวภาพเหลือใช้ เช่น เส้นผมและผิวหนัง แต่มันยังช่วยลดการใช้เรซินพลาสติกแบบดั้งเดิมที่ใช้กันทั่วไปในการบูรณะฟัน ซึ่งเป็นพิษและมีความทนทานน้อยกว่า นอกจากนี้ เคราตินยังดูเป็นธรรมชาติมากกว่า เพราะสามารถเข้ากับสีของฟันเดิมได้ดีกว่า"
ปัจจุบัน ภาวะฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษาถือเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบบ่อยที่สุดในโลก ส่งผลกระทบต่อประชากรราว 2 พันล้านคนทั่วโลก เมื่อเวลาผ่านไป อาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด การดูแลสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดีพอ และการสึกหรอในชีวิตประจำวัน สามารถทำลายชั้นเคลือบฟันที่ปกป้องฟันของเราได้ ซึ่งการสูญเสียชั้นเคลือบฟันจะนำไปสู่การปวดฟัน ฟันผุ และการสูญเสียฟันในที่สุด "เคลือบฟันไม่เหมือนกับกระดูกและเส้นผม มันไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ เมื่อมันหายไป ก็จะสูญเสียไปตลอดกาล" Sherif Elsharkawy นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมประดิษฐ์กล่าว
เพื่อทดสอบว่าการรักษาด้วยเคราตินจะสามารถช่วยยับยั้งฟันผุและซ่อมแซมเคลือบฟันได้หรือไม่ ทีมวิจัยได้เริ่มจากการสกัดเคราตินจากเส้นใยขนแกะ แล้วนำมาผสมกับน้ำจนเกิดเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ หลังจากนำฟิล์มเคราตินไปเคลือบบนตัวอย่างฟัน พวกเขาพบว่ามันสามารถสร้างชั้นเคลือบที่แข็งแรง มีการเรียงตัวเป็นระเบียบคล้ายคริสตัล และมีลักษณะคล้ายกับเคลือบฟันชีวภาพเมื่อสัมผัสกับแร่ธาตุในน้ำลาย ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน ชั้นเคลือบนี้ยังสามารถดึงดูดไอออนของแคลเซียมและฟอสเฟต เพื่อสร้างชั้นป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นบนผิวฟัน
ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังสำรวจช่องทางในการนำการรักษาด้วยเคราตินนี้มาสู่สาธารณะ ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของยาสีฟันเคราตินสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน หรือสารเคลือบฟันโดยทันตแพทย์ในคลินิก และอาจมีวางจำหน่ายภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
"เรากำลังเข้าสู่ยุคที่น่าตื่นเต้นของเทคโนโลยีชีวภาพ ที่ไม่เพียงแต่รักษาตามอาการ แต่ยังสามารถฟื้นฟูการทำงานทางชีวภาพโดยใช้วัสดุจากร่างกายเอง" เอลชาร์คาวีกล่าวปิดท้าย "ด้วยการพัฒนาเพิ่มเติมและความร่วมมือที่เหมาะสมกับภาคอุตสาหกรรม เราอาจจะได้เห็นการสร้างรอยยิ้มที่แข็งแรงและสุขภาพดีขึ้นจากสิ่งที่เรียบง่ายอย่างการตัดผมในไม่ช้า"
ที่มา: Livescience
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด