กรุงศรีฯ เผยภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2020 ยังคงชะลอตัว ปรับลดประมาณการณ์ GDP ลง ย้ำไม่ถึงขั้นวิกฤตและรับมือได้ ชี้ส่งออกโตน้อยลง ภาคการผลิตยังอยู่ได้แต่อาจไม่ลงทุน ด้านการท่องเที่ยงโตขึ้นจากปัจจัยความมั่นคงระยะยาว ส่วนภาครัฐมองว่ายังเพิ่มการอุดหนุนได้อีก ทั้งนโยบายการเงินและการคลัง

ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกตอนนี้กำลังอยู่ในภาวะถดถอยเพิ่มขึ้นด้วยปัจจัยหลากหลายทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ สถานการณ์นี้ส่งผลให้เศรษบกิจไทยชะลอตัวอย่างน้อยอีก 2-3 ไตรมาสนับจากไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 ทั้งนี้ คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังคงทรงตัวไปได้ แต่ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกอยุ่บ้าง

ทั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงระดับโลกในปี 2020 ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก คือการปรับนโยบายของผู้ดูแลด้านการเงินในประเทศต่างๆ เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ดำเนินไปได้ แต่ขณะเดียวกัน ก็มีสิ่งที่น่ากังวลคือการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการค้าของประเทศต่างๆ ที่ยังดำเนินอยู่ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับไทยในฐานะประเทศผุ้ส่งออกสินค้า รวมถึงความไม่แน่นอนของเหตุการณ์ Brexit

ด้านปัจจัยภายใน ถือว่าไทยยังมีข้อได้เปรียบอยู่ ทั้งการอนุมัติงบประมาณประจำปี 2020 ที่ผ่านเรียบร้อย สร้างความน่าเชื่อถือแก่นักลงทุนและภาคธุรกิจ การย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยซึ่งส่งผลดีกับ SME และการจ้างงานในประเทศ ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนทางการเมือง อุปทานที่อยู่ส่วนเกิน ไปจนถึงภัยธรรมชาติยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ต้องระวัง

ด้านอุตสาหกรรมของไทย ดร.สมประวิณ เผยว่า อุตสาหกรรมหลักของไทยอย่างการส่งออกยังทรงตัว โดยแม้มีปัจจัยลบลดลงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนา แต่การค้าโลกยังคงอ่อนแอโดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วที่มีแนวโน้มซื้อสินค้าน้อยลง อีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าจับตาคือภาคท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์ระยะสั้นจากเหตุการณ์ที่ฮ่องกงทำให้นักท่องเที่ยวเลือกมาไทยแทน ส่วนในระยะยาวนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2 เท่า จึงอาจเป็นสัญญาณที่ดีในการลงทุน

ด้านการลงทุนภาคเอกชน ดร.สมประวิณ ชี้ว่าปี 2020 อาจจะยังไม่เห็นการลงทุนใหม่มากนัก เนื่องจากปีนี้ยังไม่มีการผลิตจนเกินกำลังการผลิต ส่วนการบริโภค กลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำยังคงได้รับผลกระทบอยู่

ด้านการใช้จ่ายภาครัฐและนโยบาย ระบุว่าการกระตุ้นทางการคลังยังไม่มากพอจะชดเชยการส่งออกที่หดตัวลง แต่โดยภาพรวมแล้วยังคงช่วยประคองเศรษฐกิจของประเทศช่วงขาลงได้ การลดดอกเบี้ยช่วยผ่อนคลายตลาดการเงินลงได้ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีงบประมาณมาช่วยพยุงในไตรมาสแรกของปี 2020 เยอะขึ้น

ด้านตัวเลขสำคัญต่างๆ ทางกรุงศรีประเมินว่า GDP ในปี 2020 จะโตที่ 2.5 เปอร์เซ็นต์ การใช้จ่ายของเอกชนจะเพิ่มขึ้น 3.5 เปอร์เซ็นต์ การใช้จ่ายของภาครัฐเพิ่มขึ้น 2.4 เปอร์เซ็นต์ การลงทุนภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์ และการลงทุนสาธารณะอยู่ที่ 3.0 เปอร์เซ็นต์