ข่าวล่าสุดเปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กำลังอยู่ระหว่างขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดบริษัทลูก กรุงศรี ฟินโนเวท (Krungsri Finnovate) เพื่อร่วมลงทุน (เวนเจอร์ แคปปิตอล) กับผู้ประกอบการฟินเทค
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า
วงเงินตั้งต้น 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,080 ล้านบาท) รองรับการร่วมลงทุนในระยะแรก 3 ปี ในกองทุนฟินเทค (Fund of Fund) ที่อยู่ระหว่างเจรจาใน 3 กองทุนใหญ่ ทั้งในเอเชียและในไทย โดย 2 กองทุนจะเป็นฟินเทคด้านระบบชำระเงิน และอีกหนึ่งกองทุนเป็นด้านเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวกับระบบประมวลผลข้อมูลอัจฉริยะ
ทั้งนี้ กลยุทธ์ด้านดิจิทัลและนวัตกรรมของธนาคารมี 11 เทคโนโลยีเป้าหมาย ที่อยู่ในกระบวนการพัฒนา คาดว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมภายในปี 2560 คือ
1. การร่วมลงทุน
2. การเชื่อมต่อระบบอัจฉริยะสำหรับโมบายแบงก์กิ้ง (Smart API)
3. บล็อกเชน
ธนาคารมีแผนนำมาใช้ในธุรกิจ 3 ด้าน คือ สมาร์ทคอนแทรกต์ เทรดไฟแนนซ์ และการโอนเงินระหว่างประเทศ ที่จะร่วมพัฒนากับพันธมิตร
4. แพลตฟอร์มโมบายแบงก์กิ้งแบบใหม่
5. แอพพลิเคชั่นสำหรับพร้อมเพย์
6. แพลตฟอร์มการปล่อยสินเชื่อผ่านดิจิทัล (Digital Lending Platform)
7. ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
จะใช้ในการสื่อสารขั้นต้นกับลูกค้าอัตโนมัติที่เรียกว่า Chat Bot ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก หรือไลน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบระบบ
8. หุ่นยนต์ที่ปรึกษา (Robo Advisory)
9. การพิสูจน์ตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (E-KYC)
10. การกระตุ้นองค์กรเปลี่ยนวัฒนธรรมสู่ดิจิทัล (Krungsri Ignite)
11. กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และระบบชำระเงินแบบภาพรหัส (e-Wallet & QR Payment)
ด้านการเปลี่ยนแพลตฟอร์มโมบายแบงก์กิ้งจะมีการเพิ่มฟีเจอร์บริการครบวงจรให้ลูกค้ารายย่อย และแยกแอพผู้ใช้พร้อมเพย์ออกมา รองรับลูกค้าที่ไม่ต้องการใช้โมบายแบงก์กิ้งเต็มรูปแบบ
ด้านการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลนั้น ระบบคืบหน้าแล้ว 70-80% เริ่มนำร่องสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยผู้กู้สามารถยื่นคำขอ พร้อมถ่ายรูปหรือแนบเอกสารหลักฐาน เช่น บัตรประชาชน เอกสารรายได้ ข้อมูลเครดิต ประกอบการขอสินเชื่อได้ จากนั้นระบบจะใช้เวลาส่งข้อมูล จนถึงขั้นตอนอนุมัติและโอนเงินเข้าบัญชีลูกค้า จบในเวลาเพียง 15 นาที
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด